๑๙. กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา
ปจฺจยปริคฺคหกถาวณฺณนา
๖๗๘. อนนฺตรนิทฺทิฏฺฐาย ‘‘เอตสฺเสวา’’ติ วุตฺตํ, น ตทญฺญโต วิเสสนตฺถํ ตทญฺญสฺเสว อภาวโตฯ อชฺฌตฺตํ วา หิ วิปสฺสนาภินิเวโส โหตุ พหิทฺธา วา, อชฺฌตฺตสิทฺธิยํ ปน ลกฺขณโต สพฺพมฺปิ นามรูปํ อนวเสสโต ปริคฺคหิตเมว โหตีติฯ ปจฺจยปริคฺคเหนาติ เหตุมฺหิ กรณวจนํฯ ปจฺจยปริคฺคหเหตุ หิสฺส อทฺธตฺตยกงฺขาวิตรณํ โหตีติ, กรเณ วา เอตํ กรณวจนํ ปจฺจยปริคฺคหสฺส สาธกตมภาวโต กงฺขาวิตรณกิริยายฯ ยทา หิสฺส สุปริสุทฺโธ นิชฺชโฏ นิคฺคุมฺโพ ปจฺจยปริคฺคโห สิชฺฌติ, ตทาเนน กงฺขา วิตรียตีติฯ วิตริตฺวาติ อติกฺกมิตฺวา, วิกฺขมฺเภตฺวาติ อตฺโถฯ ตํ ปน ญาณํ ตถาธิคตํ วสีภาวปฺปตฺตํ ฌานํ วิย โยคิโน สนฺตาเน ปพนฺธวเสน ปวตฺตตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ฐิตํ ญาณ’’นฺติฯ
ตนฺติ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิํฯ ตํ สมฺปาเทตุกาโม อาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธฯ ยาถาวโต ทิฏฺฐํ นามรูปํ ติวิธทุกฺขตาโยคโต โรโค วิยฯ ปจฺจยา จสฺส โรคสมุฏฺฐานํ วิย อุปฏฺฐหนฺตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นาม…เป.… ปริเยสตี’’ติ อาหฯ สํสารทุกฺขนิมุคฺคสฺส สนฺตานสฺส ตโต วิโมเจตุกามตาวเสน อนุกมฺปิตพฺพตา ลพฺภตีติ ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอวเมว ฐิเต ยเทเก วทนฺติ ‘‘อนุกมฺเปตพฺพกุมารกทสฺสเนน ตสฺส มาตาปิตุอาวชฺชนํ อิธ อนุทาหรณํ นิโรเธตพฺพตาย นามรูปสฺส อนุกมฺปิตพฺพตาภาวโต’’ติ, ตทปาหตํ โหติฯ อวสฺสญฺเจตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อญฺญถา เวเนยฺยปุคฺคลสนฺตาเน สตฺถุ มหากรุณาปวตฺติ เอว วิจาเรตพฺพา สิยาฯ มนฺทพุทฺธิตาย มนฺทํฯ วุฑฺฒตโรปิ โกจิ มนฺทพุทฺธิ โหตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘กุมาร’’นฺติ วุตฺตํฯ โย โกจิ ปฐมวเย วตฺตมาโน ‘‘กุมาโร’’ติ วุจฺจตีติ ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ทหร’’นฺติ วุตฺตํฯ เอวมฺปิ โย อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา วิจารณโก ตรุณทารโก, โสปิ ‘‘อุตฺตานเสยฺยก’’นฺติ วุตฺตํฯ จตูหิปิ ปเทหิ กรุณายิตพฺพตํเยว ทสฺเสติฯ อาปชฺชตีติ กโรติฯ
ยถา ปนสฺส เหตุปจฺจยปริเยสนาปตฺติ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ พฺยติเรกมุเขน อตฺโถ สาธิโต สมฺมเทว สาธิโต โหตีติ อเหตุกภาวํ ตาว ปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘น ตาวิทํ นามรูปํ อเหตุก’’นฺติ วตฺวา ตตฺถ การณมาห ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินาฯ เหตุมนฺตเรน สติ สมฺภเว สพฺพธมฺมานํ เหตุอภาโว สมาโนติ สพฺพสมานตา สิยา, ตถา จ สติ โสตปเทสาทีสุ, พหิทฺธา จ จกฺขุวิญฺญาณาทิเหตุอภาโวติ สพฺพตฺถ, จกฺขาทีนํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ, ปริเภทโต อุทฺธญฺจ เหตุอภาโวติ สพฺพทา จ อนฺธาทีนํ อรูปีนํ, อสญฺญีนญฺจ เหตุอภาโวติ สพฺเพสญฺจ จกฺขุวิญฺญาณาทีหิ ภวิตพฺพํ, เหตุอภาวา วิเสสโต ตญฺจ นตฺถีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺเพสญฺจ เอกสทิสภาวาปตฺติโต’’ติฯ นิทสฺสนมตฺตญฺเจตํ ยทิทํ ‘‘จกฺขุวิญฺญาณาทีสุ หี’’ติฯ ยตฺตกา โลเก วิเสสา, เตหิ สพฺเพสํ, สพฺพกาลญฺจ ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ อาทิ-สทฺเทน วา เตสมฺปิ คหณํ กตเมวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ ตสฺมา อเหตุกภาเว วิสิฏฺฐตาย อสมฺภโว เอวาติ สพฺพตฺถ เอกสทิสภาวาปตฺติโต, สพฺพทา เอกสทิสภาวาปตฺติโต, สพฺเพสํ เอกสทิสภาวาปตฺติโตติ ปจฺเจกํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพฯ เอวํ อเหตุภาเว ปฏิสิทฺเธ วิสมเหตุวาที วเทยฺย ‘‘น อิทํ อเหตุกํ กิญฺจรหิ สเหตุกํ, เกน ปน เหตุนา สเหตุกนฺติ? อิสฺสราทินา’’ติฯ
อาทิ-สทฺเทน ปกติปุริสปชาปติกาลาทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘น อิสฺสราทิเหตุก’’นฺติอาทิฯ น นามรูปํ อิสฺสราทิเหตุกํ นามรูปโต อญฺญสฺส อนุปลพฺภมานตฺตา อิสฺสรปกติอาทินเมว อภาวโตฯ ยทิ ปน อสโต อิสฺสราทิโต นามรูปสฺส อุปฺปตฺติ, เอวํ สติ สา เอว สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺเพสํ เอกสทิสตา อาปชฺชติฯ อถ นามรูปมตฺตเมว อิสฺสราทิเหตุกํ, นามรูปญฺจ อหุตฺวา สมฺภวนฺตํ, หุตฺวา จ วินสฺสนฺตํ ทิสฺสตีติ อิสฺสราทีหิปิ ตาทิเสหิ ภวิตพฺพํฯ ตถา จ ตทปิ สปฺปจฺจยํ สงฺขตเมวาติ ตสฺสาปิ ปจฺจยปริคฺคโห กาตพฺโพฯ อถ ‘‘อเหตุกภาวาปตฺติโต’’ติฯ
