๖. มหาลิสุตฺตํ
พฺราหฺมณทูตวตฺถุ
๓๕๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เวสาลิยํ ปฏิวสนฺติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อสฺโสสุํ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ
๓๖๐. อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เตนุปสงฺกมิํสุฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคิโต ภควโต อุปฏฺฐาโก โหติฯ อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมิํสุฯ อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจุํ – ‘‘กหํ นุ โข, โภ นาคิต, เอตรหิ โส ภวํ โคตโม วิหรติ? ทสฺสนกามา หิ มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตม’’นฺติฯ ‘‘อกาโล โข, อาวุโส, ภควนฺตํ ทสฺสนาย, ปฏิสลฺลีโน ภควา’’ติฯ อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ – ‘‘ทิสฺวาว มยํ ตํ ภวนฺตํ โคตมํ คมิสฺสามา’’ติฯ
โอฏฺฐทฺธลิจฺฉวีวตฺถุ
๓๖๑. โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธิํ เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ นุ โข, ภนฺเต นาคิต, เอตรหิ โส ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ทสฺสนกามา หิ มยํ ตํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติฯ ‘‘อกาโล โข, มหาลิ, ภควนฺตํ ทสฺสนาย, ปฏิสลฺลีโน ภควา’’ติฯ โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสีทิ – ‘‘ทิสฺวาว อหํ ตํ ภควนฺตํ คมิสฺสามิ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธ’’นฺติฯ
๓๖๒. อถ โข สีโห สมณุทฺเทโส เยนายสฺมา นาคิโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข สีโห สมณุทฺเทโส อายสฺมนฺตํ นาคิตํ เอตทโวจ – ‘‘เอเต, ภนฺเต กสฺสป, สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา อิธูปสงฺกนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย; โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธิํ อิธูปสงฺกนฺโต ภควนฺตํ ทสฺสนาย, สาธุ, ภนฺเต กสฺสป, ลภตํ เอสา ชนตา ภควนฺตํ ทสฺสนายา’’ติฯ
‘‘เตน หิ, สีห, ตฺวญฺเญว ภควโต อาโรเจหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สีโห สมณุทฺเทโส อายสฺมโต นาคิตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข สีโห สมณุทฺเทโส ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอเต, ภนฺเต, สมฺพหุลา โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา อิธูปสงฺกนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย, โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธิํ อิธูปสงฺกนฺโต ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ สาธุ, ภนฺเต, ลภตํ เอสา ชนตา ภควนฺตํ ทสฺสนายา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, สีห, วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปญฺญเปหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข สีโห สมณุทฺเทโส ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา วิหารปจฺฉายายํ อาสนํ ปญฺญเปสิฯ
๓๖๓. อถ โข ภควา วิหารา นิกฺขมฺม วิหารปจฺฉายายํ ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข เต โกสลกา จ พฺราหฺมณทูตา มาคธกา จ พฺราหฺมณทูตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ โอฏฺฐทฺโธปิ ลิจฺฉวี มหติยา ลิจฺฉวีปริสาย สทฺธิํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ
๓๖๔. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โอฏฺฐทฺโธ ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุริมานิ, ภนฺเต, ทิวสานิ ปุริมตรานิ สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘ยทคฺเค อหํ, มหาลิ, ภควนฺตํ อุปนิสฺสาย วิหรามิ, น จิรํ ตีณิ วสฺสานิ, ทิพฺพานิ หิ โข รูปานิ ปสฺสามิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณามิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานี’ติฯ สนฺตาเนว นุ โข, ภนฺเต, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, อุทาหุ อสนฺตานี’’ติ?
เอกํสภาวิตสมาธิ
๓๖๕. ‘‘สนฺตาเนว โข, มหาลิ, สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติฯ ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยน สนฺตาเนว สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติ?
