๑๒. อตฺตวคฺโค
๑. โพธิราชกุมารวตฺถุ
อตฺตานญฺเจติ
โส กิร ปถวีตเล อญฺเญหิ ปาสาเทหิ อสทิสรูปํ อากาเส อุปฺปตมานํ วิย โกกนุทํ นาม ปาสาทํ กาเรตฺวา วฑฺฒกิํ ปุจฺฉิ – ‘‘กิํ ตยา อญฺญตฺถาปิ เอวรูโป ปาสาโท กตปุพฺโพ, อุทาหุ ปฐมสิปฺปเมว เต อิท’’นฺติฯ ‘‘ปฐมสิปฺปเมว, เทวา’’ติ จ วุตฺเต จินฺเตสิ – ‘‘สเจ อยํ อญฺญสฺสปิ เอวรูปํ ปาสาทํ กริสฺสติ, อยํ ปาสาโท อนจฺฉริโย ภวิสฺสติฯ อิมํ มยา มาเรตุํ วา หตฺถปาเท วาสฺส ฉินฺทิตุํ อกฺขีนิ วา อุปฺปาเฏตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อญฺญสฺส ปาสาทํ น กริสฺสตี’’ติฯ โส ตมตฺถํ อตฺตโน ปิยสหายกสฺส สญฺชีวกปุตฺตสฺส นาม มาณวกสฺส กเถสิฯ โส จินฺเตสิ – ‘‘นิสฺสํสยํ เอส วฑฺฒกิํ นาเสสฺสติ, อนคฺโฆ สิปฺปี, โส มยิ ปสฺสนฺเต มา นสฺสตุ, สญฺญมสฺส ทสฺสามี’’ติฯ โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปาสาเท เต กมฺมํ นิฏฺฐิตํ, โน’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นิฏฺฐิต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ราชกุมาโร ตํ นาเสตุกาโม อตฺตานํ รกฺเขยฺยาสี’’ติ อาห
ราชกุมาโรปิ
อตีเต กิร อเนกสตา มนุสฺสา มหติยา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิํสุฯ นาวา สมุทฺทมชฺเฌ ภิชฺชิฯ ทฺเว ชยมฺปติกา เอกํ ผลกํ คเหตฺวา อนฺตรทีปกํ ปวิสิํสุ, เสสา สพฺเพ ตตฺเถว มริํสุฯ ตสฺมิํ โข ปน ทีปเก
สตฺถา อิทํ ตสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สเจ หิ ตฺวํ, กุมาร, ตทา เอกสฺมิมฺปิ วเย ภริยาย
๑๕๗.
‘‘อตฺตานญฺเจ ปิยํ ชญฺญา, รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตํ;
ติณฺณํ อญฺญตรํ ยามํ, ปฏิชคฺเคยฺย ปณฺฑิโต’’ติฯ
ตตฺถ ยามนฺติ สตฺถา อตฺตโน ธมฺมิสฺสรตาย เทสนากุสลตาย จ อิธ ติณฺณํ วยานํ อญฺญตรํ วยํ ยามนฺติ กตฺวา เทเสสิ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ สเจ อตฺตานํ ปิยํ ชาเนยฺย, รกฺเขยฺย นํ สุรกฺขิตนฺติ ยถา โส สุรกฺขิโต โหติ, เอวํ นํ รกฺเขยฺยฯ ตตฺถ สเจ คีหี สมาโน ‘‘อตฺตานํ รกฺขิสฺสามี’’ติ อุปริปาสาทตเล สุสํวุตํ คพฺภํ ปวิสิตฺวา สมฺปนฺนารกฺโข หุตฺวา วสนฺโตปิ, ปพฺพชิโต หุตฺวา สุสํวุเต ปิหิตทฺวารวาตปาเน เลเณ วิหรนฺโตปิ อตฺตานํ น