อปิจ น อิสฺสราทิเหตุกํ นามรูปํฯ กิํ การณํ? กเมน อุปฺปตฺติโตฯ ยทิ หิ เอวํ นิจฺจํ
อถาปิ สคฺโค เอวํ อิสฺสราทิเหตุโก วุจฺเจยฺย, โสปิ สคฺคปฺปกาโร สพฺพกาลํ ตโต นิพฺพตฺเตยฺยฯ น หิ สนฺนิหิตการณสฺส ผลสฺส อนุปฺปตฺติ ยุตฺตาฯ นิจฺเจ จ สติ อญฺญนิรเปกฺขการเณ สคฺคสฺส อาทิเยว น ยุตฺโต, ยาว อิสฺสราทิกํ การณํ, ตาว สพฺพสฺส อตฺถิภาวปฺปสงฺคโตฯ อถาปิ วเทยฺย ‘‘อญฺเญปิ ยถารหํ ปจฺจยา โหนฺติเยว, อิสฺสราทิกมฺปิ เตสํ สหการีการณํ โหตี’’ติฯ ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺฐา วุตฺตเมวฯ ยทิ ปโร วเทยฺย ‘‘อิธ พุทฺธิปุพฺโพ ภาวานํ รจนาวิเสโส ทิฏฺโฐ, ยถา ตํ ฆฏเคหาทีนํฯ อตฺถิ จ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ สรีรปทุมาทีนํ รจนาวิเสโส, ตสฺมา เตนาปิ พุทฺธิปุพฺเพน ภวิตพฺพํฯ ยสฺส จ โส พุทฺธิปุพฺโพ, โส อิสฺสราทิโก, ตสฺมา เตน นามรูปสญฺญิตสฺส โลกสฺส การเณน ภวิตพฺพ’’นฺติฯ ตยิทํ อสิทฺธํ, รจิตา สรีรปทุมาทโยติ
ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา อิทํ นามรูปํ น อเหตุกํ, นาปิ อิสฺสราทิวิสมเหตุกํ, ตสฺมาฯ เตติ เหตุปจฺจยาฯ
๖๗๙. โอฬาริกตฺตา, สุปากฏตฺตา จ รูปสฺส ปจฺจยปริคฺคโห สุกโรติ ‘‘อิมสฺส ตาว รูปกายสฺสา’’ติอาทินา ปฐมํ ตสฺส ปจฺจยปริคฺคหวิธิํ อารภติฯ ตตฺถ ยถา นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคโห อเหตุวิสมเหตุวาทนิวตฺติยา โหติ, เอวํ นิพฺพิทาวิราคาวหภาเวน ตตฺถ อภิรตินิวตฺติยาปิ อิจฺฉิตพฺโพติ ตํ คพฺภเสยฺยกวเสน ทสฺเสนฺโต นิพฺพตฺตฏฺฐานสฺส สุจิภาวปฏิเสธนมุเขน อสุจิภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘อยํ กาโย’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อุปฺปลาทีนิ อสุจิฏฺฐาเน นิพฺพตฺตานิปิ
‘‘ยถา สงฺการธานสฺมิํ, อุชฺฌิตสฺมิํ มหาปเถ;
ปทุมํ ตตฺถ ชาเยถ, สุจิคนฺธํ มโนรม’’นฺติฯ (ธ. ป. ๕๘);
‘‘นิพฺพตฺตตี’’ติ อิทํ มาตุกุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ รูปกายสฺส นิพฺพตฺตนสามญฺญโต คเหตฺวา วุตฺตํ, น ปฐมาภินิพฺพตฺติมตฺตํฯ เอวญฺจ กตฺวา อาหารสฺส อุปตฺถมฺภกปจฺจยตาวจนํ, อุทรปฏลสฺส ปจฺฉโต กรณาทิวจนํ, ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลตาวจนญฺจ สมตฺถิตํ โหติฯ เอวมวฏฺฐิเต ยเทกจฺเจหิ ปิฏฺฐิโต, ปุรโต จ กรณํ กิํ สิยา ปฏิสนฺธิกาเลติอาทิ วุตฺตํ, ตํ ‘‘นิพฺพตฺตกตฺตา’’ติ อิมินา พีชํ วิย องฺกุรสฺส อวิชฺชาทโย รูปกายสฺส อสาธารณการณตาย เหตูติ ทสฺเสติฯ ‘‘อุปตฺถมฺภกตฺตา’’ติ อิมินา ปน องฺกุรสฺส ปถวีสลิลปาริสิอาทโย วิย อาหาโร สาธารณการณตาย ปจฺจโยติ ทสฺเสติฯ
ปญฺจ ธมฺมา เหตุปจฺจยาติ อวิชฺชาทโย ปญฺจ ธมฺมา ยถารหํ เหตุ จ ปจฺจโย จาติ อตฺโถฯ ภเวสุ วิชฺชมานโทสปฏิจฺฉาทนปตฺถนา ทฬฺหคฺคาหภาเวน สงฺขารภวานํ เหตุภูตา ชนกสหายตาย ภวนิกนฺติ ตํสหชาตอาสนฺนการณตฺตา อภิสงฺขาริกา, อปสฺสยภูตา จาติ ‘‘มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา’’ติ วุตฺตาฯ ยถา ปิตุ ชนิตสุกฺเก ปุตฺตสฺส อุปฺปตฺตีติ ปิตา ชนโก, เอวํ กมฺมํ สตฺตสฺส อุปฺปาทกตฺตา ชนกํ วุตฺตํฯ ยถา ธาติ ชาตสฺส ทารกสฺส โปสนวเสน สนฺธาริกา, เอวํ อาหาโร อุปฺปนฺนสฺส กายสฺสาติ สนฺธารโก วุตฺโตฯ
กามญฺเจตฺถ อวิชฺชาทโย นามกายสฺสาปิ ปจฺจโย, ปการนฺตเรน ปน ตสฺส ปากฏํ ปจฺจยปริคฺคหวิธิํ ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ จกฺขุญฺจาติ จ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถฯ เตน จกฺขุวิญฺญาณสฺส อาวชฺชนาทิอชฺฌตฺตํ สพฺพํ ปจฺจยชาตํ สงฺคณฺหาติฯ รูเป จาติ ปน จ-สทฺเทน ยถา พหุลํ พาหิรรูปํ จกฺขุวิญฺญาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย, เอวํ อญฺญมฺปิ พาหิรํ ปจฺจยชาตํ สงฺคณฺหาติฯ ปฏิจฺจาติ ปจฺจยภูตํ อาทิ-สทฺเทน จ ผสฺสาทีนํ วิย สหปจฺจเยหิ โสตวิญฺญาณาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทิปาฐสฺส (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๑, ๔๒๕-๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗) วิย ‘‘โสตญฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิปาฐสฺส สงฺคหิตตฺตาฯ เอวํ สมฺมสนุปคํ สพฺพํ นามํ สหปจฺจเยน สงฺคหิตํ โหติฯ เตนาห ‘‘นามกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรตี’’ติฯ