๓๖๖. ‘‘อิธ , มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ
๓๖๗. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป.… ปจฺฉิมาย ทิสาย … อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ
๓๖๘. ‘‘อิธ , มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ
๓๖๙. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป.… ปจฺฉิมาย ทิสาย… อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน จ โข ทิพฺพานิ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ เอกํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานํ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, โน จ โข ทิพฺพานํ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ
๓๗๐. ‘‘อิธ , มหาลิ, ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ ปุรตฺถิมาย ทิสาย ทิพฺพานิ จ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, ทิพฺพานิ จ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ
๓๗๑. ‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุโน ทกฺขิณาย ทิสาย…เป.… ปจฺฉิมาย ทิสาย… อุตฺตราย ทิสาย… อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิโต สมาธิ โหติ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ โส อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ อุทฺธมโธ ติริยํ ทิพฺพานิ จ รูปานิ ปสฺสติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, ทิพฺพานิ จ สทฺทานิ สุณาติ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, มหาลิ, โหติ ภิกฺขุโน อุทฺธมโธ ติริยํ อุภยํสภาวิเต สมาธิมฺหิ ทิพฺพานญฺจ รูปานํ ทสฺสนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํ, ทิพฺพานญฺจ สทฺทานํ สวนาย ปิยรูปานํ กามูปสํหิตานํ รชนียานํฯ อยํ โข มหาลิ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยน สนฺตาเนว สุนกฺขตฺโต ลิจฺฉวิปุตฺโต ทิพฺพานิ สทฺทานิ นาสฺโสสิ ปิยรูปานิ กามูปสํหิตานิ รชนียานิ, โน อสนฺตานี’’ติฯ
๓๗๒. ‘‘เอตาสํ นูน, ภนฺเต, สมาธิภาวนานํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติฯ ‘‘น โข, มหาลิ, เอตาสํ สมาธิภาวนานํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติฯ อตฺถิ โข, มหาลิ, อญฺเญว ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติฯ
จตุอริยผลํ
๓๗๓. ‘‘กตเม ปน เต, ภนฺเต, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู ภควติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาลิ, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณฯ อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติฯ
‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว สกิํเทว (ก.) อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติฯ อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติฯ
‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาฯ อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติฯ
‘‘ปุน จปรํ, มหาลิ, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, มหาลิ, ธมฺโม อุตฺตริตโร จ ปณีตตโร จ, ยสฺส สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺติฯ อิเม โข เต, มหาลิ, ธมฺมา อุตฺตริตรา จ ปณีตตรา จ, เยสํ สจฺฉิกิริยาเหตุ ภิกฺขู มยิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติฯ
อริยอฏฺฐงฺคิกมคฺโค
๓๗๔. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อตฺถิ โข, มหาลิ, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติฯ
๓๗๕. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, มคฺโค กตมา ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายา’’ติ? ‘‘อยเมว อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโคฯ เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิฯ อยํ โข, มหาลิ, มคฺโค อยํ ปฏิปทา เอเตสํ ธมฺมานํ สจฺฉิกิริยายฯ
ทฺเวปพฺพชิตวตฺถุ
๓๗๖. ‘‘เอกมิทาหํ, มหาลิ, สมยํ โกสมฺพิยํ วิหรามิ โฆสิตาราเม ฯ อถ โข ทฺเว ปพฺพชิตา – มุณฺฑิโย จ ปริพฺพาชโก ชาลิโย จ ทารุปตฺติกนฺเตวาสี เยนาหํ เตนุปสงฺกมิํสุฯ อุปสงฺกมิตฺวา มยา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา มํ เอตทโวจุํ – ‘กิํ นุ โข, อาวุโส โคตม, ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ, อุทาหุ อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ?
๓๗๗. ‘‘‘เตน หาวุโส, สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘เอวมาวุโส’ติ โข เต ทฺเว ปพฺพชิตา มม ปจฺจสฺโสสุํฯ อหํ เอตทโวจํ – อิธาวุโส ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป.… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุจฺเฉเทสุ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ)ฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา, ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติฯ อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิฯ อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วา…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ , กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติฯ อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิฯ อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วา…เป.… ญาณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป.… โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ น กลฺลํ (สี. สฺยา. กํ. ก.) ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติฯ อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิฯ อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วา…เป.… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติฯ โย โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ, กลฺลํ นุ โข ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติ? โย โส, อาวุโส, ภิกฺขุ เอวํ ชานาติ เอวํ ปสฺสติ น กลฺลํ ตสฺเสตํ วจนาย – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วาติฯ อหํ โข ปเนตํ, อาวุโส, เอวํ ชานามิ เอวํ ปสฺสามิฯ อถ จ ปนาหํ น วทามิ – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติ วา ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติ วา’’ติฯ อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน โอฏฺฐทฺโธ ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
มหาลิสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฉฏฺฐํฯ