๑๒. ทฺวาทสกนิปาโต
๑. สีลวตฺเถรคาถาวณฺณนา
ทฺวาทสกนิปาเต สีลเมวาติอาทิกา อายสฺมโต สีลวตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฏฺฏูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พิมฺพิสารรญฺโญ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, สีลวาติสฺส นามํ อโหสิฯ ตํ วยปฺปตฺตํ ราชา อชาตสตฺตุ มาเรตุกาโม จณฺฑํ มตฺตหตฺถิํ อาโรเปตฺวา นานาวิเธหิ อุปาเยหิ อุปกฺกมนฺโตปิ มาเรตุํ นาสกฺขิ ปจฺฉิมภวิกสฺส อรหตฺตํ อปฺปตฺวา อนฺตรา ชีวิตนฺตรายาภาวโตฯ ตสฺส ปวตฺติํ
๖๐๘.
‘‘สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมิํ โลเก สุสิกฺขิตํฯ
สีลญฺหิ สพฺพสมฺปตฺติํ, อุปนาเมติ เสวิตํฯ
๖๐๙.
‘‘สีลํ รกฺเขยฺย เมธาวี, ปตฺถยาโน ตโย สุเข;
ปสํสํ วิตฺติลาภญฺจ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทนํฯ
๖๑๐.
‘‘สีลวา หิ พหู มิตฺเต, สญฺญเมนาธิคจฺฉติ;
ทุสฺสีโล ปน มิตฺเตหิ, ธํสเต ปาปมาจรํฯ
๖๑๑.
‘‘อวณฺณญฺจ อกิตฺติญฺจ, ทุสฺสีโล ลภเต นโร;
วณฺณํ กิตฺติํ ปสํสญฺจ, สทา ลภติ สีลวาฯ
๖๑๒.
‘‘อาทิ
ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเยฯ
๖๑๓.
‘‘เวลา จ สํวรํ สีลํ, จิตฺตสฺส อภิหาสนํ;
ติตฺถญฺจ สพฺพพุทฺธานํ, ตสฺมา สีลํ วิโสธเยฯ
๖๑๔.
‘‘สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ, สีลํ อาวุธมุตฺตมํ;
สีลมาภรณํ เสฏฺฐํ, สีลํ กวจมพฺภุตํฯ
๖๑๕.
‘‘สีลํ เสตุ มเหสกฺโข, สีลํ คนฺโธ อนุตฺตโร;
สีลํ วิเลปนํ เสฏฺฐํ, เยน วาติ ทิโสทิสํฯ
๖๑๖.
‘‘สีลํ สมฺพลเมวคฺคํ, สีลํ ปาเถยฺยมุตฺตมํ;
สีลํ เสฏฺโฐ อติวาโห, เยน ยาติ ทิโสทิสํฯ
๖๑๗.
‘‘อิเธว นินฺทํ ลภติ, เปจฺจาปาเย จ ทุมฺมโน;
สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล, สีเลสุ อสมาหิโตฯ
๖๑๘.
‘‘อิเธว กิตฺติํ ลภติ, เปจฺจ สคฺเค จ สุมฺมโน;
สพฺพตฺถ สุมโน ธีโร, สีเลสุ สุสมาหิโตฯ
๖๑๙.