ปวตฺติํ ทิสฺวาติ เอตรหิ ปวตฺติํ ทิสฺวาฯ เอวนฺติ อิมินา น เกวลํ สปฺปจฺจยตามตฺตเมว ปจฺจามฏฺฐํ, อถ โข ยาทิเสหิ ปจฺจเยหิ เอตรหิ ปวตฺตติ, ตาทิเสหิ อวิชฺชาทิปจฺจเยเหว อตีเตปิ ปวตฺติตฺถาติ ปจฺจยสทิสตาปิ ปจฺจามฏฺฐาติ ทฏฺฐพฺพํฯ
๖๘๐. ปุพฺพนฺตนฺติ อารพฺภาติ อุทฺทิสฺสฯ อโหสิํ นุ โข, น นุ โข อโหสินฺติ สสฺสตาการํ, อธิจฺจสมุปฺปตฺติอาการญฺจ นิสฺสาย อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตญฺจ กงฺขติฯ กิํ นุ โข อโหสินฺติ ชาติลิงฺคูปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย นุ โข อโหสิํ, พฺราหฺมณาทีสุ คหฏฺฐาทีสุ เทวาทีสุ อญฺญตโร นุ โข’’ติ กงฺขติฯ กถํ นุ โขติ สณฺฐานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีโฆ นุ โข อโหสิํ, รสฺสโอทาตกาฬปมาณิกอปฺปมาณิกาทีนมฺปิ อญฺญตโร’’ติ กงฺขติฯ อิสฺสรนิมฺมานาทิํ นิสฺสาย ‘‘เกน นุ โข ปกาเรน อโหสิ’’นฺติ นิพฺพตฺตาการโต กงฺขตีติ จ วทนฺติฯ กิํ หุตฺวา กิํ อโหสินฺติ ชาติอาทิํ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมโณ อโหสิํ…เป.… เทโว หุตฺวา นุ โข มนุสฺโส อโหสิ’’นฺติ อตฺตโน อปราปรุปฺปตฺติํ กงฺขติฯ สพฺพตฺเถว จ อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนํฯ ภวิสฺสามิ นุ โขติ สสฺสตาการํ, อุจฺเฉทาการญฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตญฺจ กงฺขติฯ เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมวฯ เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานนฺติ อิทานิ วา ปฏิสนฺธิมาทิํ กตฺวา จุติปริยนฺตํ สพฺพมฺปิ วตฺตมานกาลํฯ อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหตีติ อตฺตโน ขนฺเธสุ วิจิกิจฺฉา โหติฯ อหํ นุ โขสฺมีติ อตฺตโน อตฺถิภาวํ กงฺขติฯ อยุตฺตํ โน นุ โขสฺมีติ อตฺตโน นตฺถิภาวํ กงฺขติฯ กิํ นุ โขสฺมีติ ขตฺติโยว สมาโน อตฺตโน ขตฺติยภาวํ กงฺขติฯ เอส นโย เสเสสุฯ กถํ นุ โขสฺมินฺติ วุตฺตนยเมวฯ เกวลญฺเหตฺถ ‘‘อพฺภนฺตเร ชีโว นาม อตฺถี’’ติ คเหตฺวา ตสฺส ทีฆาทิภาวํ กงฺขนฺโต ‘‘กถํ นุ โขสฺมิ’’นฺติ กงฺขตีติ เวทิตพฺโพฯ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปน อตฺตโน สรีรสณฺฐานํ อชานนฺโต นาม นตฺถิฯ กุโต อาคโต, โส กุหิํ คามี ภวิสฺสตีติ อตฺตภาวสฺส อาคติคติฏฺฐานํ กงฺขติฯ สา สพฺพาปิ ปหียตีติ สา ยถาวุตฺตา โสฬสวิธาปิ วิจิกิจฺฉา วิกฺขมฺภนวเสน ปหียติฯ
๖๘๑. กุสลาทิเภทโต สพฺพปฺปการสฺสาปิ นามสฺส สาธารโณ ปจฺจโยติ, ตโต ปวตฺติโต มนสิการาทิโก กุสลาทิเภทโต สพฺพปฺปการสฺสาปิ นามสฺส อสาธารโณ ปจฺจโยติ จ โยเชตพฺพํฯ กุสลาทิเภทโตติ กุสลากุสลวิปากกิริยเภทโตฯ ตสฺสาปิ โสมนสฺสสหคตาทิอญฺญตรเภทวเสน สพฺพปฺปการสฺสาปิฯ ยํ เอกนฺตโต ฉทฺวาริกํ, ตมฺปิ ฉทฺวารคฺคหเณเนว คหิตํ ยถา ฉฏฺฐารมฺมณํ ฉฬารมฺมณคฺคหเณนาติปิ วุตฺตํ ‘‘สพฺพปฺปการสฺสาปี’’ติฯ ตโตติ จกฺขุรูปาทิโตฯ มนสิการาทิโกติ โยนิโสมนสิการอโยนิโสมนสิการาทิโก ‘‘โยนิโสมนสิการสทฺธมฺมสฺสวนาทิโก กุสลสฺเสวา’’ติ วุตฺตํฯ อาทิ-สทฺเทน สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส, จตุนฺนมฺปิ วา สมฺปตฺติจกฺกานํ สงฺคโห ทฏฺฐพฺโพฯ วิปรีโต อกุสลสฺสาติ วจนโต ยถา โยนิโสมนสิการาทิวิปรีโต อกุสลสฺเสว กมฺมาทิโกติ อาทิ-สทฺเทน อวิชฺชาทโย วิย คติกาลาทโยปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺฐพฺพาฯ ภวงฺคาทิโกติ ภวงฺคสนฺตีรณปริตฺตกิริยารหตฺตาทิโกฯ ตตฺถ ภวงฺคํ ปญฺจทฺวารมโนทฺวาราวชฺชนกิริยานํ, สนฺตีรณํ โวฏฺฐพฺพนสฺส, ปริตฺตกิริยา ยถารหํ ปริตฺตมหคฺคตกิริยานํ, อรหตฺตํ อาวชฺชนวชฺชานํ สพฺพกิริยานํ ปจฺจโยติ เวทิตพฺพํฯ