รกฺขติเยวฯ คิหี ปน สมาโน ยถาพลํ ทานสีลาทีนิ ปุญฺญานิ กโรนฺโต, ปพฺพชิโต วา ปน วตฺตปฏิวตฺตปริยตฺติมนสิกาเรสุ อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชนฺโต อตฺตานํ รกฺขติ นามฯ เอวํ ตีสุ วเยสุ อสกฺโกนฺโต อญฺญตรสฺมิมฺปิ วเย ปณฺฑิตปุริโส อตฺตานํ ปฏิชคฺคติเยวฯ สเจ หิ คิหิภูโต ปฐมวเย ขิฑฺฑาปสุตตาย กุสลํ กาตุํ น สกฺโกติ, มชฺฌิมวเย อปฺปมตฺเตน หุตฺวา กุสลํ กาตพฺพํฯ สเจ มชฺฌิมวเย ปุตฺตทารํ โปเสนฺโต กุสลํ กาตุํ น สกฺโกติ, ปจฺฉิมวเย กาตพฺพเมวฯ เอวมฺปิ กโรนฺเตน อตฺตา ปฏิชคฺคิโตว โหติฯ เอวํ อกโรนฺตสฺส ปน อตฺตา ปิโย นาม น โหติ, อปายปรายณเมว นํ กโรติฯ สเจ ปน
เทสนาวสาเน โพธิราชกุมาโร โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
โพธิราชกุมารวตฺถุ ปฐมํฯ
๒. อุปนนฺทสกฺยปุตฺตตฺเถรวตฺถุ
อตฺตานเมว ปฐมนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ
โส กิร เถโร ธมฺมกถํ กเถตุํ เฉโกฯ ตสฺส อปฺปิจฺฉตาทิปฏิสํยุตฺตํ ธมฺมกถํ สุตฺวา พหู ภิกฺขุ ตํ ติจีวเรหิ ปูเชตฺวา ธุตงฺคานิ สมาทิยิํสุฯ เตหิ วิสฺสฏฺฐปริกฺขาเร โสเยว คณฺหิฯ โส เอกสฺมิํ อนฺโตวสฺเส อุปกฏฺเฐ ชนปทํ อคมาสิฯ อถ นํ เอกสฺมิํ วิหาเร ทหรสามเณรา ธมฺมกถิกเปเมน, ‘‘ภนฺเต, อิธ วสฺสํ อุเปถา’’ติ วทิํสุฯ ‘‘อิธ กิตฺตกํ วสฺสาวาสิกํ ลพฺภตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตหิ ‘‘เอเกโก สาฏโก’’ติ วุตฺเต ตตฺถ อุปาหนา ฐเปตฺวา อญฺญํ วิหารํ อคมาสิ
อเถกสฺมิํ
อตีตสฺมิํ อนุตีรจารี จ คมฺภีรจารี จาติ ทฺเว อุทฺทา มหนฺตํ โรหิตมจฺฉํ ลภิตฺวา ‘‘มยฺหํ สีสํ โหตุ, ตว นงฺคุฏฺฐ’’นฺติ วิวาทาปนฺนา ภาเชตุํ อสกฺโกนฺตา เอกํ สิงฺคาลํ ทิสฺวา อาหํสุ – ‘‘มาตุล, อิมํ โน ภาเชตฺวา เทหี’’ติฯ อหํ รญฺญา วินิจฺฉยฏฺฐาเน ฐปิโต, ตตฺถ จิรํ
‘‘อนุตีรจาริ นงฺคุฏฺฐํ, สีสํ คมฺภีรจาริโน;
อจฺจายํ มชฺฌิโม ขณฺโฑ, ธมฺมฏฺฐสฺส ภวิสฺสตี’’ติฯ (ชา. ๑.๗.๓๓) –
อิมํ คาถํ วตฺวา มชฺฌิมขณฺฑํ อาทาย ปกฺกามิฯ เตปิ วิปฺปฏิสาริโน ตํ โอโลเกตฺวา อฏฺฐํสุฯ
สตฺถา อิมํ อตีตํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวเมส อตีเตปิ ตุมฺเห วิปฺปฏิสาริโน อกาสิเยวา’’ติ เต ภิกฺขู สญฺญาเปตฺวา อุปนนฺทํ ครหนฺโต, ‘‘ภิกฺขเว
๑๕๘.