‘‘สีลเมว อิธ อคฺคํ, ปญฺญวา ปน อุตฺตโม;
มนุสฺเสสุ จ เทเวสุ, สีลปญฺญาณโต ชย’’นฺติฯ –
อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิฯ
ตตฺถ สีลเมวิธ สิกฺเขถ, อสฺมิํ โลเกติ อิธาติ, นิปาตมตฺตํ, อิมสฺมิํ สตฺตโลเก อตฺถกาโม กุลปุตฺโต จาริตฺตวาริตฺตาทิเภทํ อาทิโต สีลเมว สิกฺเขยฺย, สิกฺขนฺโต จ นํ สุสิกฺขิตํ อขณฺฑาทิภาวาปาทเนน สุฏฺฐุ สิกฺขิตํ สุปริสุทฺธํ ปริปุณฺณญฺจ กตฺวา สิกฺเขยฺยฯ อสฺมิํ โลเกติ วา อิมสฺมิํ สงฺขารโลเก สิกฺขิตพฺพธมฺเมสุ สีลํ อาทิโต สิกฺเขยฺยฯ ทิฏฺฐิสมฺปตฺติยาปิ สีลสฺส ปติฏฺฐาภาวโต อาห ‘‘สีลํ หี’’ติอาทิฯ ตตฺถ หีติ การณวจนํฯ ยสฺมา สีลํ เสวิตํ ปริจิตํ รกฺขิตํ สพฺพสมฺปตฺติํ ตํสมงฺคิโน สตฺตสฺส อุปนาเมติ อาวหติฯ
สีลํ สพฺพสมฺปตฺติํ อุปนาเมตีติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลํ รกฺเขยฺยา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ รกฺเขยฺยาติ โคเปยฺยฯ ปาณาติปาตาทิโต หิ วิรมนฺโต วตฺตปฏิวตฺตญฺจ ปูเรนฺโต ปฏิปกฺขาภิภวนโต ตํ รกฺขติ นามฯ เมธาวีติ ปญฺญวา, อิทํ ตสฺส รกฺขนุปายทสฺสนํ ญาณพเลน หิสฺส สมาทานํ อวิโกปนญฺจ โหติฯ ปตฺถยาโนติ อิจฺฉนฺโตฯ ตโย สุเขติ ปสํสนฺติ กิตฺติํ, วิญฺญูหิ วา ปสํสนํฯ วิตฺติลาภนฺติ ตุฏฺฐิลาภํฯ ‘‘วิตฺตลาภ’’นฺติ จ ปฐนฺติ, ธนลาภนฺติ อตฺโถฯ สีลวา หิ อปฺปมตฺตตาย มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺฉติฯ เปจฺจาติ กาลงฺกตฺวาฯ สคฺเค ปโมทนนฺติ เทวโลเก อิฏฺเฐหิ กามคุเณหิ, โมทนญฺจ ปตฺถยมาโนติ สมฺพนฺโธฯ อิธโลเก ปสํสํ วิตฺติลาภํ ปรโลเก ทิพฺพสมฺปตฺติยา โมทนญฺจ อิจฺฉนฺโต สีลํ รกฺเขยฺยาติ โยชนาฯ
สญฺญเมนาติ กายาทีนํ สํยเมนฯ สํยโต หิ กายทุจฺจริตาทีหิ กญฺจิ อวิเหเฐนฺโต อภยทานํ ททนฺโต ปิยมนาปตาย มิตฺตานิ คนฺถติฯ ธํสเตติ อเปติฯ ปาปมาจรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปกมฺมํ กโรนฺโตฯ ทุสฺสีลญฺหิ ปุคฺคลํ อตฺถกามา สตฺตา น ภชนฺติ, อญฺญทตฺถุ ปริวชฺเชนฺติฯ
อวณฺณนฺติ อคุณํ, สมฺมุขา ครหํ วาฯ อกิตฺตินฺติ, อยสํ อสิโลกํฯ วณฺณนฺติ คุณํฯ กิตฺตินฺติ สิโลกํ ปตฺถฏยสตํฯ ปสํสนฺติ สมฺมุขา โถมนํฯ
อาทีติ มูลํฯ สีลญฺหิ กุสลานํ ธมฺมานํ อาทิฯ ยถาห – ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุฯ โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ? สีลญฺจ สุวิสุทฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙)ฯ ปติฏฺฐาติ อธิฏฺฐานํฯ สีลญฺหิ สพฺเพสํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ ปติฏฺฐาฯ เตนาห – ‘‘สีเล ปติฏฺฐายา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๓; ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙)ฯ กลฺยาณานญฺจ มาตุกนฺติ สมถวิปสฺสนาทีนํ กลฺยาณธมฺมานํ มาตุภูตํ ปมุขํ สพฺพธมฺมานนฺติ, สพฺเพสํ ปาโมชฺชาทีนํ อนวชฺชธมฺมานํ ปมุขํ มุขภูตํ, ปวตฺติทฺวารนฺติ อตฺโถฯ ตสฺมาติ อาทิภาวาทิโตฯ วิโสธเยติ อกฺขณฺฑาทิภาเวน สมฺปาเทยฺยฯ
