(๑๑) ๑. อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา
๑๑๙. ตติยปณฺณาสกสฺส ทุปฺปชหาฯ ทุจฺจชาติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ทฺวินฺนํ อาสานํ ทุจฺจชภาโว กถํ ชานิตพฺโพติ ปฐมํ ตาว ลาภาสาย ทุจฺจชภาวํ วิภาเวติ ‘‘ลาภาสายา’’ติอาทินาฯ อุภโตพฺยูฬฺหนฺติ ยุทฺธตฺถาย อุภโต สนฺนิปติตํฯ ปกฺขนฺทนฺตีติ อนุปฺปวิสนฺติฯ ชีวิตาสาย ทุปฺปชหตฺตาติอาทินา ชีวิตาสาย ทุจฺจชภาวํ วิภาเวติฯ
๑๒๐. ทุติเย ทุลฺลภาติ น สุลภาฯ อิณํ เทมีติ สญฺญํ กโรตีติ เอวํ สญฺญํ กโรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถฯ เอตฺถ จ ‘‘ปุพฺพการีติ ปฐมํ อุปการสฺส การโกฯ กตญฺญู กตเวทีติ เตน กตํ ญตฺวา ปจฺฉา การโกฯ เตสุ ปุพฺพการี ‘อิณํ เทมี’ติ สญฺญํ กโรติ, ปจฺฉา การโก ‘อิณํ ชีราเปมี’ติ สญฺญํ กโรตี’’ติ เอตฺตกเมว อิธ วุตฺตํฯ ปุคฺคลปณฺณตฺติสํวณฺณนายํ (ปุ. ป. อฏฺฐ. ๘๓) ปน –
‘‘ปุพฺพการีติ ปฐมเมว การโกฯ กตเวทีติ กตํ เวเทติ, วิทิตํ ปากฏํ กโรติฯ เต อคาริยานคาริเยหิ ทีเปตพฺพาฯ อคาริเกสุ หิ มาตาปิตโร ปุพฺพการิโน นาม, ปุตฺตธีตโร ปน มาตาปิตโร ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นามฯ อนคาริเยสุ อาจริยุปชฺฌายา ปุพฺพการิโน นาม, อนฺเตวาสิกสทฺธิวิหาริกา อาจริยุปชฺฌาเย ปฏิชคฺคนฺตา อภิวาทนาทีนิ จ เตสํ กุรุมานา กตเวทิโน นามฯ เตสํ อาวิภาวตฺถาย อุปชฺฌายโปสกโสณตฺเถราทีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิฯ
‘‘อปโร นโย – ปเรน อกเตเยว อุปกาเร อตฺตนิ กตํ อุปการํ อนเปกฺขิตฺวา การโก ปุพฺพการี, เสยฺยถาปิ มาตาปิตโร เจว อาจริยุปชฺฌายา จฯ โส ทุลฺลโภ สตฺตานํ ตณฺหาภิภูตตฺตาฯ ปเรน กตสฺส อุปการสฺส อนุรูปปฺปวตฺติํ
ตตฺถ การเณน วินา ปวตฺตหิตจิตฺโต อการณวจฺฉโลฯ อนาคตมฺหิ ปโยชนํ อเปกฺขมาโน ‘‘กริสฺสติ เม’’ติอาทินา จิตฺเตน ปฐมํ คหิตํ ตาทิสํ กตํ อุปาทาย กตญฺญู เอว นาม โหติ, น ปุพฺพการีติ อธิปฺปาเยน ‘‘กริสฺสติ เมติ เอวมาทิการณสาเปกฺขกิริโย กตญฺญุกตเวที’’ติ วุตฺตํฯ ตโมโชติปรายโณ ปุญฺญผลานิ อนุปชีวนฺโต เอว ปุญฺญานิ กโรตีติ ‘‘ปุพฺพการี’’ติ วุตฺโตฯ ปุญฺญผลํ อุปชีวนฺโต หิ กตญฺญุปกฺเข ติฏฺฐติฯ
๑๒๑. ตติเย ติตฺโตติ สุหิโต ปริโยสิโต นิฏฺฐิตกิจฺจตาย นิรุสฺสุกฺโกฯ คุณปาริปูริยา หิ ปริปุณฺโณ ยาวทตฺโถ อิธ ติตฺโต วุตฺโตฯ ตปฺเปตาติ อญฺเญสมฺปิ ติตฺติกโรฯ ปจฺเจกพุทฺโธ จ ตถาคตสาวโก จ ขีณาสโว ติตฺโตติ เอตฺถ ปจฺเจกพุทฺโธ นวโลกุตฺตรธมฺเมหิ สยํ ติตฺโต ปริปุณฺโณ, อญฺญํ ปน ตปฺเปตุํ น สกฺโกติฯ ตสฺส หิ ธมฺมกถาย อภิสมโย น โหติ, สาวกานํ ปน ธมฺมกถาย อปริมาณานํ เทวมนุสฺสานํ อภิสมโย โหติฯ เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา เต ธมฺมํ เทเสนฺตา น อตฺตโน วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, พุทฺธานํ วจนํ กตฺวา กเถนฺติ, โสตุํ นิสินฺนปริสาปิ – ‘‘อยํ ภิกฺขุ น อตฺตนา ปฏิวิทฺธํ ธมฺมํ กเถตี’’ติ จิตฺตีการํ กโรติฯ อิติ โส จิตฺตีกาโร พุทฺธานํเยว โหติฯ เอวํ ตตฺถ สมฺมาสมฺพุทฺโธว ตปฺเปตา นามฯ ยถา หิ ‘‘อสุกสฺส นาม อิทญฺจิทญฺจ เทถา’’ติ รญฺญา อาณตฺเต
๑๒๒. จตุตฺเถ ทุตฺตปฺปยาติ อตปฺปยา, น สกฺกา เกนจิ ตปฺเปตุํฯ โย หิ อุปฏฺฐากกุลํ วา ญาติกุลํ วา นิสฺสาย วสมาโน จีวเร ชิณฺเณ เตหิ ทินฺนํ จีวรํ นิกฺขิปติ, น ปริภุญฺชติ
๑๒๓. ปญฺจเม น วิสฺสชฺเชตีติ อตฺตโน อกตฺวา ปรสฺส น เทติ, อติเรเก ปน สติ น นิกฺขิปติ, ปรสฺส เทติฯ เตเนวาห ‘‘สพฺพํเยว ปเรสํ น เทตี’’ติอาทิฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘โย ภิกฺขุ อุปฏฺฐากกุลา วา ญาติกุลา วา ชิณฺณจีวโร สาฏกํ ลภิตฺวา จีวรํ กตฺวา ปริภุญฺชติ น นิกฺขิปติ, อคฺคฬํ ทตฺวา ปารุปนฺโตปิ ปุนปิ ทิยฺยมาเน สหสา นปฺปฏิคฺคณฺหาติฯ โย จ ลทฺธํ ลทฺธํ อตฺตนา ปริภุญฺชติ, ปเรสํ น เทติฯ อิเม ทฺเวปิ สุเขน สกฺกา ตปฺเปตุนฺติ สุตปฺปยา’’ติฯ
๑๒๔-๑๒๗. ฉฏฺฐสตฺตมาทีนิ อุตฺตานตฺถาเนวฯ
อาสาทุปฺปชหวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