กมฺมนฺติ เจตนาว อธิปฺเปตา, สา จ โข กุสลากุสลาฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘กุสลากุสลเจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ, กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. ๑.๑.๔๒๗)ฯ น จิตฺตํ วิย สสมฺปยุตฺตาฯ จิตฺตญฺเหตฺถ สสมฺปยุตฺตํ อธิปฺเปตํ ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ, ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิวจนโต (ปฏฺฐา. ๑.๑.๑)ฯ ตตฺถาติ เตสุ กมฺมาทีสุ รูปชนกปจฺจเยสุฯ อตีตโต เอว กมฺมโต ผลํ อุปฺปชฺชติ, น วตฺตมานโตติ วุตฺตํ ‘‘กมฺมํ อตีตเมว กมฺมสมุฏฺฐานสฺส รูปสฺส ปจฺจโย’’ติฯ ยทิ หิ ปจฺจุปฺปนฺนโต กมฺมโต ผลํ อุปฺปชฺเชยฺย, อายูหนกฺขเณ เอว ผเลน อุปฺปชฺชิตพฺพํ ภเวยฺย, น จ ตํ ทิฏฺฐมิจฺฉิตํ วาฯ น หิ โลเก กุทาจนํ กริยมานเมว กมฺมํ ผลํ เทนฺตํ ทิฏฺฐํ, ตถารูโป วา อาคโม อตฺถีติฯ นนุ จ อิทมปิ น ทิฏฺฐํ, ยํ วินฏฺฐโต เหตุโต ผลํ อุปฺปชฺชมานํ, มโต วา กุกฺกุโฏ วสฺสนฺโตติ? สจฺจมทิฏฺฐํ รูปธมฺมานํ ปพนฺธวิจฺเฉเท, อิทํ ปน อรูปํ ปพนฺโธปิ อตฺถีติ อุปมา น สํสนฺทติฯ กมฺมโต หิ อตีตโต ‘‘จิตฺตํ จิตฺตสมุฏฺฐานสฺส อุปฺปชฺชมาน’’นฺติฯ รูปสฺส ปจฺจโย โหตีติ สมฺพนฺโธฯ ยสฺมา ปน รูปสฺส ฐิติกฺขเณ พลวตา ปจฺฉาชาตาทิปจฺจยลาภโต, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุตุอาหารา…เป.… โหนฺตี’’ติ, พาหิรํ อุตุํ, อาหารญฺจ ปจฺจยํ ลภิตฺวา อตฺตโน ฐิติกฺขเณ อุตุอาหารา รูปํ ชเนนฺตีติ อตฺโถฯ
เอวนฺติ
๖๘๒. สงฺขารานนฺติ สงฺขตสงฺขารานํฯ ภงฺคนฺติ มรณํฯ ชรามรณํ นาม ชาติยา สตีติอาทิ ผลทสฺสนานุปุพฺพิยา เหตุทสฺสนกฺกเมน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคโห สุกโรติ กตฺวา ทสฺสิโตฯ ตตฺถ ภเว สตีติ กมฺมภเว สติฯ
๖๘๓. ปุพฺเพ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิตอนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสนาติ ปริโยสานโต ปฏฺฐาย ปฏิโลมนเยน อาทิปาปนวเสน วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิตอนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสนฯ ‘‘อสติ ชาติยา นตฺถิ ชรามรณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๔) หิ ปฏิโลมวเสน ทสฺสิเต ปจฺจยากาเร ‘‘ยสฺส อภาวา ยสฺส อภาโว, โส ตสฺส ปจฺจโย’’ติ พฺยติเรกโต, อนฺวยโต จ นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคโห สุกโรติฯ
๖๘๔. ปุริมกมฺมภวสฺมิํ โมโหติอาทิ วุตฺตตฺถเมวฯ กมฺมสหายตฺตา กิเลสวฏฺฏํ กมฺมวฏฺเฏ ปกฺขิตฺวา วุตฺตํ ‘‘กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสนา’’ติฯ
๖๘๕. ทิฏฺฐธมฺโม วุจฺจติ ปจฺจกฺขภูโต ปจฺจุปฺปนฺโน อตฺตภาโว, ตตฺถ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํฯ ปจฺจุปฺปนฺนภวโต อนนฺตรํ เวทิตพฺพผลํ กมฺมํ อุปปชฺชเวทนียํฯ อปราปริยาเยติ ทิฏฺฐธมฺมานนฺตรานาคตโต อญฺญสฺมิํ อตฺตภาวปริยาเย อตฺตภาวปริวตฺเตฯ อโหสิกมฺมนฺติ อโหสิ เอว กมฺมํ, น ตสฺส วิปาโก อโหสิ, ‘‘อตฺถิ, ภวิสฺสติ วา’’ติ เอวํ วตฺตพฺพกมฺมํฯ ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย, ปจฺจยวิเสเสน ปฏิลทฺธวิเสสตาย จ พลวภาวํ ปตฺตา ตาทิสสฺส ทิฏฺฐธมฺมเวทนียา นามฯ สา หิ วุตฺตากาเรน พลวติ ชวนสนฺตาเน คุณวิเสสยุตฺเตสุ อุปการาปการวสปฺปวตฺติยา, อาเสวนาลาเภน อปฺปวิปากตาย จ ปฐมชวนเจตนา อิตรทฺวยํ วิย ปวตฺตสนฺตานุปรมาเปกฺขํ, โอกาสลาภาเปกฺขญฺจ กมฺมํ น โหตีติ อิเธว ปุปฺผมตฺตํ วิย ปวตฺติวิปากมตฺตํ ผลํ เทติฯ ตถา อสกฺโกนฺตนฺติ กมฺมสฺส วิปากทานํ นาม อุปธิปโยคาทิปจฺจยนฺตรสมวาเยเนว โหตีติ ตทภาวโต อตฺถสาธิกาติ ทานาทิปาณาติปาตาทิอตฺถสฺส นิปฺผาทิกาฯ กา ปน สาติ อาห ‘‘สตฺตมชวนเจตนา’’ติฯ สา หิ สนฺนิฏฺฐาปกเจตนา วุตฺตนเยน ปฏิลทฺธวิเสสา, ปุริมชวนเจตนาหิ ลทฺธาเสวนา จ สมานา อนนฺตรตฺตภาเว วิปากทายินี อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นามฯ ‘‘สติ สํสารปฺปวตฺติยา’’ติ อิมินา อสติ สํสารปฺปวตฺติยํ อโหสิกมฺมปกฺเข ติฏฺฐติ วิปจฺจโนกาสสฺส อภาวโตติ ทีเปติฯ
๖๘๖. ยํ ครุกนฺติ ยํ อกุสลํ มหาสาวชฺชํ, กุสลํ มหานุภาวํ กมฺมํฯ ยํ พหุลนฺติ ยํ พหุลํ อภิณฺหโส กตํ สมาเสวิตํฯ มรณกาเล อนุสฺสริตนฺติ ปริพฺยตฺตภาเวน มรณสฺส อาสนฺนกาเล อนุสฺสริตํฯ อาสนฺนกาเล กเต วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ หิ วุตฺตํฯ ‘‘ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวน’’นฺติ อิมินา ‘‘ยํ พหุล’’นฺติ วุตฺตกมฺมโต วิเสเสติฯ ตถา ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ นิวตฺเตติ ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนานุชานนโตฯ ปฏิสนฺธิชนกวเสน หิ ครุกาทิกมฺมจตุกฺกํ วุตฺตํฯ