เวลาติ ทุจฺจริเตหิ อนติกฺกมนียฏฺเฐน เวลา, สีมาติ อตฺโถ อภิหาสนนฺติ โตสนํ อวิปฺปฏิสารเหตุตาย จิตฺตสฺสาภิปฺปโมทนโตฯ ติตฺถญฺจ สพฺพพุทฺธานนฺติ สาวกพุทฺธา, ปจฺเจกพุทฺธา, สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สพฺเพสํ พุทฺธานํ กิเลสมลปฺปวาหเน นิพฺพานมหาสมุทฺทาวคาหเณ จ ติตฺถภูตญฺจฯ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมนฺติ มารเสนปฺปมทฺทเน อสทิสํ พลํ เสนาถาโม จฯ อาวุธมุตฺตมนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ อาภรณํฯ เสฏฺฐนฺติ สพฺพกาลํ อุตฺตมํ ทพฺพญฺจฯ สปาณปริตฺตานโต กวจมพฺภุตํฯ ‘‘อพฺภิท’’นฺติ จ ปฐนฺติ, อเภชฺชนฺติ อตฺโถฯ
อปายมโหฆาติกฺกมเน สํสารมโหฆาติกฺกมเน จ กิเลเสหิ อสํสีทนฏฺเฐน เสตุฯ มเหสกฺโขติ มหพฺพโลฯ คนฺโธ อนุตฺตโรติ ปฏิวาตํ สพฺพทิสาสุ วายนโต อนุตฺตโร คนฺโธ สพฺพชนมโนหรตฺตาฯ เตนาห ‘‘เยน วาติ ทิโสทิส’’นฺติ เยน สีลคนฺเธน ตํสมงฺคี ทิโสทิสํ สพฺพา ทิสา วายติฯ ‘‘ทิโสทิสา’’ติปิ ปาฬิ, ทส ทิสาติ อตฺโถฯ
สมฺพลเมวคฺคนฺติ สมฺพลํ นาม ปุฏภตฺตํฯ ยถา ปุฏภตฺตํ คเหตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺโต ปุริโส อนฺตรามคฺเค ชิฆจฺฉาทุกฺเขน น กิลมติ, เอวํ สีลสมฺปนฺโนปิ สุทฺธํ สีลสมฺพลํ คเหตฺวา สํสารกนฺตารํ ปฏิปนฺโน คตคตฏฺฐาเน น กิลมตีติ สีลํ อคฺคํ สมฺพลํ นามฯ ตถา สีลํ ปาเถยฺยมุตฺตมํ โจราทีหิ อสาธารณตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อิจฺฉิตพฺพสมฺปตฺตินิปฺผาทนโต จฯ อติกฺกาเมนฺโต ตํ ตํ ฐานํ ยถิจฺฉิตฏฺฐานํ วา วาเหติ สมฺปาเปตีติ อติวาโห, ยานํฯ เกนจิ อนุปทฺทุตํ หุตฺวา อิจฺฉิตฏฺฐานปฺปตฺติเหตุตาย เยนาติ เยน อติวาเหน ยาติ ทิโสทิสนฺติ อคติํ คติญฺจาปิ ตํ ตํ ทิสํ สุเขเนว คจฺฉติฯ
อิเธว นินฺทํ ลภตีติ อิธโลเกปิ ทุมฺมโน ราคาทีหิ ทูสิตจิตฺโต ‘‘ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’’ติ นินฺทํ ครหํ ลภติฯ เปจฺจ ปรโลเกปิ อปาเย ‘‘ปุริสตฺตกลิ อวชาตา’’ติอาทินา ยมปุริสาทีหิ จ นินฺทํ ลภติฯ น เกวลํ นินฺทเมว ลภติ, อถ โข สพฺพตฺถ ทุมฺมโน พาโล อิธโลเก ทุจฺจริตจรเณน ทูสิตจิตฺโต ปรโลเก กมฺมการณาทิวเสน ทุกฺขุปฺปตฺติยาติ สพฺพตฺถ พาโล ทุมฺมโน โหติฯ กถํ? สีเลสุ อสมาหิโต สมฺมา สีเลสุ น ฐปิตจิตฺโต อปฺปติฏฺฐิตจิตฺโตฯ
