๒๕. อุโปสถปวารณาวินิจฺฉยกถา
๑๖๘. อุโปสถปวารณาติ จาตุทฺทสิกา, เสสา ปนฺนรสิกาติ เอวํ เอกสํวจฺฉเร จตุวีสติ อุโปสถาฯ อิทํ ตาว ปกติจาริตฺตํฯ ตถารูปปจฺจเย สติ อญฺญสฺมิมฺปิ จาตุทฺทเส อุโปสถํ กาตุํ วฏฺฏติฯ ปุริมวสฺสํวุฏฺฐานํ ปน ปุพฺพกตฺติกปุณฺณมา, เตสํเยว สเจ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา ปวารณํ ปจฺจุกฺกฑฺฒนฺติ, อถ กตฺติกมาสสฺส กาฬปกฺขจาตุทฺทโส วา ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา วา ปจฺฉิมวสฺสํวุฏฺฐานญฺจ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา เอว วาติ อิเม ตโย ปวารณาทิวสาปิ โหนฺติฯ อิทมฺปิ ปกติจาริตฺตเมวฯ ตถารูปปจฺจเย สติ ทฺวินฺนํ กตฺติกปุณฺณมานํ ปุริเมสุ จาตุทฺทเสสุปิ ปวารณํ กาตุํ วฏฺฏติฯ ยทา ปน โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตนเยน ภินฺเน ภิกฺขุสงฺเฆ โอสาริเต ตสฺมิํ ภิกฺขุสฺมิํ สงฺโฆ ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคิํ กโรติ, ตทา ตาวเทว อุโปสโถ กาตพฺโพฯ ‘‘ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วจนโต ฐเปตฺวา จาตุทฺทสปนฺนรเส อญฺโญปิ โย โกจิ ทิวโส อุโปสถทิวโส นาม โหติ, วสฺสํวุฏฺฐานํ ปน กตฺติกมาสพฺภนฺตเร อยเมว สามคฺคีปวารณาทิวโส นาม โหติฯ อิติ อิเมสุ ตีสุ ทิวเสสุ อุโปสโถ กาตพฺโพฯ กโรนฺเตน ปน สเจ จาตุทฺทสิโก โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วตฺตพฺพํฯ สเจ สามคฺคีอุโปสโถ โหติ, ‘‘อชฺชุโปสโถ
๑๖๙. สงฺเฆ อุโปสโถ (กงฺขา. อฏฺฐ. นิทานวณฺณนา), คเณ อุโปสโถ, ปุคฺคเล อุโปสโถติ เอวํ การกวเสน อปเรปิ ตโย อุโปสถา วุตฺตา, กตฺตพฺพาการวเสน ปน สุตฺตุทฺเทโส ปาริสุทฺธิอุโปสโถ อธิฏฺฐานุโปสโถติ อปเรปิ ตโย อุโปสถาฯ ตตฺถ สุตฺตุทฺเทโส นาม ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต ปาติโมกฺขุทฺเทโสฯ เย ปนิตเร ทฺเว อุโปสถา, เตสุ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ ตาว อญฺเญสญฺจ สนฺติเก อญฺญมญฺญญฺจ อาโรจนวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ ยฺวายํ อญฺเญสํ สนฺติเก กรียติ, โสปิ ปวาริตานญฺจ อปฺปวาริตานญฺจ สนฺติเก กรณวเสน ทุวิโธฯ ตตฺถ มหาปวารณาย ปวาริตานํ สนฺติเก ปจฺฉิมิกาย อุปคเตน วา อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน วา จาตุมาสินิยํ ปน ปวาริตานํ สนฺติเก อนุปคเตน วา ฉินฺนวสฺเสน
โย ปนายํ อญฺญมญฺญํ อาโรจนวเสน กรียติ, โส ญตฺติํ ฐเปตฺวา กรณวเสน จ อฏฺฐเปตฺวา กรณวเสน จ ทุวิโธฯ ตตฺถ ยสฺมิํ อาวาเส ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, เตสุ อุโปสถทิวเส สนฺนิปติเตสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อชฺชุโปสโถ จาตุทฺทโส’’ติ วา ‘‘ปนฺนรโส’’ติ วา วตฺวา ‘‘ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’’ติ ญตฺติยา ฐปิตาย เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺพํฯ อิตเรหิ ‘‘ภนฺเต’’ติ วตฺวา เอวเมว วตฺตพฺพํฯ เอวํ ญตฺติํ ฐเปตฺวา กาตพฺโพฯ ยตฺร ปน ทฺเว ภิกฺขู วิหรนฺติ, ตตฺร ญตฺติํ อฏฺฐเปตฺวา วุตฺตนเยเนว ปาริสุทฺธิ อาโรเจตพฺพาติ อยํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถฯ
สเจ อธิฏฺฐานุโปสโถติ เอวํ กตฺตพฺพาการวเสน ตโย อุโปสถา เวทิตพฺพาฯ เอตฺตาวตา นว อุโปสถา ทีปิตา โหนฺติฯ เตสุ ทิวสวเสน ปนฺนรสิโก, การกวเสน สงฺฆุโปสโถ, กตฺตพฺพาการวเสน สุตฺตุทฺเทโสติ เอวํ ติลกฺขณสมฺปนฺเน อุโปสเถ ปวตฺตมาเน อุโปสถํ อกตฺวา ตทหุโปสเถ อญฺญํ อภิกฺขุกํ นานาสํวาสเกหิ วา สภิกฺขุกํ อาวาสํ วา อนาวาสํ วา วาสตฺถาย อญฺญตฺร สงฺเฆน อญฺญตฺร อนฺตรายา คจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหติฯ
๑๗๐. อุโปสถกรณตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ พหิ อุโปสถํ กตฺวา อาคเตน สนฺนิปาตฏฺฐานํ คนฺตฺวา กายสามคฺคิํ อเทนฺเตน ฉนฺโท ทาตพฺโพฯ โยปิ คิลาโน วา โหติ กิจฺจปสุโต วา, เตนปิ ปาริสุทฺธิํ เทนฺเตน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพฯ กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ฉนฺทํ ทมฺมิ, ฉนฺทํ เม หร, ฉนฺทํ เม อาโรเจหี’’ติ อยมตฺโถ กาเยน วา วาจาย วา อุภเยน วา วิญฺญาเปตพฺโพ, เอวํ ทินฺโน โหติ ฉนฺโทฯ อกตุโปสเถน คิลาเนน วา กิจฺจปสุเตน วา ปาริสุทฺธิ ทาตพฺพาฯ กถํ? เอกสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘ปาริสุทฺธิํ ทมฺมิ, ปาริสุทฺธิํ เม หร
๑๗๑. ปาริวาสิเยน ปน ฉนฺททาเนน ยํ กิญฺจิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ ตตฺถ (ปาจิ. อฏฺฐ. ๑๑๖๗) จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ รตฺติปาริวาสิยํ ฉนฺทปาริวาสิยํ อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติฯ เตสุ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺเฐติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาสา มยํ, อญฺญตฺถ คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อุฏฺฐหนฺติฯ อิทํ ปริสปาริวาสิยํฯ กิญฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺฐตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติฯ
ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺติํ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมิํ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติฯ สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ปนฺนรโสติ กาตุํ วฏฺฏติฯ สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติ, อญฺญํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติฯ อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นามฯ
ปุน ภิกฺขู ‘‘กิญฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาฐโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิมํ กโรถา’’ติฯ เต ตสฺส ฉนฺทปาริวาสิยญฺเจว อชฺฌาสยปาริวาสิยญฺจฯ เอตสฺมิํ ปาริวาสิเย ปุน ฉนฺทปาริสุทฺธิํ อนาเนตฺวา กมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ
๑๗๒. สเจ โกจิ ภิกฺขุ คิลาโน น สกฺโกติ ฉนฺทปาริสุทฺธิํ ทาตุํ, โส มญฺเจน วา ปีเฐน วา สงฺฆมชฺฌํ อาเนตพฺโพฯ สเจ คิลานุปฏฺฐากานํ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ ‘‘สเจ โข มยํ คิลานํ ฐานา จาเวสฺสาม, อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลกิริยา วา ภวิสฺสตี’’ติ, น
สเจ (มหาว. อฏฺฐ. ๑๔๙) เอกสฺมิํ วิหาเร จตูสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ฉนฺทปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ทฺเว ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน วคฺคํ อุโปสถกมฺมํ โหติฯ สเจ ปน จตฺตาโรปิ สนฺนิปติตฺวา ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ตโย วา ทฺเว วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, อธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติฯ สเจ จตูสุ ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ตโย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตีสุ วา ชเนสุ เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ทฺเว ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน วคฺคํ นาม โหติฯ สเจ ปน จตฺตาโร เอกตฺถ วสนฺตา สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติ, ตโย ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ทฺเว อญฺญมญฺญํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กโรนฺติ, ธมฺเมน สมคฺคํ นาม โหติฯ
๑๗๓. ปวารณากมฺเมสุ (มหาว. อฏฺฐ. ๒๑๒) ปน สเจ เอกสฺมิํ วิหาเร ปญฺจสุ ภิกฺขูสุ วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร คณญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ วา วสนฺเตสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา ตโย วา ทฺเว วา สงฺฆญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํฯ สเจ ปน สพฺเพปิ ปญฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา ทฺเว วา วสนฺตา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, สพฺพเมตํ อธมฺเมน สมคฺคํ ปวารณากมฺมํฯ สเจ ปญฺจสุ ชเนสุ เอกสฺส ปวารณํ อาหริตฺวา จตฺตาโร สงฺฆญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตูสุ วา ตีสุ ธมฺเมน วคฺคํ ปวารณากมฺมํฯ สเจ ปน สพฺเพปิ ปญฺจ ชนา เอกโต สนฺนิปติตฺวา สงฺฆญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, จตฺตาโร วา ตโย วา เอกโต สนฺนิปติตฺวา คณญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรนฺติ, ทฺเว อญฺญมญฺญํ ธมฺเมน สมคฺคํ นาม ปวารณากมฺมนฺติฯ
เอตฺถ สเจ จาตุทฺทสิกา โหติ, ‘‘อชฺช เม ปวารณา จาตุทฺทสี’’ติ, สเจ ปนฺนรสิกา, ‘‘อชฺช เม ปวารณา ปนฺนรสี’’ติ เอวํ อธิฏฺฐาตพฺพํฯ ปวารณํ เทนฺเตน ปน ‘‘ปวารณํ ทมฺมิ, ปวารณํ เม หร, มมตฺถาย ปวาเรหี’’ติ กาเยน วา วาจาย วา กายวาจาหิ วา อยมตฺโถ วิญฺญาเปตพฺโพฯ เอวํ ทินฺนาย (มหาว. อฏฺฐ. ๒๑๓) ปวารณาย ปวารณาหารเกน สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ ปวาเรตพฺพํ ‘‘ติสฺโส, ภนฺเต, ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ ทิฏฺเฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา, วทตุ ตํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทาย, ปสฺสนฺโต ปฏิกริสฺสติฯ ทุติยมฺปิ, ภนฺเต…เป.… ตติยมฺปิ, ภนฺเต, ติสฺโส ภิกฺขุ สงฺฆํ ปวาเรติ…เป.… ปฏิกริสฺสตี’’ติฯ สเจ ปน วุฑฺฒตโร โหติ, ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ติสฺโส’’ติ วตฺตพฺพํฯ เอวญฺหิ เตน ตสฺสตฺถาย ปวาริตํ โหติฯ ปวารณํ เทนฺเตน ปน ฉนฺโทปิ ทาตพฺโพ, ฉนฺททานํ เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ อิธาปิ ฉนฺททานํ อวเสสกมฺมตฺถายฯ ตสฺมา สเจ ปวารณํ เทนฺโต ฉนฺทํ เทติ, วุตฺตนเยน อาหฏาย ปวารณาย เตน จ ภิกฺขุนา สงฺเฆน จ ปวาริตเมว โหติฯ อถ ปวารณเมว เทติ, น ฉนฺทํ, ตสฺส จ ปวารณาย อาโรจิตาย สงฺเฆน จ ปวาริเต สพฺเพสํ สุปฺปวาริตํ โหติ, อญฺญํ ปน กมฺมํ กุปฺปติฯ สเจ ฉนฺทเมว เทติ, น ปวารณํ, สงฺฆสฺส ปวารณา จ เสสกมฺมานิ จ น กุปฺปนฺติ, เตน ปน ภิกฺขุนา อปฺปวาริตํ โหติ, ปวารณาทิวเส ปน พหิสีมาย ปวารณํ อธิฏฺฐหิตฺวา อาคเตนปิ ฉนฺโท ทาตพฺโพ เตน สงฺฆสฺส ปวารณากมฺมํ น กุปฺปติฯ