ตตฺถ ครุกํ สพฺพปฐมํ วิปจฺจติฯ ตถา หิ ตํ ครุกนฺติ วุตฺตํฯ ครุเก อสติ พหุลีกตํ, ตสฺมิํ อสติ อาสนฺนํ, ตสฺมิมฺปิ อสติ ‘‘กฏตฺตา วา ปนา’’ติ วุตฺตํ ปุริมชาตีสุ กตกมฺมํ วิปจฺจติฯ พหุลาสนฺนปุพฺพกเตสุ จ พลาพลํ วา ชานิตพฺพํ, ปาปโต ปาปนฺตรํ, กลฺยาณญฺจ, กลฺยาณโต จ กลฺยาณนฺตรํ, ปาปญฺจ, พหุลีกตโต จ มหโต จ ปุพฺพกตาทิ, อปฺปญฺจฯ พหุลานุสฺสรเณน วิปฺปฏิสาราทิชนนโต ปฏิปกฺขสฺส อปริปุณฺณตาย อารทฺธวิปากสฺส กมฺมสฺส, กมฺมเสสสฺส วา อปราปริยาเย เวทนียสฺส อปริกฺขีณตาย สนฺตติยา ปริณามวิเสสโตติ เตหิ เตหิ การเณหิ อาหิตพลํ ปฐมํ วิปจฺจติฯ มหานารทกสฺสปชาตเก วิเทหรญฺโญ เสนาปติ อลาโต, พีชโก ทาโส, ราชกญฺญา รุจา จ เอตฺถ นิทสฺสนํฯ ตถา หิ วุตฺตํ ภควตา –
‘‘ตตฺรานนฺท
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตี…เป.… มิจฺฉาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ยญฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตี โหติ…เป.… มิจฺฉาทิฏฺฐิ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเฐ วา ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา อปเร วา ปริยาเยฯ
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป.… สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ กลฺยาณกมฺมํ สุขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ยญฺจ โข โส อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป.… สมฺมาทิฏฺฐิ โหติ, ตสฺส ทิฏฺเฐ วา ธมฺเม วิปากํ ปฏิสํเวเทติ อุปปชฺช วา อปเร วา ปริยาเยฯ
‘‘ตตฺรานนฺท, ยฺวายํ ปุคฺคโล อิธ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต…เป.… สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ…เป.… นิรยํ อุปปชฺชติฯ ปุพฺเพ วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, ปจฺฉา วาสฺส ตํ กตํ โหติ ปาปกมฺมํ ทุกฺขเวทนียํ, มรณกาเล วาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺฐิ สมตฺตา สมาทินฺนา, เตน โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ
กิํ พหุนา ยํ ตํ ตถาคตสฺส มหากมฺมวิภงฺคญาณํ, ตสฺเสวายํ วิสโย, ยทิทํ ตสฺส ตสฺส กมฺมสฺส เตน เตน การเณน ปุพฺพาปรวิปากตา สามตฺถิยํฯ
๖๘๗. ปฏิสนฺธิทานาทิวเสน วิปากสนฺตานสฺส นิพฺพตฺตกํ ชนกํฯ เตนาห ‘‘ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนตี’’ติฯ สุขทุกฺขสนฺตานสฺส, นามรูปปฺปพนฺธสฺส วา จิรตรปฺปวตฺติเหตุภูตํ อุปตฺถมฺภกํฯ เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตตี’’ติฯ อุปปีฬกํ สุขทุกฺขปฺปพนฺเธ ปวตฺตมาเน สณิกํ สณิกํ ตํ หาเปติฯ เตนาห ‘‘สุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทตี’’ติฯ ฆาเตตฺวาติ อุปจฺฉินฺทิตฺวาฯ กมฺมสฺส อุปจฺฉินฺทนํ นาม ตสฺส วิปากปฏิพาหนเมวาติ อาห ‘‘ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติฯ ตญฺจ อตฺตโน วิปากุปฺปตฺติยา โอกาสกรณนฺติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตี’’ติฯ วิปจฺจนาย กโตกาสํ กมฺมํ วิปกฺกเมว นาม โหตีติ อาห ‘‘เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจตี’’ติฯ อุปปีฬกํ อญฺญสฺส วิปากํ อุปจฺฉินฺทติ, น สยํ อตฺตโน วิปากํ เทติฯ อุปฆาตกํ ปน ทุพฺพลํ กมฺมํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อตฺตโน วิปากํ อุปฺปาเทตีติ อยเมเตสํ วิเสโสฯ พวฺหาพาธตาทิปจฺจยูปนิปาเตน วิปากสฺส วิพาธกํ อุปปีฬกํ, ตถา วิปากสฺเสว อุปจฺเฉทกํ อุปฆาตกํฯ กมฺมํ อุปฆาเตตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสกรเณน วิปจฺจเน สติ ชนกเมว สิยา, ชนกาทิภาโว นาม วิปากํ ปติ อิจฺฉิตพฺโพ, น กมฺมํ ปตีติ วิปากสฺเสว อุปฆาตกตา ยุตฺตา วิย ทิสฺสติ, วีมํสิตพฺพํฯ