อิเธว กิตฺติํ ลภตีติ อิธโลเกปิ สุมโน ‘‘สปฺปุริโส สีลวา กลฺยาณธมฺโม’’ติ กิตฺติํ ลภติฯ เปจฺจ ปรโลเกปิ สคฺเค ‘‘อยํ สปฺปุริโส สีลวา กลฺยาณธมฺโมฯ ตถา หิ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปนฺโน’’ติอาทินา กิตฺติํ ลภติฯ น เกวลํ กิตฺติเมว ลภติ, อถ โข ธีโร ธิติสมฺปนฺโน สีเลสุ สุฏฺฐุ สมาหิโต อปฺปิตจิตฺโต สุปติฏฺฐิตจิตฺโต สพฺพตฺถ อิธโลเก สุจริตจรเณน, ปรโลเก สมฺปตฺติปฏิลาเภน สุมโน โสมนสฺสปฺปตฺโต โหติฯ สีลเมว อิธ อคฺคนฺติ ทุวิธํ สีลํ โลกิยํ โลกุตฺตรนฺติฯ ตตฺถ โลกิยํ ตาว กามโลเก ขตฺติยมหาสาลาทีสุ, เทวโลเก พฺรหฺมโลเก จ อุปปตฺติวิเสสํ อาวหติ, ลาภีภาวาทิกสฺส จ การณํ
‘‘หีเนน พฺรหฺมจริเยน, ขตฺติเย อุปปชฺชติ;
มชฺฌิเมน จ เทวตฺตํ, อุตฺตเมน วิสุชฺฌตี’’ติฯ (ชา. ๑.๘.๗๕);
อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ – ‘‘ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๕), ‘‘สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๕), ‘‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’’ติ (อ. นิ. ๘.๓๕; ที. นิ. ๓.๓๓๗) จฯ
โลกุตฺตรสีลสฺส ปญฺญวา ปน อุตฺตโมติ ‘‘ปญฺญวา ปน ปุคฺคโล อุตฺตโม ปรโม เสฏฺโฐเยวา’’ติ ปุคฺคลาธิฏฺฐาเนน ปญฺญาย เอว เสฏฺฐภาวํ วทติฯ อิทานิ สีลปญฺญานํ เสฏฺฐภาวํ กิจฺจโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลปญฺญาณโต ชย’’นฺติ อาหฯ ชยนฺติ จ ลิงฺควิปลฺลาโส ทฏฺฐพฺโพ, อหูติ วา วจนเสโสฯ ตตฺถ ปชานนฏฺเฐน ปญฺญาณํ, สีลโต ปญฺญาณโต จ ปฏิปกฺขชโยฯ น หิ สีเลน วินา ปญฺญา สมฺภวติ, ปญฺญาย จ วินา สีลํ กิจฺจกรํ, อญฺญมญฺโญปการกญฺเจตํฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘สีลปริโธตา ปญฺญา, ปญฺญาปริโธตํ สีล’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๓๑๗) มนุสฺเสสุ จ เทเวสูติ อิทํ เนสํ ฐานวิเสสทสฺสนํฯ ตตฺถ หิ ตานิ สวิเสสานิ วตฺตนฺติ, สมาธิ ปเนตฺถ สีลปกฺขิโก ปญฺญาย อธิฏฺฐานภาวโต, ปญฺญาปกฺขิโก วา ภาเวตพฺพโต สีลาธิฏฺฐานโต จฯ
เอวํ เถโร เตสํ ภิกฺขูนํ สีลมุเขน ธมฺมํ เทเสนฺโต อตฺตโน สุวิสุทฺธสีลาทิคุณตาทีปเนน อญฺญํ พฺยากาสิฯ
สีลวตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
๒. สุนีตตฺเถรคาถาวณฺณนา
นีเจ กุลมฺหีติอาทิกา อายสฺมโต สุนีตตฺเถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุทฺเธสุ
อถ ภควา ปจฺฉิมยาเม พุทฺธาจิณฺณํ มหากรุณาสมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺฐาย พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สุนีตสฺส หทยพฺภนฺตเร ฆเฏ ปทีปํ วิย ปชฺชลนฺตํ อรหตฺตูปนิสฺสยํ ทิสฺวา วิภาตาย รตฺติยา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโฐฯ ยสฺสํ วีถิยํ สุนีโต อุกฺการโสธนกมฺมํ กโรติ, ตํ วีถิํ ปฏิปชฺชิฯ สุนีโตปิ ตตฺถ ตตฺถ วิฆาสุจฺจารสงฺการาทิกํ ราสิํ กตฺวา ปิฏเกสุ ปกฺขิปิตฺวา กาเชนาทาย ปริหรนฺโต ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ สตฺถารํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สารชฺชมาโน สมฺภมากุลหทโย คมนมคฺคํ นิลียโนกาสญฺจ อลภนฺโต กาชํ ภิตฺติปสฺเส ฐเปตฺวา เอเกน ปสฺเสน อนุปวิสนฺโต วิย ภิตฺติํ อลฺลีโน ปญฺชลิโก อฏฺฐาสิฯ ‘‘ภิตฺติฉิทฺเทน อปกฺกมิตุกาโม อโหสี’’ติปิ วทนฺติฯ
สตฺถา ตสฺส สมีปํ ปตฺวา ‘‘อยํ อตฺตโน กุสลมูลสญฺโจทิตํ อุปคตํ มํ สารชฺชมาโน ชาติยา กมฺมสฺส จ นิหีนตาย สมฺมุขีภาวมฺปิ ลชฺชติ, หนฺทสฺส เวสารชฺชํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ กรวีกรุตมญฺชุนา สกลนครนินฺนาทวร-คมฺภีเรน พฺรหฺมสฺสเรน ‘‘สุนีตา’’ติ อาลปิตฺวา ‘‘กิํ อิมาย ทุกฺขชีวิกาย ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ อาหฯ สุนีโต เตน สตฺถุ วจเนน อมเตน วิย อภิสิตฺโต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ ปฏิสํเวเทนฺโต ‘‘ภควา, สเจ มาทิสาปิ อิธ ปพฺพชฺชํ ลภนฺติ, กสฺมาหํ น ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพาเชถ มํ ภควา’’ติ อาห
‘‘ตา
อาชานียํ ชาติชราภิภูตํ, สุนีตํ นมสฺสนฺติ ปสนฺนจิตฺตา’’ติอาทิฯ
ภควา ตํเยว เทวสงฺฆปุรกฺขตํ ทิสฺวา สิตํ กตฺวา ปสํสนฺโต ‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยนา’’ติ คาถาย ธมฺมํ เทเสสิฯ อถ นํ สมฺพหุลา ภิกฺขู สีหนาทํ นทาเปตุกามา, ‘‘อาวุโส สุนีต, กสฺมา กุลา ตฺวํ ปพฺพชิโต, กถํ วา ปพฺพชิโต, กถญฺจ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌี’’ติ ปุจฺฉิํสุฯ โส ตํ สพฺพํ ปกาเสนฺโต –
๖๒๐.
‘‘นีเจ กุลมฺหิ ชาโตหํ, ทลิทฺโท อปฺปโภชโน;
หีนกมฺมํ มมํ อาสิ, อโหสิํ ปุปฺผฉฑฺฑโกฯ
๖๒๑.
‘‘ชิคุจฺฉิโต มนุสฺสานํ, ปริภูโต จ วมฺภิโต;
นีจํ มนํ กริตฺวาน, วนฺทิสฺสํ พหุกํ ชนํฯ
๖๒๒.
‘‘อถทฺทสาสิํ สมฺพุทฺธํ, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขตํ;
ปวิสนฺตํ มหาวีรํ, มคธานํ ปุรุตฺตมํฯ
๖๒๓.
‘‘นิกฺขิปิตฺวาน พฺยาภงฺคิํ, วนฺทิตุํ อุปสงฺกมิํ;
มเมว อนุกมฺปาย, อฏฺฐาสิ ปุริสุตฺตโมฯ
๖๒๔.
‘‘วนฺทิตฺวา สตฺถุโน ปาเท, เอกมนฺตํ ฐิโต ตทา;
ปพฺพชฺชํ อหมายาจิํ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํฯ
๖๒๕.
‘‘ตโต
‘เอหิ ภิกฺขู’ติ มํ อาห, สา เม อาสูปสมฺปทาฯ
๖๒๖. ‘‘โสหํ เอโก อรญฺญสฺมิํ, วิหรนฺโต อตนฺทิโตฯ
อกาสิํ สตฺถุ วจนํ, ยถา มํ โอวที ชิโนฯ
๖๒๗.
‘‘รตฺติยา ปฐมํ ยามํ, ปุพฺพชาติมนุสฺสริํ;
รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ, ทิพฺพจกฺขุํ วิโสธยิํ;
รตฺติยา ปจฺฉิเม ยาเม, ตโมขนฺธํ ปทาลยิํฯ
๖๒๘.
‘‘ตโต
อินฺโท พฺรหฺมา จ อาคนฺตฺวา, มํ นมสฺสิํสุ ปญฺชลีฯ
๖๒๙.
‘‘นโม เต ปุริสาชญฺญ, นโม เต ปุริสุตฺตม;
ยสฺส เต อาสวา ขีณา, ทกฺขิเณยฺโยสิ มาริสฯ
๖๓๐.
‘‘ตโต
สิตํ ปาตุกริตฺวาน, อิมมตฺถํ อภาสถฯ
๖๓๑.
‘‘ตเปน พฺรหฺมจริเยน, สํยเมน ทเมน จ;
เอเตน พฺราหฺมโณ โหติ, เอตํ พฺราหฺมณมุตฺตม’’นฺติฯ –
อิมาหิ คาถาหิ สีหนาทํ นทิฯ
ตตฺถ นีเจติ ลามเก สพฺพนิหีเนฯ อุจฺจนีจภาโว หิ นาม สตฺตานํ อุปาทายุปาทาย, อยํ ปน สพฺพนิหีเน ปุกฺกุสกุเล อุปฺปนฺนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นีเจ กุลมฺหิ ชาโต’’ติ อาหฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘นีเจติ ลามเก สพฺพนิหีเน’’ติฯ ทลิทฺโทติ ทุคฺคโต, ทลิทฺทาปิ เกจิ กทาจิ ฆาสจฺฉาทนสฺส ลาภิโน, อกสิรวุตฺติโน โหนฺติ, อหํ ปน สพฺพกาลํ กสิรวุตฺติตาย หีโน อุทฺธนํ อุปฏฺฐปิตอุกฺขลิโก ทสฺสนยุตฺตํ เถวกมฺปิ อปสฺสิํ เยวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปโภชโน’’ติ อาหฯ นีจกุลิกา ทลิทฺทาปิ เกจิ อนีจกมฺมาชีวา โหนฺติ, มยฺหํ ปน น ตถาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หีนกมฺมํ มมํ อาสี’’ติฯ กีทิสนฺติ เจ? อโหสิํ ปุปฺผฉฑฺฑโก, หตฺถวิกลสฺส หตฺถวาติ วิย อุปจารวเสนายํ อิมสฺส สมญฺญา อโหสิ ยทิทํ ‘‘ปุปฺผฉฑฺฑโก’’ติฯ มิลาตปุปฺผสนฺถรวณฺณตาย วา อุกฺการภูมิยา เอวํ วุตฺโตฯ
ชิคุจฺฉิโตติ ชาติยา เจว กมฺมุนา จ หีฬิโตฯ มนุสฺสานนฺติ มนุสฺเสหิฯ ปริภูโตติ อวญฺญาโตฯ วมฺภิโตติ ขุํสิโตฯ นีจํ มนํ กริตฺวานาติ อญฺเญ มนุสฺเส สิเนรุํ วิย อุกฺขิปิตฺวา เตสํ ปาทปํสุโตปิ อตฺตานํ นิหีนํ กตฺวา ปวตฺติยา นีจํ นิหีนํ มนํ กตฺวาฯ วนฺทิสฺสํ พหุกํ ชนนฺติ ปุถุมหาชนํ ทิฏฺฐทิฏฺฐกาเล วนฺทิํ สิรสิ อญฺชลิํ กโรนฺโต ปณามิํฯ
อถาติ อธิการนฺตรทีปเน นิปาโตฯ อทฺทสาสินฺติ อทฺทกฺขิํฯ มคธานนฺติ มคธา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหิยา ‘‘มคธาน’’นฺติ วุตฺโต, มคธชนปทสฺสาติ อตฺโถฯ ปุรุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ นครํฯ
