๑๘. กาลิกวินิจฺฉยกถา
๘๙. กาลิกานิปิ จตฺตารีติ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺฐ. ๒๕๕-๒๕๖) ยาวกาลิกํ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกนฺติ อิมานิ จตฺตาริ กาลิกานิ เวทิตพฺพานิฯ ตตฺถ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํ ยํ กิญฺจิ ขาทนียโภชนียํ ยาว มชฺฌนฺหิกสงฺขโต กาโล, ตาว ปริภุญฺชิตพฺพโต ยาวกาลิกํฯ สทฺธิํ อนุโลมปาเนหิ อฏฺฐวิธํ ปานํ ยาว รตฺติยา ปจฺฉิมยามสงฺขาโต ยามกาลิกํฯ สปฺปิอาทิ ปญฺจวิธํ เภสชฺชํ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ นิเธตพฺพโต สตฺตาโห กาโล อสฺสาติ สตฺตาหกาลิกํฯ ฐเปตฺวา อุทกํ อวเสสํ สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคหิตํ ยาวชีวํ ปริหริตฺวา สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชิตพฺพโต ยาวชีวิกนฺติ วุจฺจติฯ
๙๐. ตตฺถ ยาวกาลิเกสุ โภชนียํ นาม โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสนฺติฯ ปญฺจ โภชนานิ ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกญฺจ ฐเปตฺวา อวเสสํ ขาทนียํ นามฯ เอตฺถ (ปาจิ. อฏฺฐ. ๒๔๘-๙) ปน ยํ ตาว สกฺขลิโมทกาทิ ปุพฺพณฺณาปรณฺณมยํ ขาทนียํ, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ ยมฺปิ วนมูลาทิปฺปเภทํ อามิสคติกํ โหติฯ เสยฺยถิทํ – มูลขาทนียํ กนฺทขาทนียํ มุฬาลขาทนียํ มตฺถกขาทนียํ ขนฺธขาทนียํ ตจขาทนียํ ปตฺตขาทนียํ ปุปฺผขาทนียํ ผลขาทนียํ อฏฺฐิขาทนียํ ปิฏฺฐขาทนียํ นิยฺยาสขาทนียนฺติ, อิทมฺปิ ขาทนียสงฺขฺยเมว คจฺฉติฯ
ตตฺถ ปน อามิสคติกสลฺลกฺขณตฺถํ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ – มูลขาทนีเย ตาว มูลกมูลํ ขารกมูลํ จจฺจุมูลํ ตมฺพกมูลํ ตณฺฑุเลยฺยกมูลํ วตฺถุเลยฺยกมูลํ วชกลิมูลํ ชชฺฌริมูลนฺติ เอวมาทีนิ สูเปยฺยปณฺณมูลานิ อามิสคติกานิฯ เอตฺถ จ วชกลิมูเล ชรฏฺฐํ ฉินฺทิตฺวา ฉฑฺเฑนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ โหติฯ อญฺญมฺปิ เอวรูปํ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํฯ มูลกขารกชชฺฌริมูลานํ ปน ชรฏฺฐานิปิ อามิสคติกาเนวาติ วุตฺตํฯ ยานิ ปน ปาฬิยํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ หลิทฺทิํ สิงฺคิเวรํ วจํ วจตฺตํ อติวิสํ กฏุกโรหิณิํ อุสีรํ ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ
วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิฯ เตสํ จูฬปญฺจมูลํ มหาปญฺจมูลนฺติอาทินา นเยน คณิยมานานํ คณนาย อนฺโต นตฺถิ, ขาทนียตฺถญฺจ โภชนียตฺถญฺจ อผรณภาโวเยว ปเนเตสํ ลกฺขณํฯ ตสฺมา ยํ กิญฺจิ มูลํ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรติ, ตํ ยาวกาลิกํ, อิตรํ ยาวชีวิกนฺติ เวทิตพฺพํ
กนฺทขาทนีเย ทุวิโธ กนฺโท ทีโฆ จ ภิสกิํสุกกนฺทาทิ, วฏฺโฏ จ อุปฺปลกเสรุกกนฺทาทิ, ยํ คณฺฐีติปิ วทนฺติฯ ตตฺถ สพฺเพสํ กนฺทานํ ชิณฺณชรฏฺฐฏฺฐานญฺจ ฉลฺลิ จ สุขุมมูลานิ จ ยาวชีวิกานิ, ตรุโณ ปน สุขขาทนีโย สาลกลฺยาณิโปตกกนฺโท กิํสุกโปตกกนฺโท อมฺพาฏกกนฺโท เกตกกนฺโท มาลุวกนฺโท ภิสสงฺขาโต ปทุมปุณฺฑรีกกนฺโท ปิณฺฑาลุมสาลุอาทโย จ ขีรวลฺลิกนฺโท อาลุวกนฺโท สิคฺคุกนฺโท ตาลกนฺโท นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ กนฺทา กทลิกนฺโท เวฬุกนฺโท กเสรุกกนฺโทติ เอวมาทโย เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถญฺจ โภชนียตฺถญฺจ ผรณกกนฺทา ยาวกาลิกาฯ ขีรวลฺลิกนฺโท อโธโต ยาวชีวิโก, โธโต ยาวกาลิโกฯ ขีรกาโกลิชีวิกอุสภกลสุณาทิกนฺทา ปน ยาวชีวิกาฯ เต ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ (มหาว. ๒๖๓) มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตาฯ
มุฬาลขาทนีเย ปทุมมุฬาลํ ปุณฺฑรีกมุฬาลํ มูลสทิสํเยวฯ เอรกมุฬาลํ กนฺทุลมุฬาลนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรณกมุฬาลํ ยาวกาลิกํ, หลิทฺทิสิงฺคิเวรมกจิจตุรสฺสวลฺลิเกตกตาลหินฺตาลกุนฺตาลนาฬิเกรปูครุกฺขาทิมุฬาลํ ปน ยาวชีวิกํฯ ตํ สพฺพมฺปิ ปาฬิยํ ‘‘ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานี’’ติ เอวํ มูลเภสชฺชสงฺคเหเนว สงฺคหิตํฯ
มตฺถกขาทนีเย
ขนฺธขาทนีเย อนฺโตปถวีคโต สาลกลฺยาณีขนฺโธ อุจฺฉุขนฺโธ นีลุปฺปลรตฺตุปฺปลกุมุทโสคนฺธิกานํ ทณฺฑกขนฺธาติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรณโก ขนฺโธ ยาวกาลิโก, อุปฺปลชาตีนํ ปณฺณทณฺฑโก ปทุมชาตีนํ สพฺโพปิ ทณฺฑโก กรวินฺททณฺฑาทโย จ อวเสสสพฺพขนฺธา ยาวชีวิกาฯ
ตจขาทนีเย อุจฺฉุตโจว เอโก ยาวกาลิโก, โสปิ สรโส, เสโส สพฺโพ ยาวชีวิโกฯ เตสํ ปน มตฺถกขนฺธตจานํ ติณฺณมฺปิ ปาฬิยํ กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพฯ วุตฺตญฺเหตํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ เภสชฺชานิ นิมฺพกสาวํ กุฏชกสาวํ ปโฏลกสาวํ ผคฺควกสาวํ นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓)ฯ
เอตฺถ หิ เอเตสมฺปิ สงฺคโห สิชฺฌติฯ วุตฺตกสาวานิ จ สพฺพกปฺปิยานีติ เวทิตพฺพานิฯ
ปตฺตขาทนีเย มูลกํ ขารโก จจฺจุ ตมฺพโก ตณฺฑุเลยฺยโก ปปุนฺนาโค วตฺถุเลยฺยโก วชกลิ ชชฺฌริ เสลฺลุ สิคฺคุ กาสมทฺทโก อุมฺมาจีนมุคฺโค มาโส ราชมาโส ฐเปตฺวา มหานิปฺผาวํ อวเสสนิปฺผาโว อคฺคิมนฺโถ สุนิสนฺนโก เสตวรโณ นาฬิกา ภูมิยํ ชาตโลณีติ เอเตสํ ปตฺตานิ, อญฺญานิ จ เอวรูปานิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถญฺจ โภชนียตฺถญฺจ ผรณกานิ ปตฺตานิ เอกํเสน ยาวกาลิกานิ
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปณฺณานิ เภสชฺชานิ นิมฺพปณฺณํ กุฏชปณฺณํ ปโฏลปณฺณํ สุลสิปณฺณํ กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –
วุตฺตานิ, ตานิ ยาวชีวิกานิฯ น เกวลญฺจ ปณฺณานิ, เตสํ ปุปฺผผลานิปิฯ ยาวชีวิกปณฺณานํ ปน ผคฺควปณฺณํ อชฺชุกปณฺณํ ผณิชฺชกปณฺณํ ตมฺพูลปณฺณํ ปทุมินิปณฺณนฺติ เอวํ คณนวเสน อนฺโต นตฺถิฯ
ปุปฺผขาทนีเย มูลกปุปฺผํ ขารกปุปฺผํ จจฺจุปุปฺผํ ตมฺพกปุปฺผํ วชกลิปุปฺผํ ชชฺฌริปุปฺผํ จูฬนิปฺผาวปุปฺผํ มหานิปฺผาวปุปฺผํ กเสรุกปุปฺผํ นาฬิเกรตาลเกตกานํ ตรุณปุปฺผานิ เสตวรณปุปฺผํ สิคฺคุปุปฺผํ อุปฺปลปทุมชาติกานํ ปุปฺผานํ กณฺณิกามตฺตํ อคนฺธิปุปฺผํ กรีรปุปฺผํ ชีวนฺตี ปุปฺผนฺติ เอวมาทิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรณปุปฺผํ ยาวกาลิกํ, อโสกพกุลกุยฺยกปุนฺนาคจมฺปกชาติกรวีรกณิการกุนฺทนวมาลิกมลฺลิกาทีนํ ปน ปุปฺผํ ยาวชีวิกํ, ตสฺส คณนาย อนฺโต นตฺถิฯ ปาฬิยํ ปนสฺส กสาวเภสชฺเชน สงฺคโห เวทิตพฺโพฯ
ผลขาทนีเย ปนสลพุชตาลนาฬิเกรอมฺพชมฺพุอมฺพาฏกตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติมฺพรูสกติปุสวาติงฺคณโจจโมจมธุกาทีนํ ผลานิ, ยานิ โลเก เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรนฺติ, สพฺพานิ ตานิ ยาวกาลิกานิ, นามคณนวเสน เตสํ น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํฯ ยานิ ปน ปาฬิยํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ พิลงฺคํ ปิปฺปลิํ มรีจํ หรีตกํ วิภีตกํ อามลกํ โคฏฺฐผลํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ
วุตฺตานิ
อฏฺฐิขาทนีเย ลพุชฏฺฐิ ปนสฏฺฐิ อมฺพาฏกฏฺฐิ สาลฏฺฐิ ขชฺชูรีเกตกติมฺพรูสกานํ ตรุณผลฏฺฐิ ตินฺติณิกฏฺฐิ พิมฺพผลฏฺฐิ อุปฺปลปทุมชาตีนํ โปกฺขรฏฺฐีติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ มนุสฺสานํ ปกติอาหารวเสน ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรณกานิ อฏฺฐีนิ ยาวกาลิกานิ, มธุกฏฺฐิ ปุนฺนาคฏฺฐิ หรีตกาทีนํ อฏฺฐีนิ สิทฺธตฺถกฏฺฐิ ราชิกฏฺฐีติ เอวมาทีนิ อฏฺฐีนิ ยาวชีวิกานิฯ เตสํ ปาฬิยํ ผลเภสชฺเชเนว สงฺคโห เวทิตพฺโพฯ
ปิฏฺฐขาทนีเย สตฺตนฺนํ ตาว ธญฺญานํ ธญฺญานุโลมานํ อปรณฺณานญฺจ ปิฏฺฐํ ปนสปิฏฺฐํ ลพุชปิฏฺฐํ อมฺพาฏกปิฏฺฐํ สาลปิฏฺฐํ โธตกตาลปิฏฺฐํ ขีรวลฺลิปิฏฺฐญฺจาติ เอวมาทีนิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปกติอาหารวเสน มนุสฺสานํ ขาทนียตฺถํ โภชนียตฺถญฺจ ผรณกานิ ปิฏฺฐานิ ยาวกาลิกานิ, อโธตกํ ตาลปิฏฺฐํ ขีรวลฺลิปิฏฺฐํ อสฺสคนฺธาทิปิฏฺฐานิ จ ยาวชีวิกานิฯ เตสํ ปาฬิยํ กสาเวหิ มูลผเลหิ จ สงฺคโห เวทิตพฺโพฯ
นิยฺยาสขาทนีเย – เอโก อุจฺฉุนิยฺยาโสว สตฺตาหกาลิโก, เสสา –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ หิงฺคุํ หิงฺคุชตุํ หิงฺคุสิปาฏิกํ ตกํ ตกปตฺติํ ตกปณฺณิํ สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๓) –
เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตา นิยฺยาสา ยาวชีวิกาฯ ตตฺถ เยวาปนกวเสน สงฺคหิตานํ อมฺพนิยฺยาโส กณิการนิยฺยาโสติ เอวํ นามวเสน น สกฺกา ปริยนฺตํ ทสฺเสตุํฯ เอวํ อิเมสุ มูลขาทนียาทีสุ ยํ กิญฺจิ ยาวกาลิกํ, สพฺพมฺปิ อิมสฺมิํ อตฺเถ อวเสสํ ขาทนียํ นามาติ สงฺคหิตํฯ
๙๑. ยามกาลิเกสุ อฏฺฐ ปานานิ นาม อมฺพปานํ ชมฺพุปานํ โจจปานํ โมจปานํ มธุกปานํ มุทฺทิกปานํ สาลูกปานํ ผารุสกปานนฺติ อิมานิ อฏฺฐ ปานานิฯ ตตฺถ (มหาว. อฏฺฐ. ๓๐๐) อมฺพปานนฺติ อาเมหิ วา ปกฺเกหิ วา อมฺเพหิ กตปานํฯ ตตฺถ อาเมหิ กโรนฺเตน ชมฺพุปานนฺติ ชมฺพุผเลหิ กตปานํฯ โจจปานนฺติ อฏฺฐิกกทลิผเลหิ กตปานํฯ โมจปานนฺติ อนฏฺฐิเกหิ กทลิผเลหิ กตปานํฯ มธุกปานนฺติ มธุกานํ ชาติรเสน กตปานํฯ ตํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ วฏฺฏติ, สุทฺธํ น วฏฺฏติฯ มุทฺทิกปานนฺติ มุทฺทิกา อุทเก มทฺทิตฺวา อมฺพปานํ วิย กตปานํฯ สาลูกปานนฺติ รตฺตุปฺปลนีลุปฺปลาทีนํ สาลูเก มทฺทิตฺวา กตปานํฯ ผารุสกปานนฺติ ผารุสกผเลหิ อมฺพปานํ วิย กตปานํฯ อิมานิ อฏฺฐ ปานานิ สีตานิปิ อาทิจฺจปากานิปิ วฏฺฏนฺติ, อคฺคิปากานิ น วฏฺฏนฺติฯ
อวเสสานิ เวตฺตตินฺติณิกมาตุลุงฺคกปิตฺถโกสมฺพกรมนฺทาทิขุทฺทกผลปานานิ อฏฺฐปานคอกาเนวฯ ตานิ กิญฺจาปิ ปาฬิยํ น วุตฺตานิ, อถ โข กปฺปิยํ อนุโลเมนฺติ, ตสฺมา กปฺปนฺติฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ผลรสํ ฐเปตฺวา ธญฺญผลรส’’นฺติ (มหาว. อฏฺฐ. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ฐเปตฺวา สานุโลมธญฺญผลรสํ อญฺญํ ผลปานํ นาม อกปฺปิยํ นตฺถิ, สพฺพํ ยามกาลิกเมวฯ ตตฺถ สานุโลมธญฺญผลรโส นาม สตฺตนฺนญฺเจว ธญฺญานํ ตาลนาฬิเกรปนสลพุชอลาพุกุมฺภณฺฑปุสฺสผลติปุสเอฬาลุกาติ นวนฺนญฺจ มหาผลานํ สพฺเพสญฺจ ปุพฺพณฺณาปรณฺณานํ อนุโลมธญฺญานํ รโส ยาวกาลิโก, ตสฺมา ปจฺฉาภตฺตํ น วฏฺฏติฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปตฺตรสํ ฐเปตฺวา ฑากรส’’นฺติ (มหาว. ๓๐๐) วุตฺตตฺตา ปกฺกฑากรสํ ฐเปตฺวา ยาวกาลิกปตฺตานมฺปิ สีโตทเกน มทฺทิตฺวา กตรโส วา อาทิจฺจปาโก วา วฏฺฏติฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปุปฺผรสํ ฐเปตฺวา มธุกปุปฺผรส’’นฺติ วุตฺตตฺตา มธุกปุปฺผรสํ ฐเปตฺวา สพฺโพปิ ปุปฺผรโส วฏฺฏติฯ