กมฺมนฺตรนฺติ กมฺมวิเสโส กมฺมานํ พลาพลเภโทฯ วิปากนฺตรนฺติ วิปากวิเสโส, ตสฺส หีนปณีตตาทิเภโทฯ อปโร นโย – ยสฺมิํ กมฺเม กเต ปฏิสนฺธิยํ, ปวตฺเต จ วิปากกฏตฺตารูปานํ อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ชนกํฯ ยสฺมิํ ปน กเต อญฺเญน ชนิตสฺส อิฏฺฐสฺส วา อนิฏฺฐสฺส วา ผลสฺส วิพาธกวิจฺเฉทกปจฺจยานุปฺปตฺติยา, อุปพฺรูหนปจฺจยุปฺปตฺติยา จ ชนกานุภาวานุรูปํ ปริโปสจิรตรปฺปพนฺธา โหนฺติ, ตํ อุปตฺถมฺภกํฯ ชนเกน อุปปีฬกํ อุปฆาตกํฯ ตตฺถ เกจิ ทุติยสฺส กุสลภาวํ อิตฺถนฺนามคตสฺส อปฺปาพาธทีฆายุกตาสํวตฺตนวเสน, ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ อกุสลภาวํ พวฺหาพาธอปฺปายุกตาสํวตฺตนวเสน วณฺเณนฺติฯ เทวทตฺตาทีนํ, ปน นาคาทีนํ, อิโต อนุปทินฺเนน ยาปนกเปตานญฺจ นรกาทีสุ อกุสลวิปากุปตฺถมฺภนุปปีฬนุปฆาตกานิ น น สนฺตีติ จตุนฺนมฺปิ อกุสลากุสลภาโว น วิรุชฺฌติฯ พุทฺธาเวณิกตาย อสาธารณสฺเสว ญาณสฺส โคจรภาวโต กมฺมนฺตราทิ ‘‘อสาธารณํ สาวเกหี’’ติ วุตฺตํฯ เอกเทสโต ชานิตพฺพํ อนวเสสโต ชานิตุํ น สกฺกา อวิสยตฺตาฯ สพฺเพน สพฺพํ อชานเน ปจฺจยปริคฺคโห น ปริปูรตีติฯ
๖๘๘. ยถาวุตฺตํ กมฺมํ วตฺตมานวิปากปฺปพนฺธนิมิตฺตเมว อธิปฺเปตนฺติ กมฺเมกเทสตาย ‘‘ทฺวาทสวิธํ กมฺมํ กมฺมวฏฺเฏ ปกฺขิปิตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ กิเลสวฏฺฏมฺปิ กมฺมสหายตาย กมฺมวฏฺฏปกฺขิกเมว กตฺวา อาห ‘‘กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสนา’’ติฯ ยาทิสโต ปจฺจยโต ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาเน นามรูปสฺส ปวตฺติ, ตาทิสโต เอว อิตรสฺมิมฺปิ อทฺธทฺวเยติ ยถา อตีตานาคเต นยํ เนติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิท’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อนาคเตปิ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสเนวาติ เอตฺถ วุตฺตํ เอว-สทฺทํ ‘‘เอตรหิ อตีเตปี’’ติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ อทฺธตฺตเยปิ กิริยากิริยผลมตฺตตาทสฺสนปรตฺตา โจทนายฯ อิติ กมฺมญฺเจวาติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส นิคมนวเสน วุตฺตํฯ อปราปรํ วฏฺฏนฏฺเฐน วฏฺฏํฯ ตถา ปวตฺตนํ ปวตฺตํฯ เหตุผลภาเวน สมฺพนฺธตีติ สนฺตติ, ปพนฺโธฯ กรณฏฺเฐน, ปจฺจเยหิ กรียตีติ วา กิริยาฯ
กมฺมาติ กมฺมโตฯ สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว, กมฺมํ สมฺภโว เอตสฺสาติ กมฺมสมฺภโว, วิปาโกฯ
การณสามคฺคิยํ ทานาทีหิ สาธิตกิริยาย วตฺตมานาย การณมตฺเต กตฺตุโวหาโรติ อาห ‘‘เนว การณโต อุทฺธํ การกํ ปสฺสตี’’ติฯ กโรตีติ หิ การกํฯ วิปากปฏิสํเวทกํ น ปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ ‘‘สมญฺญามตฺเตน ปณฺฑิตา โวหรนฺตี’’ติฯ
๖๘๙. เอเวตนฺติ สมฺมทสฺสนํ, อวิปรีตทสฺสนนฺติ อตฺโถฯ พีชรุกฺขาทิกานํวาติ ยถา พีชโต รุกฺโข, รุกฺขโต ปุน พีชนฺติ อนาทิกาลิกตฺตา พีชรุกฺขสนฺตานสฺส ปุพฺพโกฏิ นตฺถิ, เอวํ กมฺมปจฺจยา วิปาโก, วิปากปจฺจยา กมฺมนฺติ อนาทิกาลิกตฺตา กมฺมวิปากสนฺตานสฺส ปุพฺพโกฏิ น ปญฺญายติฯ อาทิ-สทฺเทน ‘‘กุกฺกุฏิยา อณฺฑํ, อณฺฑโต กุกฺกุฏี, ปุนปิ กุกฺกุฏิยา อณฺฑ’’นฺติ เอวมาทิํ สงฺคณฺหาติฯ อนาคเตปิ สํสาเรติ ยถา อตีเต, เอวํ อนาคเตปิ อทฺธาเน ‘‘ขนฺธานญฺจ ปฏิปาฏี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๙; ที. นิ. อฏฺฐ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺฐ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺฐ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺฐ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺฐ. ๒๒๖ สงฺขารปทนิทฺเทส; สุ. นิ. อฏฺฐ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺฐ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺฐ. ๑๔, ๕๘; เถรคา. อฏฺฐ. ๑.๖๗, ๙๙; ปฏิ. ม. อฏฺฐ. ๒.๑.๑๑๗; จูฬนิ. อฏฺฐ. ๖; พุ. วํ. อฏฺฐ. ๒.๕๘) วุตฺเต สํสาเร สติ กมฺมวิปากานํ อปฺปวตฺตํ น ทิสฺสติ, กมฺมวิปากานํ อปฺปวตฺติ น ทิสฺสติ, ปวตฺตติ เอวาติ อตฺโถฯ
เอตมตฺถนฺติ ‘‘กมฺมสฺส การโก นตฺถี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๒.๖๘๙) วุตฺตมตฺถํฯ อสยํวสีติ น สยํวสิโน, มิจฺฉาภินิเวสปรวสาติ อตฺโถฯ อญฺญมญฺญวิโรธิตาติ อิตรีตรวิโรธิตา, ทิฏฺฐิโย, ทิฏฺฐิยา วา อญฺญมญฺเญน วิโรธิตา วิรุทฺธาฯ
คมฺภีรญาณโคจรตาย คมฺภีรํฯ ตถา นิปุณํฯ สตฺตสุญฺญตาย, อญฺญมญฺญสภาวสุญฺญตาย จ สุญฺญํฯ ปจฺจยนฺติ นามรูปสฺส ปจฺจยํ, ตปฺปจฺจยปฏิเวเธเนว จ สพฺพํ ปฏิวิทฺธํ โหตีติฯ กมฺมํ นตฺถิ วิปากมฺหีติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺฐา วุตฺตเมวฯ