‘‘อตฺตานเมว ปฐมํ, ปติรูเป นิเวสเย;
อถญฺญมนุสาเสยฺย, น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโต’’ติฯ
ตตฺถ ปติรูเป นิเวสเยติ อนุจฺฉวิเก คุเณ ปติฏฺฐาเปยฺยฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย อปฺปิจฺฉตาทิคุเณหิ วา อริยวํสปฏิปทาทีหิ วา ปรํ อนุสาสิตุกาโม, โส อตฺตานเมว ปฐมํ ตสฺมิํ คุเณ ปติฏฺฐาเปยฺยฯ เอวํ ปติฏฺฐาเปตฺวา อถญฺญํ เตหิ คุเณหิ อนุสาเสยฺยฯ อตฺตานญฺหิ ตตฺถ อนิเวเสตฺวา เกวลํ ปรเมว อนุสาสมาโน ปรโต นินฺทํ ลภิตฺวา กิลิสฺสติ นาม, ตตฺถ อตฺตานํ นิเวเสตฺวา อนุสาสมาโน ปรโต ปสํสํ ลภติ, ตสฺมา น กิลิสฺสติ นามฯ เอวํ กโรนฺโต ปณฺฑิโต น กิลิสฺเสยฺยาติฯ
เทสนาวสาเน เต ภิกฺขู โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิํสุ, มหาชนสฺสาปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
อุปนนฺทสกฺยปุตฺตตฺเถรวตฺถุ ทุติยํฯ
๓. ปธานิกติสฺสตฺเถรวตฺถุ
อตฺตานญฺเจติ
โส กิร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา ปญฺจสเต ภิกฺขู อาทาย อรญฺเญ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา, ‘‘อาวุโส, ธรมานกสฺส พุทฺธสฺส สนฺติเก โว กมฺมฏฺฐานํ คหิตํ, อปฺปมตฺตาว สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ โอวทิตฺวา สยํ คนฺตฺวา นิปชฺชิตฺวา สุปติฯ เต ภิกฺขู ปฐมยาเม จงฺกมิตฺวา มชฺฌิมยาเม วิหารํ ปวิสนฺติฯ โส นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺธกาเล เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กิํ ตุมฺเห ‘นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายิสฺสามา’ติ อาคตา, สีฆํ นิกฺขมิตฺวา
‘‘อมาตาปิตรสํวฑฺโฒ, อนาเจรกุเล วสํ;
นายํ กาลํ อกาลํ วา, อภิชานาติ กุกฺกุโฏ’’ติฯ (ชา. ๑.๑.๑๑๙) –
อิมํ อกาลราวิกุกฺกุฏชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา กเถสิฯ ‘‘ตทา หิ โส กุกฺกุโฏ อยํ ปธานิกติสฺสตฺเถโร อโหสิ, อิเม ปญฺจ สตา ภิกฺขู เต มาณวา อเหสุํ, ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย อหเมวา’’ติ สตฺถา อิมํ ชาตกํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, ปรํ โอวทนฺเตน นาม อตฺตา สุทนฺโต กาตพฺโพฯ เอวํ โอวทนฺโต หิ
๑๕๙.
‘‘อตฺตานญฺเจ
สุทนฺโต วต ทเมถ, อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – โย หิ ภิกฺขุ ‘‘ปฐมยามาทีสุ จงฺกมิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ปรํ โอวทติ, สยํ จงฺกมนาทีนิ อธิฏฺฐหนฺโต อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา, ยถาญฺญมนุสาสติ, เอวํ สนฺเต สุทนฺโต วต ทเมถาติ เยน คุเณน ปรํ อนุสาสติ, เตน อตฺตนา สุทนฺโต หุตฺวา ทเมยฺยฯ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโมติ อยญฺหิ อตฺตา นาม ทุทฺทโมฯ ตสฺมา ยถา โส สุทนฺโต โหติ, ตถา ทเมตพฺโพติฯ
เทสนาวสาเน ปญฺจ สตาปิ เต ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณิํสูติฯ
ปธานิกติสฺสตฺเถรวตฺถุ ตติยํฯ
๔. กุมารกสฺสปมาตุเถรีวตฺถุ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กุมารกสฺสปตฺเถรสฺส มาตรํ อารพฺภ กเถสิฯ
สา กิร ราชคหนคเร เสฏฺฐิธีตา วิญฺญุตํ ปตฺตกาลโต ปฏฺฐาย ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ อถ สา ปุนปฺปุนํ ยาจมานาปิ มาตาปิตูนํ สนฺติกา ปพฺพชฺชํ อลภิตฺวา วยปฺปตฺตา
อเถกทิวสํ กสฺสโปติ นามํ กตฺวา กุมารปริหาเรน วฑฺฒิตตฺตา กุมารกสฺสโปติ สญฺชานิํสุฯ โส กีฬามณฺฑเล ทารเก ปหริตฺวา ‘‘นิมฺมาตาปิติเกนมฺหา ปหฏา’’ติ วุตฺเต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘เทว, มํ ‘นิมฺมาตาปิติโก’ติ วทนฺติ, มาตรํ เม อาจิกฺขถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา รญฺญา ธาติโย ทสฺเสตฺวา ‘‘อิมา เต มาตโร’’ติ วุตฺเต ‘‘น เอตฺติกา เม มาตโร, เอกาย เม มาตรา ภวิตพฺพํ, ตํ เม อาจิกฺขถา’’ติ อาหฯ ราชา ‘‘น สกฺกา อิมํ วญฺเจตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา, ตาต, ตว มาตา ภิกฺขุนี, ตฺวํ มยา ภิกฺขุนุปสฺสยา อานีโตติฯ โส ตาวตเกเนว สมุปฺปนฺนสํเวโค หุตฺวา, ‘‘ตาต, ปพฺพาเชถ ม’’นฺติ อาหฯ ราชา ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ตํ มหนฺเตน สกฺกาเรน สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพาเชสิฯ โส ลทฺธูปสมฺปโท กุมารกสฺสปตฺเถโรติ ปญฺญายิฯ โส สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺฐานํ คเหตฺวา อรญฺญํ ปวิสิตฺวา วายมิตฺวา วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ปุน กมฺมฏฺฐานํ วิเสเสตฺวา คเหสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺธวเน วิหาสิฯ
อถ นํ กสฺสปพุทฺธกาเล เอกโต สมณธมฺมํ กตฺวา อนาคามิผลํ ปตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตภิกฺขุ พฺรหฺมโลกโต อาคนฺตฺวา ปนฺนรส ปญฺเห ปุจฺฉิตฺวา
อปเรน สมเยน ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, เทวทตฺเตน เอวํ อุปนิสฺสยสมฺปนฺโน กุมารกสฺสโป จ เถรี จ นาสิตา, สตฺถา ปน เตสํ ปติฏฺฐา ชาโต, อโห พุทฺธา นาม โลกานุกมฺปกา’’ติ
‘‘นิคฺโรธเมว เสเวยฺย, น สาขมุปสํวเส;
นิคฺโรธสฺมิํ มตํ เสยฺโย, ยญฺเจ สาขสฺมิ ชีวิต’’นฺติฯ (ชา. ๑.๑.๑๒; ๑.๑๐.๘๑) –
อิมํ นิคฺโรธชาตกํ วิตฺถาเรน กเถตฺวา ‘‘ตทา สาขมิโค เทวทตฺโต อโหสิ, ปริสาปิสฺส เทวทตฺตปริสา, วารปฺปตฺตา มิคเธนุ เถรี อโหสิ, ปุตฺโต กุมารกสฺสโป, คพฺภินีมิคิยา ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา คโต นิคฺโรธมิคราชา ปน อหเมวา’’ติ ชาตกํ สโมธาเนตฺวา ปุตฺตสิเนหํ ฉินฺทิตฺวา เถริยา อตฺตนาว อตฺตโน ปติฏฺฐานกตภาวํ ปกาเสนฺโต, ‘‘ภิกฺขเว, ยสฺมา ปรสฺส อตฺตนิ ฐิเตน สคฺคปรายเณน วา มคฺคปรายเณน วา ภวิตุํ น สกฺกา, ตสฺมา อตฺตาว อตฺตโน นาโถ, ปโร กิํ กริสฺสตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๖๐.
‘‘อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ, โก หิ นาโถ ปโร สิยา;
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน, นาถํ ลภติ ทุลฺลภ’’นฺติฯ
ตตฺถ นาโถติ ปติฏฺฐาฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อตฺตนิ ฐิเตน อตฺตสมฺปนฺเนน กุสลํ กตฺวา อตฺตโน ปติฏฺฐา โหติ, ปโร โก นาม กสฺส ปติฏฺฐา สิยาฯ อตฺตนา เอว หิ สุทนฺเตน นิพฺพิเสวเนน ทุลฺลภํ นาถํ ลภติฯ อรหตฺตญฺหิ สนฺธาย อิธ ‘‘นาถํ ลภติ ทุลฺลภ’’นฺติ วุตฺตํฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
กุมารกสฺสปมาตุเถรีวตฺถุ จตุตฺถํฯ
๕. มหากาลอุปาสกวตฺถุ
อตฺตนา หิ กตํ ปาปนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มหากาลํ นาม โสตาปนฺนอุปาสกํ อารพฺภ กเถสิฯ
โส กิร มาสสฺส อฏฺฐทิวเสสุ อุโปสถิโก หุตฺวา วิหาเร สพฺพรตฺติํ ธมฺมกถํ สุณาติฯ อถ รตฺติํ โจรา เอกสฺมิํ เคเห สนฺธิํ ฉินฺทิตฺวา ภณฺฑกํ คเหตฺวา โลหภาชนสทฺเทน ปพุทฺเธหิ สามิเกหิ อนุพทฺธา คหิตภณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิํสุฯ สามิกาปิ เต อนุพนฺธิํสุเยว, เต ทิสา ปกฺขนฺทิํสุฯ เอโก ปน วิหารมคฺคํ คเหตฺวา มหากาลสฺส รตฺติํ ธมฺมกถํ สุตฺวา ปาโตว โปกฺขรณิตีเร มุขํ โธวนฺตสฺส ปุรโต ภณฺฑิกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิฯ โจเร อนุพนฺธิตฺวา อาคตมนุสฺสา ภณฺฑิกํ ทิสฺวา ‘‘ตฺวํ โน เคหสนฺธิํ ฉินฺทิตฺวา ภณฺฑิกํ หริตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต วิย วิจรสี’’ติ
อตีเต กิร พาราณสิรญฺโญ วิชิเต เอกสฺส ปจฺจนฺตคามสฺส อฏวิมุเข โจรา ปหรนฺติฯ ราชา อฏวิมุเข เอกํ ราชภฏํ ฐเปสิ, โส ภติํ คเหตฺวา มนุสฺเส โอรโต ปารํ เนติ, ปารโต โอรํ อาเนติฯ อเถโก มนุสฺโส อภิรูปํ อตฺตโน ภริยํ จูฬยานกํ อาโรเปตฺวา
เอวํ สตฺถา มหากาลสฺส ปุพฺพกมฺมํ ทสฺเสตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, เอวํ อิเม สตฺเต อตฺตนา กตปาปกมฺมเมว จตูสุ อปาเยสุ อภิมตฺถตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๖๑.
‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตชํ อตฺตสมฺภวํ;
อภิมตฺถติ ทุมฺเมธํ, วชิรํวสฺมมยํ มณิ’’นฺติฯ
ตตฺถ วชิรํวสฺมมยํ มณินฺติ วชิรํว อสฺมมยํ มณิํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปาสาณมยํ ปาสาณสมฺภวํ วชิรํ ตเมว อสฺมมยํ มณิํ อตฺตโน อุฏฺฐานฏฺฐานสงฺขาตํ ปาสาณมณิํ ขาทิตฺวา ฉิทฺทํ ฉิทฺทํ ขณฺฑํ ขณฺฑํ กตฺวา อปริโภคํ กโรติ, เอวเมว อตฺตนา กตํ อตฺตนิ ชาตํ อตฺตสมฺภวํ ทุมฺเมธํ นิปฺปญฺญํ ปุคฺคลํ จตูสุ อปาเยสุ อภิมตฺถติ กนฺตติ วิทฺธํเสตีติฯ
เทสนาวสาเน สมฺปตฺตภิกฺขู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
มหากาลอุปาสกวตฺถุ ปญฺจมํฯ
๖. เทวทตฺตวตฺถุ
ยสฺส อจฺจนฺตทุสฺสีลฺยนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ
เอกสฺมิญฺหิ ทิวเส ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม ทุสฺสีลฺยการเณน วฑฺฒิตาย ตณฺหาย อชาตสตฺตุํ สงฺคณฺหิตฺวา มหนฺตํ ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตตฺวา อชาตสตฺตุํ ปิตุวเธ สมาทเปตฺวา เตน สทฺธิํ เอกโต หุตฺวา นานปฺปกาเรน ตถาคตสฺส วธาย ปริสกฺกตี’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต นานปฺปกาเรน มยฺหํ วธาย ปริสกฺกตี’’ติ วตฺวา กุรุงฺคมิคชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๒.๑๑๑-๒) กเถตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, อจฺจนฺตทุสฺสีลปุคฺคลํ นาม ทุสฺสีลฺยการณา อุปฺปนฺนา ตณฺหา มาลุวา วิย สาลํ ปริโยนนฺธิตฺวา สมฺภญฺชมานา นิรยาทีสุ ปกฺขิปตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถามาห –
๑๖๒.