๙๒. สตฺตาหกาลิกํ สปฺปิ นาม โคสปฺปิ วา อชิกาสปฺปิ วา มหิํสสปฺปิ วา เยสํ มํสํ กปฺปติ, เตสํ สปฺปิฯ นวนีตํ นาม เตสํเยว นวนีตํฯ เตลํ นาม ติลเตลํ สาสปเตลํ มธุกเตลํ เอรณฺฑเตลํ วสาเตลํฯ มธุ นาม มกฺขิกามธุฯ ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ (ปจิ. ๒๖๐)ฯ ยาวชีวิกํ ปน เหฏฺฐา ยาวกาลิเก มูลขาทนียาทีสุ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ
๙๓. ตตฺถ
ยามกาลิกํ สติ ปจฺจเย อชฺโฌหรโต ปาจิตฺติยํ, อาหารตฺถาย อชฺโฌหรโต ทุกฺกเฏน สทฺธิํ ปาจิตฺติยํฯ สเจ ปวาริโต หุตฺวา อนติริตฺตกตํ อชฺโฌหรติ, ปกติอามิเส ทฺเว ปาจิตฺติยานิ, มนุสฺสมํเส ถุลฺลจฺจเยน สทฺธิํ ทฺเว, เสสอกปฺปิยมํเส ทุกฺกเฏน สทฺธิํฯ ยามกาลิกํ สติ
สตฺตาหกาลิกํ ปน ยาวชีวิกญฺจ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหโต ปฏิคฺคณฺหนปจฺจยา ตาว ทุกฺกฏํ, อชฺโฌหรโต ปน สเจ นิรามิสํ โหติ, อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํฯ อถ อามิสสํสฏฺฐํ ปฏิคฺคเหตฺวา ฐปิตํ โหติ, ยถาวตฺถุกํ ปาจิตฺติยเมวฯ
๙๔. สตฺตาหกาลิเกสุ ปน สปฺปิอาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺฐ. ๒.๖๒๒) – สปฺปิ
๙๕. นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธิํ อามิสํ น วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย จ น วฏฺฏติเยวฯ สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตาฯ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตเกหิ กตํ ปน อพฺภญฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํฯ ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ, อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติฯ เอส อนฺธกฏฺฐกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตญฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ สพฺพอฏฺฐกถาสุ อนุญฺญาตตฺตาฯ ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติฯ ปาฬิยํ อาคตนวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย นิรามิสเมวฯ สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ฐปิเต ภาชนคณนาย, เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ฐปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิฯ ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยน เวทิตพฺพํฯ เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุฯ มหาสิวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนุญฺญาตกาลโต ปฏฺฐาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทิํสู’’ติ อาหฯ ตสฺมา นวนีตํ ปริภุญฺชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ ปจิตฺวา สปฺปิํ กตฺวา ปริภุญฺชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏติฯ ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา, ตํ ขยํ คมิสฺสติฯ เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ อามิเสน สทฺธิํ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกาฯ อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ฐปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต
๙๖. เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย นิรามิสเมว วฏฺฏติฯ สตฺตาหาติกฺกเม
สเจ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํฯ ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณานิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺฐีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เอเตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถิฯ อตฺตนา กตํ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว
วสาเตลํ นาม ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจ วสานิ อจฺฉวสํ มจฺฉวสํ สุสุกาวสํ สูกรวสํ คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนุญฺญาตวสานํ เตลํฯ เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน ฐเปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสานํ วสา อนุญฺญาตาฯ มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํฯ มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนุญฺญาตาฯ มํเสสุ หิ ทส มนุสฺสหตฺถิอสฺสสุนขอหิสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ, วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาฯ ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิฯ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ นิพฺพฏฺฏิตํ วสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติฯ ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺฐิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํฯ สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพํฯ นิรามิสปริโภคญฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ ‘‘กาเล ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺฐํ เตลปริโภเคน ปริภุญฺชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒)ฯ ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว, ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคเหตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยวฯ วุตฺตญฺเหตํ –
‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺฐํ, ตํ เจ ปริภุญฺเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํฯ กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺฐํ, ตํ เจ ปริภุญฺเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํฯ กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺฐํ, ตํ เจ ปริภุญฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส
อุปติสฺสตฺเถรํ
๙๗. มธุ นาม มธุกรีหิ มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุฯ ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํฯ สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ กตฺวา ฐปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิฯ สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํฯ อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํฯ มธุปฏลํ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ, มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมวฯ จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา ตุมฺพฬนามิกา จ อฏฺฐิปกฺขิกา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํฯ
๙๘. ผาณิตํ นาม อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติฯ ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยํฯ พหู ปิณฺฑา จุณฺเณ กตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํฯ อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํฯ ปุเรภตฺตํ มหาอฏฺฐกถายํ วุตฺตํฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โน วฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํฯ สีโตทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ, ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํฯ ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติฯ
๙๙. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตมฺปิ อลฺลํ วฏฺฏติฯ ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ, ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตํ วฏฺฏติฯ ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺฐาย น วฏฺฏติฯ กทลีขชฺชูรีอมฺพลพุชปนสจิญฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมวฯ มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํฯ เอวํ ยถาวุตฺตานิ สตฺตาหกาลิกานิ สปฺปิอาทีนิ ปญฺจ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐) เภสชฺชนาเมน อนุญฺญาตตฺตา เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยน สตฺตาหํ ปริภุญฺชิตพฺพานิ, สตฺตาหาติกฺกเม ปน เภสชฺชสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ, สกิํ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ, นิสฺสชฺชิตพฺพเมว ปาจิตฺติยญฺจ เทเสตพฺพํฯ นิสฺสฏฺฐํ ปฏิลภิตฺวา น อชฺโฌหริตพฺพํ, น กายิเกน ปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพํ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺฐกถายํ วุตฺตํฯ ปทีเป วา กาฬวณฺเณ วา อุปเนตุํ วฏฺฏติฯ อญฺเญน ปน ภิกฺขุนา กายิเกน ปริโภเคน ปริภุญฺชิตพฺพํ, น อชฺโฌหริตพฺพํฯ ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเฐตี’’ติ (ปารา. ๖๒๕) วจนโต
สเจ ปน สตฺตาหาติกฺกนฺตํ อนุปสมฺปนฺนสฺส ปริจฺจชิตฺวา เทติ, ปุน เตน อตฺตโน สนฺตกํ กตฺวา ทินฺนํ ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏติฯ สเจ หิ โส อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํฯ สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อญฺเญน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ ‘‘อตฺถิ เต สามเณร เตล’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติฯ อาหร เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามาติฯ เอวมฺปิ วฏฺฏติฯ สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภุญฺชิตุํ ปน น วฏฺฏติฯ สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ, โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิฯ กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ, เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตาฯ
๑๐๐. อิเมสุ (มหาว. อฏฺฐ. ๓๐๕) ปน จตูสุ กาลิเกสุ ยาวกาลิกํ ยามกาลิกนฺติ อิทเมว ทฺวยํ อนฺโตวุตฺถกญฺเจว สนฺนิธิการกญฺจ โหติ, สตฺตาหกาลิกญฺจ ยาวชีวิกญฺจ อกปฺปิยกุฏิยํ นิกฺขิปิตุมฺปิ วฏฺฏติ, สนฺนิธิมฺปิ น
สเจ
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
กาลิกวินิจฺฉยกถา สมตฺตาฯ