ปจฺจยสุญฺญํ ผลนฺติ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา น สูริเย’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตสนฺติ สูริยาทีนํฯ โสติ อคฺคิฯ สมฺภาเรหีติ อาตปาทีหิ การเณหิฯ
ยทิ ‘‘กมฺมญฺจ โข อุปาทายา’’ติฯ น เกวลํ กมฺมผลเมว สุญฺญํ กตฺตุรหิตํ, สพฺพมฺปิ ธมฺมชาตํ การกรหิตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เหตฺถ เทโว’’ติ คาถา วุตฺตาฯ เหตุสมฺภารปจฺจยาติ เหตุสมูหนิมิตฺตํ, เหตุปจฺจยนิมิตฺตํ วาฯ
๖๙๐. จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตา โหนฺตีติ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน ปจฺจยปริคฺคหสฺส กตตฺตา จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตา โหนฺตีติ วทนฺติฯ วุตฺตนเยน ปน สปฺปจฺจยนามรูปสฺส ทสฺสเนน ตีสุ อทฺธาสุ ปหีนวิจิกิจฺฉสฺส อทฺธตฺตยปริยาปนฺนา ธมฺมา อตีตปจฺจุปฺปนฺนานาคตภเวสุ จ จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตา โหนฺติ, น อนุปทธมฺมวเสน ตถาปริคฺคหสฺส อกตตฺตาฯ สาสฺส โหติ ญาตปริญฺญาติ ยาย นามรูปปริคฺคหํ, ตสฺส จ ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติ, สา อสฺส โยคิโน ‘‘อิทํ นามํ, เอตฺตกํ นาม’’นฺติอาทินา, ‘‘ตสฺส อยํ ปจฺจโย, เอตฺตโก ปจฺจโย’’ติอาทินา จ ปริจฺเฉทวเสน ญาตวตี ปญฺญาติ กตฺวา ญาตปริญฺญาฯ
อิทานิ เยน การเณน อทฺธตฺตยปริยาปนฺนา ธมฺมา จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตา โหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส เอวํ ปชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตน ธมฺมานํ ภวนฺตรสงฺกโม นาม น กทาจิปิ อตฺถิ, ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนโตติ ทสฺเสติฯ สชฺฌาย มนฺโตทกปาน มุขมณฺฑน ปทีปสีขูปมาหิ ตเมว ธมฺมานํ สงฺกมาภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘อปิจ โข’’ติอาทิมาหฯ
มโนธาตุอนนฺตรนฺติ กิริยมโนธาตุยา อนนฺตรํ ลพฺภมานํ จกฺขุวิญฺญาณํฯ น เจว อาคตนฺติ กิริยมโนธาตุโต น เจว อาคตํ กิริยมโนธาตุยํ จกฺขุวิญฺญาณสฺส อภาวโตฯ นาปิ น นิพฺพตฺตํ อนนฺตรนฺติ กิริยมโนธาตุโต อนาคจฺฉนฺตมฺปิ ปจฺจยสามคฺคิลาเภน ตโต อนนฺตรํ นาปิ น นิพฺพตฺตํ, นิพฺพตฺตเมว โหติฯ ยถายํ ปวตฺติยํ จิตฺตปฺปวตฺติ, ตเถว ปฏิสนฺธิมฺหิ วตฺตเต จิตฺตสนฺตติ, จุติจิตฺตโต อนาคจฺฉนฺตมฺปิ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ ตโต อนนฺตรํ นาปิ น นิพฺพตฺตติ, ปจฺจยสามคฺคิวเสน นิพฺพตฺตเตวาติ อตฺโถฯ สนฺตติคหเณน เจตฺถ กุโตจิ อาคมาภาวเมว วิภาเวติฯ เหตุผลภาเวน หิ สมฺพนฺธตาติ ธมฺมปฺปวตฺติ สนฺตตีติฯ เตนาห ‘‘ปุริมํ ภิชฺชเต จิตฺต’’นฺติอาทิฯ ปุริมนฺติ จุติจิตฺตํฯ ภิชฺชเตติ ปจฺฉิมนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํฯ ตโตติ จุติจิตฺตโต อนนฺตรเมว ชายติฯ ยตฺถ หิ จุติจิตฺตโต ทูเรปิ กาลนฺตเรปิ อุปฺปชฺชมานํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อนนฺตรเมว ชายตีติ วุจฺจติฯ ตสฺมา เตสํ อนฺตริกา นตฺถิ เตสํ จุติปฏิสนฺธิจิตฺตานํ พฺยวธายกํ กิญฺจิ นตฺถิฯ วีจิ เตสํ น วิชฺชตีติ ตสฺเสว เววจนํฯ อิโตติ จุติจิตฺตโต อนนฺตรํ น จ คจฺฉติ กิญฺจิ จิตฺตํฯ ตญฺหิ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ ตเถว นิรุชฺฌติฯ ปฏิสนฺธิ จาติ ปฏิสนฺธิวิญฺญาณญฺจ อญฺญเมว ยถาปจฺจยํ ชายติ นิพฺพตฺตตีติ ปุนปิ สงฺกมาภาวเมว วิภาเวนฺโต สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ นิคเมติฯ
๖๙๑. นามรูปคฺคหเณน ‘‘วิทิตสพฺพธมฺมสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ น เจตฺถ โลกุตฺตรธมฺมา อธิคตาฯ ถามคตํ โหติ อเนกาการโวการปจฺจยปริคฺคหวิธิโน อนุฏฺฐิตตฺตาฯ สุฏฺฐุตรํ ปหียติ ติยทฺธคตธมฺมปฺปวตฺติยา วิคตสมฺโมหตฺตาฯ สา เอวาติ โสฬสวิธา กงฺขา เอวฯ ยสฺมา เอตฺถ ‘‘พุทฺโธ, ธมฺโม, สงฺโฆ, สิกฺขา’’ติ จ กงฺขาย โคจรภูตา โลกิยา ธมฺมา อธิปฺเปตาฯ น หิ โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ กิเลสา ปวตฺติตุํ สกฺโกนฺติฯ ปุพฺพนฺโตติ อตีตา ขนฺธายตนธาตุโยฯ อปรนฺโตติ อนาคตาฯ ปุพฺพนฺตาปรนฺโตติ ตทุภยํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ วา ตทุภยภาคยุตฺตตฺตาฯ เอวํ พุทฺธาทิคฺคหเณน, ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมคฺคหเณน จ คหิโต อฏฺฐโม กงฺขาวิสโย นามรูปมตฺตํ, อิทปฺปจฺจยตาคฺคหเณน ปน ตสฺส ปจฺจโย คหิโต, ตสฺมา โสฬสวตฺถุกาย กงฺขาย ปหีนาย อฏฺฐวตฺถุกา กงฺขา อปฺปติฏฺฐาว โหตีติ อาห ‘‘น เกวลญฺจ…เป.… ปหียติเยวา’’ติฯ