‘‘ยสฺส
กโรติ โส ตถตฺตานํ, ยถา นํ อิจฺฉตี ทิโส’’ติฯ
ตตฺถ อจฺจนฺตทุสฺสีลฺยนฺติ เอกนฺตทุสฺสีลภาโวฯ คิหี วา ชาติโต ปฏฺฐาย ทส อกุสลกมฺมปเถ กโรนฺโต, ปพฺพชิโต วา อุปสมฺปนฺนทิวสโต ปฏฺฐาย ครุกาปตฺติํ อาปชฺชมาโน อจฺจนฺตทุสฺสีโล นามฯ อิธ ปน โย ทฺวีสุ ตีสุ อตฺตภาเวสุ ทุสฺสีโล, เอตสฺส คติยา อาคตํ ทุสฺสีลภาวํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ทุสฺสีลภาโวติ เจตฺถ ทุสฺสีลสฺส ฉ มาลุวา สาลมิโวตฺถตนฺติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส ตํ ตณฺหาสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ ยถา นาม มาลุวา สาลํ โอตฺถรนฺตี เทเว วสฺสนฺเต ปตฺเตหิ อุทกํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สมฺภญฺชนวเสน สพฺพตฺถกเมว ปริโยนนฺธติ, เอวํ อตฺตภาวํ โอตฺถตํ ปริโยนนฺธิตฺวา ฐิตํฯ โส มาลุวาย สมฺภญฺชิตฺวา ภูมิยํ ปาติยมาโน รุกฺโข วิย ตาย ทุสฺสีลฺยสงฺขาตาย ตณฺหาย สมฺภญฺชิตฺวา อปาเยสุ ปาติยมาโน, ยถา นํ อนตฺถกาโม ทิโส อิจฺฉติ, ตถา อตฺตานํ กโรติ นามาติ อตฺโถฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
เทวทตฺตวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ
๗. สงฺฆเภทปริสกฺกนวตฺถุ
สุกรานีติ
เอกทิวสญฺหิ เทวทตฺโต สงฺฆเภทาย ปริสกฺกนฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน อธิปฺปายํ อาโรเจสิฯ ตํ สุตฺวา เถโร สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ อทฺทสา โข มํ, ภนฺเต, เทวทตฺโต ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตํฯ ทิสฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘อชฺชตคฺเค ทานาหํ, อาวุโส อานนฺท, อญฺญตฺเรว ภควตา อญฺญตฺร ภิกฺขุสงฺเฆน อุโปสถํ กริสฺสามิ สงฺฆกมฺมญฺจา’ติฯ อชฺช ภควา เทวทตฺโต สงฺฆํ ภินฺทิสฺสติ, อุโปสถญฺจ กริสฺสติ สงฺฆกมฺมานิ จา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต สตฺถา –
‘‘สุกรํ สาธุนา สาธุ, สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ;
ปาปํ ปาเปน สุกรํ, ปาปมริเยหิ ทุกฺกร’’นฺติฯ (อุทา. ๔๘) –
อิมํ
๑๖๓.