พฺยาภงฺคินฺติ กาชํฯ ปพฺพชฺชํ อหมายาจินฺติ, ‘‘สุนีต, ปพฺพชิตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ สตฺถารา โอกาเส กเต อหํ ปพฺพชฺชํ อยาจิํฯ อาสูปสมฺปทาติ ‘‘เอหิ, ภิกฺขู’’ติ สตฺถุ วจนมตฺเตน อาสิ อุปสมฺปทาฯ ยถา มํ โอวทีติ ‘‘เอวํ สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวหี’’ติ ยถา มํ โอวทิ, ตถา สตฺถุโน วจนํ อกาสิํ ปฏิปชฺชิํฯ รตฺติยาติอาทิ ตสฺสา ปฏิปตฺติยา รสทสฺสนํฯ ตตฺถ ปุพฺเพนิวาสญาณํ ปฐมํ ยามํ มชฺฌิมํ ยาม’’นฺติ อจฺจนฺตสํโยควเสน อุปโยควจนํ วุตฺตํฯ น ตถา อาสวกฺขยญาณํ เอกาภิสมยวเสน ปวตฺตนโตติ ‘‘ปจฺฉิเม ยาเม’’ติ ภุมฺมวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ อินฺโทติ สกฺโก เทวราชาฯ พฺรหฺมาติ มหาพฺรหฺมาฯ อินฺทพฺรหฺมคฺคหเณน อญฺเญสํ กามเทวานํ พฺรหฺมูนญฺจ อาคมนํ วุตฺตเมวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ อุกฺกฏฺฐนิทฺเทโส เหส ยถา ‘‘ราชา อาคโต’’ติฯ นมสฺสิํสูติ กาเยน วาจาย จ นมกฺการํ อกํสุฯ
ตตฺถ กาเยน กตํ นมกฺการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปญฺชลี’’ติ วตฺวา วาจาย กตํ ทสฺเสตุํ ‘‘นโม เต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เทวสงฺฆปุรกฺขตนฺติ เทวคฺคหเณน อุปปตฺติเทวภาวโต พฺรหฺมาโนปิ คหิตาฯ สิตํ ปาตุกริตฺวานาติ อตฺตโน โอวาทสฺส มหปฺผลตํ เทวพฺรหฺมูนญฺจ คุณสมฺปตฺติํ นิสฺสาย สตฺถา สิตํ ปาตฺวากาสิฯ ปาตุกโรนฺโต จ น อญฺเญ วิย ทนฺเต วิทํเสติ, มุขาธานํ ปน โถกํ วิวรติ, ตตฺตเกน จ อภิภูตทิพฺพผลิกมุตฺตรสฺมิโย อวหสิตตารกาสสิมรีจิโย สุสุกฺกทาฐสมฺภวา ฆนรสฺมิโย นิกฺขมิตฺวา ติกฺขตฺตุํ สตฺถุ มุขํ ปทกฺขิณํ กโรนฺติ, ตํ ทิสฺวา ปจฺฉโต คจฺฉนฺตาปิ สตฺถา สิตํ ปาตฺวากาสีติ สญฺชานนฺติฯ
ตเปนาติ สํยเมนาติ สีเลนฯ ทเมนาติ ปญฺญายฯ พฺรหฺมจริเยนาติ อวสิฏฺฐเสฏฺฐจริยายฯ เอเตนาติ ยถาวุตฺเตน ตปาทินาฯ พฺราหฺมโณ โหติ พาหิตปาปภาวโตฯ เอตนฺติ ตปาทิ ยถาวุตฺตํฯ พฺราหฺมณมุตฺตมนฺติ อุตฺตมํ พฺราหฺมณํ, พฺราหฺมเณสุ วา อุตฺตมํ สพฺพเสฏฺฐํ, อหูติ วจนเสโสฯ พฺราหฺมณนฺติ วา พฺรหฺมญฺญมาห, เอวํ อุตฺตมํ พฺรหฺมญฺญํ, น ชจฺจาทีติ อธิปฺปาโยฯ น หิ ชาติกุลปเทสโคตฺตสมฺปตฺติอาทโย อริยภาวสฺส การณํ, อธิสีลสิกฺขาทโย เอว ปน การณํฯ เตนาห –
‘‘ยถา สงฺการฐานสฺมิํ, อุชฺฌิตสฺมิํ มหาปเถ;
ปทุมํ ตตฺถ ชาเยถ, สุจิคนฺธํ มโนรมํฯ
‘‘เอวํ สงฺการภูเตสุ, อนฺธภูเต ปุถุชฺชเน;
อติโรจติ ปญฺญาย, สมฺมาสมฺพุทฺธสาวโก’’ติฯ (ธ. ป. ๕๘-๕๙);
เอวํ เถโร เตหิ ภิกฺขูหิ ปุจฺฉิตมตฺถํ อิมาหิ คาถาหิ วิสฺสชฺเชนฺโต สีหนาทํ นทีติฯ
สุนีตตฺเถรคาถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
ทฺวาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