ทิฏฺเฐกฏฺฐตฺตา วิจิกิจฺฉาย ยถา ทิฏฺฐิ สมุจฺฉิชฺชมานา วิจิกิจฺฉาย สทฺธิํเยว สมุจฺฉิชฺชติ, เอวํ วิจิกิจฺฉา วิกฺขมฺภิยมานา ทิฏฺฐิยา สทฺธิํเยว วิกฺขมฺภียตีติ อาห ‘‘ทฺวาสฏฺฐิ ทิฏฺฐิคตานิ วิกฺขมฺภนฺตี’’ติฯ อตฺตาภินิเวสูปนิสฺสยา หิ ‘‘อโหสิํ นุ โข อห’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) นยปฺปวตฺตา โสฬสวตฺถุกา กงฺขา, สา เอว จ ปุพฺพนฺตาทิวตฺถุกภาเวน วุตฺตาฯ อตฺตาภินิเวสวตฺถุกานิ จ ทฺวาสฏฺฐิ ทิฏฺฐิคตานิ, พุทฺธาทิวตฺถุกา จ กงฺขา ตเทกฏฺฐาติฯ ธรียนฺติ ธมฺมฏฺฐิติญาณํฯ สงฺขารานํ ยํ ยํ ภูตํ อนิจฺจตาทิ ยถาภูตํ, ตตฺถ ญาณนฺติ ยถาภูตญาณํฯ สมฺมา ปสฺสตีติ สมฺมาทสฺสนํฯ
อวิชฺชา ปจฺจโยติ อวิชฺชา เหตุอาทิวเสน สงฺขารานํ ยถารหํ ปจฺจโยฯ ตโต เอว สงฺขารา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาฯ อุโภเปเตติ ยสฺมา อวิชฺชาปิ อาสวาทิวเสน ปจฺจยสมฺภูตาว, ตสฺมา อวิชฺชา สงฺขาราติ อุภเยปิ เอเต ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาฯ อิตีติ เอวํฯ ปจฺจยปริคฺคเห ปญฺญาติ ปจฺจยานํ ปริจฺฉิชฺช คหณวเสน ปวตฺตา ปญฺญาฯ วุตฺตนเยน ธมฺมฏฺฐิติญาณํฯ
นิมิตฺตนฺติ อนิจฺจโต ปสฺสนฺโต ยถาภูตํ ชานาติฯ ตญฺจ ญาณํ อวิปรีตคฺคหณตาย สมฺมาทสฺสนํฯ ตํสมงฺคินา จ ปจฺจุปฺปนฺเนสุ วิย อตีตานาคเตสุปิ นยํ เนนฺเตน เต สุปริวิทิตา โหนฺติฯ
อนิจฺจตา จ นาม อุปฺปตฺติมโต, อุปฺปาโท จ ปจฺจยวเสนาติ อนิจฺจตา สิชฺฌมานา สงฺขารานํ สปฺปจฺจยตํ สาเธนฺตี ยถาวุตฺตกงฺขปฺปหานาย สํวตฺตตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิจฺจโต…เป.… ปหียตี’’ติ อาหฯ ตตฺถ ตทนฺวเยนาติ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺฐสฺส อนุคมเนนฯ เอตฺถาติ ยถาทิฏฺเฐสุ ธมฺเมสุฯ ทุกฺขโต มนสิ กโรนฺโตติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ปวตฺตนฺติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปฺปวตฺตํฯ ตญฺหิ กิเลสาภิสงฺขาเรหิ ปวตฺติตตฺตา สาติสยํ ทุกฺขภาเวน อุปฏฺฐาติฯ ปวตฺตนฺติ ฐานนิสชฺชาทิวเสน ทุกฺขทุกฺขตาทิวเสน จ สงฺขารปฺปวตฺตนฺติ อปเรฯ ‘‘นิมิตฺตํ, ปวตฺต’’นฺติ จ วุตฺเต อชฺฌตฺตพหิทฺธาสนฺตานสญฺญิเต สพฺพสฺมิํ สปฺปจฺจเย นามรูเป ยาถาวโต ปวตฺตา เอกาว ปญฺญา ปริยายวเสน ‘‘ยถาภูตญาณ’’นฺติปิ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติปิ ตตฺถ กงฺขาวิกฺขมฺภเนน ‘‘กงฺขาวิตรณา’’ติปิ วุจฺจติฯ ยถา ‘‘รุกฺโข ปาทโป ตรู’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยญฺจ ยถาภูตญาณ’’นฺติอาทิฯ
ปรมตฺถโต ‘‘ลทฺธสฺสาโส ลทฺธปติฏฺโฐ’’ติฯ อปริหีนกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิโก วิปสฺสโก โลกิยาหิ สีลสมาธิปญฺญาสมฺปทาหิ สมนฺนาคตตฺตา อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต สุคติปรายโณ จ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นิยตคติโก’’ติฯ ตโต เอว จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติฯ โสตาปนฺโน หิ ขีณาปายทุคฺคติวินิปาโตติฯ
อถ วา ลทฺธสฺสาโส ทิฏฺฐิวิสุทฺธิสมธิคเมนฯ นามรูปปริจฺเฉเทน หิ ขนฺธาทิเก สภาวสรสโต สลฺลกฺเขตฺวา สาสเน ธมฺมุปสํหิตปาโมชฺชปฺปฏิลาเภน ลทฺธสฺสาโส โหติฯ ลทฺธปติฏฺโฐ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิสมธิคเมนฯ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสเนน หิ ปริมทฺทิตทิฏฺฐิกณฺฏโก วินิทฺธตอเหตุวิสมเหตุวาโท ยถาสกํ ปจฺจเยเหว ธมฺมมตฺตํ ชานิตฺวา สาสเน ‘‘นิยตคติโก’’ติฯ เตนาห ‘‘จูฬโสตาปนฺโน นาม โหตี’’ติฯ
ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ มหานิสํสเมตํ ยถาภูตญาณํ, ตสฺมาฯ สทาติ สพฺพกาลํ รตฺติญฺเจว ทิวา จฯ สพฺพโสติ นิพฺพตฺตกเหตุอาทิปริคฺคณฺหนวเสน สพฺพปฺปกาเรนฯ
กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
อิติ เอกูนวีสติมปริจฺเฉทวณฺณนาฯ