‘‘สุกรานิ อสาธูนิ, อตฺตโน อหิตานิ จ;
ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ, ตํ เว ปรมทุกฺกร’’นฺติฯ
ตสฺสตฺโถ – ยานิ กมฺมานิ อสาธูนิ สาวชฺชานิ อปายสํวตฺตนิกตฺตาเยว อตฺตโน อหิตานิ จ โหนฺติ, ตานิ สุกรานิ ยํ ปน สุคติสํวตฺตนิกตฺตา อตฺตโน หิตญฺจ อนวชฺชตฺเถน สาธุญฺจ สุคติสํวตฺตนิกญฺเจว นิพฺพานสํวตฺตนิกญฺจ กมฺมํ, ตํ ปาจีนนินฺนาย คงฺคาย อุพฺพตฺเตตฺวา ปจฺฉามุขกรณํ วิย อติทุกฺกรนฺติฯ
เทสนาวสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ ปาปุณิํสูติฯ
สงฺฆเภทปริสกฺกนวตฺถุ สตฺตมํฯ
๘. กาลตฺเถรวตฺถุ
โย สาสนนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กาลตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ
สาวตฺถิยํ กิเรกา อิตฺถี มาตุฏฺฐาเน ฐตฺวา ตํ เถรํ อุปฏฺฐหิฯ ตสฺสา ปฏิวิสฺสกเคเห มนุสฺสา สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘อโห พุทฺธา นาม อจฺฉริยา, อโห ธมฺมเทสนา มธุรา’’ติ ปสํสนฺติฯ สา อิตฺถี เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหมฺปิ สตฺถุ ธมฺมเทสนํ โสตุกามา’’ติ ตสฺส อาโรเจสิฯ โส ‘‘ตตฺถ มา คมี’’ติ ตํ นิวาเรสิฯ สา ปุนทิวเส ปุนทิวเสปีติ ยาวตติยํ เตน นิวาริยมานาปิ โสตุกามาว อโหสิฯ กสฺมา โส ปเนตํ นิวาเรสีติ? เอวํ กิรสฺส อโหสิ – ‘‘สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา มยิ ภิชฺชิสฺสตี’’ติฯ สา เอกทิวสํ ปาโตว ภุตฺตปาตราสา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา, ‘‘อมฺม, สาธุกํ อยฺยํ ปริวิเสยฺยาสี’’ติ ธีตรํ อาณาเปตฺวา วิหารํ อคมาสิฯ ธีตาปิสฺสา ตํ ภิกฺขุํ อาคตกาเล ปริวิสิตฺวา ‘‘กุหิํ มหาอุปาสิกา’’ติ วุตฺตา ‘‘ธมฺมสฺสวนาย
๑๖๔.
‘‘โย สาสนํ อรหตํ, อริยานํ ธมฺมชีวินํ;
ปฏิกฺโกสติ ทุมฺเมโธ, ทิฏฺฐิํ นิสฺสาย ปาปิกํ;
ผลานิ กฏฺฐกสฺเสว, อตฺตฆาตาย ผลฺลตี’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – โย ทุมฺเมโธ ปุคฺคโล อตฺตโน สกฺการหานิภเยน ปาปิกํ ทิฏฺฐิํ นิสฺสาย ‘‘ธมฺมํ วา โสสฺสาม, ทานํ วา ทสฺสามา’’ติ วทนฺเต ปฏิกฺโกสนฺโต อรหตํ อริยานํ ธมฺมชีวินํ พุทฺธานํ สาสนํ ปฏิกฺโกสติ, ตสฺส ตํ ปฏิกฺโกสนํ สา จ ปาปิกา ทิฏฺฐิ เวฬุสงฺขาตสฺส กฏฺฐกสฺส ผลานิ วิย โหติฯ ตสฺมา ยถา กฏฺฐโก ผลานิ คณฺหนฺโต อตฺตฆาตาย ผลฺลติ, อตฺตโน ฆาตตฺถเมว ผลติ, เอวํ โสปิ อตฺตฆาตาย ผลฺลตีติฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ผลํ
สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ, คพฺโภ อสฺสตริํ ยถา’’ติฯ (จูฬว. ๓๓๕; อ. นิ. ๔.๖๘);
เทสนาวสาเน อุปาสิกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺฐหิ, สมฺปตฺตปริสายปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
กาลตฺเถรวตฺถุ อฏฺฐมํฯ
๙. จูฬกาลอุปาสกวตฺถุ
อตฺตนา หิ กตนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต จูฬกาลํ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิฯ
เอกทิวสญฺหิ มหากาลวตฺถุสฺมิํ วุตฺตนเยเนว อุมงฺคโจรา สามิเกหิ อนุพทฺธา รตฺติํ วิหาเร ธมฺมกถํ สุตฺวา ปาโตว วิหารา นิกฺขมิตฺวา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตสฺส ตสฺส อุปาสกสฺส ปุรโต ภณฺฑิกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิํสุฯ มนุสฺสา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ รตฺติํ โจรกมฺมํ กตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จรติ, คณฺหถ น’’นฺติ ตํ โปถยิํสุฯ กุมฺภทาสิโย อุทกติตฺถํ คจฺฉมานา ตํ ทิสฺวา ‘‘อเปถ, สามิ, นายํ เอวรูปํ กโรตี’’ติ ตํ โมเจสุํฯ โส วิหารํ คนฺตฺวา, ‘‘ภนฺเต, อหมฺหิ มนุสฺเสหิ นาสิโต, กุมฺภทาสิโย เม นิสฺสาย ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ตถาคตสฺส ตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา, ‘‘ภิกฺขเว, จูฬกาลอุปาสโก กุมฺภทาสิโย เจว นิสฺสาย, อตฺตโน จ อกรณภาเวน ชีวิตํ ลภิฯ อิเม หิ นาม สตฺตา อตฺตนา ปาปกมฺมํ กตฺวา นิรยาทีสุ อตฺตนาว กิลิสฺสนฺติ, กุสลํ กตฺวา ปน สุคติญฺเจว นิพฺพานญฺจ คจฺฉนฺตา อตฺตนาว วิสุชฺฌนฺตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
๑๖๕.
‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตนา สํกิลิสฺสติ;
อตฺตนา อกตํ ปาปํ, อตฺตนาว วิสุชฺฌติ;
สุทฺธี อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ, นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ อตฺตนา อกุสลกมฺมํ กตํ โหติ, โส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต อตฺตนาว สํกิลิสฺสติฯ เยน ปน อตฺตนา อกตํ ปาปํ, โส สุคติญฺเจว นิพฺพานญฺจ คจฺฉนฺโต อตฺตนาว วิสุชฺฌติฯ กุสลกมฺมสงฺขาตา สุทฺธิ อกุสลกมฺมสงฺขาตา จ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ การกสตฺตานํ อตฺตนิเยว วิปจฺจติฯ อญฺโญ ปุคฺคโล อญฺญํ ปุคฺคลํ น วิโสธเย เนว วิโสเธติ, น กิเลเสตีติ วุตฺตํ โหติฯ
เทสนาวสาเน
จูฬกาลอุปาสกวตฺถุ นวมํฯ
๑๐. อตฺตทตฺถตฺเถรวตฺถุ
อตฺตทตฺถนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตทตฺถตฺเถรํ อารพฺภ กเถสิฯ
สตฺถารา หิ ปรินิพฺพานกาเล, ‘‘ภิกฺขเว, อหํ อิโต จตุมาสจฺจเยน ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วุตฺเต อุปฺปนฺนสํเวคา สตฺตสตา ปุถุชฺชนา ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติกํ อวิชหิตฺวา ‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส, กริสฺสามา’’ติ สมฺมนฺตยมานา วิจรนฺติฯ อตฺตทตฺถตฺเถโร ปน จินฺเตสิ – ‘‘สตฺถา กิร จตุมาสจฺจเยน ปรินิพฺพายิสฺสติ, อหญฺจมฺหิ อวีตราโค, สตฺถริ ธรมาเนเยว อรหตฺตตฺถาย วายมิสฺสามี’’ติฯ โส ภิกฺขูนํ สนฺติกํ น คจฺฉติฯ อถ นํ ภิกฺขู ‘‘กสฺมา, อาวุโส, ตฺวํ เนว อมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉสิ, น กิญฺจิ มนฺเตสี’’ติ วตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, เอวํ นาม กโรตี’’ติ อาโรจยิํสุฯ โส สตฺถาราปิ ‘‘กสฺมา เอวํ กโรสี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺเห กิร, ภนฺเต, จตุมาสจฺจเยน
๑๖๖.
‘‘อตฺตทตฺถํ ปรตฺเถน, พหุนาปิ น หาปเย;
อตฺตทตฺถมภิญฺญาย, สทตฺถปสุโต สิยา’’ติฯ
ตสฺสตฺโถ – คิหิภูตา ตาว กากณิกมตฺตมฺปิ อตฺตโน อตฺถํ สหสฺสมตฺเตนาปิ ปรสฺส อตฺเถน อตฺตทตฺถมภิญฺญาย ‘‘อยํ เม อตฺตโน อตฺโถ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา สทตฺถปสุโต สิยาติ ตสฺมิํ สเก อตฺเถ อุยฺยุตฺตปยุตฺโต ภเวยฺยาติฯ
เทสนาวสาเน โส เถโร อรหตฺเต ปติฏฺฐหิ, สมฺปตฺตภิกฺขูนมฺปิ สาตฺถิกา ธมฺมเทสนา อโหสีติฯ
อตฺตทตฺถตฺเถรวตฺถุ ทสมํฯ
อตฺตวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
ทฺวาทสโม วคฺโคฯ