สเจ ปุริมิกาย ปญฺจ ภิกฺขู วสฺสํ อุปคตา, ปจฺฉิมิกายปิ ปญฺจ, ปุริเมหิ ญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาริเต ปจฺฉิเมหิ เตสํ สนฺติเก ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ, น เอกสฺมิํ อุโปสถคฺเค ทฺเว ญตฺติโย ฐเปตพฺพาฯ สเจปิ ปจฺฉิมิกาย อุปคตา จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา โหติ, เอเสว นโยฯ อถ ปุริมิกาย จตฺตาโร, ปจฺฉิมิกายปิ จตฺตาโร ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโยฯ อถาปิ ปุริมิกาย ตโย, ปจฺฉิมิกายปิ ตโย ทฺเว เอโก วา, เอเสว นโยฯ อิทญฺเหตฺถ ลกฺขณํฯ
สเจ
กตฺติกาย จาตุมาสินิปวารณาย ปน สเจ ปฐมวสฺสูปคเตหิ มหาปวารณาย ปวาริเตหิ ปจฺฉา อุปคตา อธิกตรา วา สมสมา วา โหนฺติ, ปวารณาญตฺติํ ฐเปตฺวา ปวาเรตพฺพํฯ เตหิ ปวาริเต ปจฺฉา อิตเรหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพฯ อถ มหาปวารณายํ ปวาริตา พหู โหนฺติ, ปจฺฉา วสฺสูปคตา โถกา วา เอโก วา, ปาติโมกฺเข อุทฺทิฏฺเฐ ปจฺฉา เตสํ สนฺติเก เตน ปวาเรตพฺพํฯ กิํ ปเนตํ ปาติโมกฺขํ สกลเมว อุทฺทิสิตพฺพํ, อุทาหุ เอกเทสมฺปีติ? เอกเทสมฺปิ อุทฺทิสิตุํ วฏฺฏติฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –
‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสา, นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ปฐโม ปาติโมกฺขุทฺเทโสฯ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ทุติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโสฯ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ ตติโย ปาติโมกฺขุทฺเทโสฯ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา จตฺตาริ ปาราชิกานิ อุทฺทิสิตฺวา เตรส สงฺฆาทิเสเส อุทฺทิสิตฺวา ทฺเว อนิยเต อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ ภุเตน สาเวตพฺพํ, อยํ จตุตฺโถ ปาติโมกฺขุทฺเทโสฯ วิตฺถาเรเนว ปญฺจโม’’ติ (มาหาว. ๑๕๐)ฯ
ตตฺถ (มหาว. อฏฺฐ. ๑๕๐) นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา อวเสสํ สุเตน สาเวตพฺพนฺติ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป.… อาวิกตา หิสฺส ผาสุ โหตี’’ติ อิมํ นิทานํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อุทฺทิฏฺฐํ โข อายสฺมนฺโต นิทานํ, ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามิ กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาฯ ทุติยมฺปิ ปุจฺฉามิ…เป.… เอวเมตํ ธารยามิฯ สุตา โข ปนายสฺมนฺเตหิ จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมา
๑๗๔. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํฯ น, ภิกฺขเว, อสติ อนฺตราเย สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโต ปน วินา อนฺตรายา สํขิตฺเตน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํฯ ตตฺริเม อนฺตรายา – ราชนฺตราโย โจรนฺตราโย อคฺยนฺตราโย อุทกนฺตราโย มนุสฺสนฺตราโย อมนุสฺสนฺตราโย วาฬนฺตราโย สรีสปนฺตราโย ชีวิตนฺตราโย พฺรหฺมจริยนฺตราโยติฯ
ตตฺถ สเจ ภิกฺขูสุ อุโปสถํ กริสฺสามาติ นิสินฺเนสุ ราชา อาคจฺฉติ, อยํ ราชนฺตราโยฯ โจรา อาคจฺฉนฺติ, อยํ โจรนฺตราโยฯ ทวฑาโห อาคจฺฉติ, อาวาเส วา อคฺคิ อุฏฺฐาติ, อยํ อคฺยนฺตราโยฯ เมโฆ วา อุฏฺเฐติ, โอโฆ วา อาคจฺฉติ, อยํ อุทกนฺตราโยฯ พหู มนุสฺสา อาคจฺฉนฺติ, อยํ มนุสฺสนฺตราโยฯ ภิกฺขุํ ยกฺโข คณฺหาติ, อยํ อมนุสฺสนฺตราโยฯ พฺยคฺฆาทโย จณฺฑมิคา อาคจฺฉนฺติ, อยํ วาฬนฺตราโยฯ ภิกฺขุํ สปฺปาทโย ฑํสนฺติ, อยํ สรีสปนฺตราโยฯ ภิกฺขุ คิลาโน วา โหติ, กาลํ วา กโรติ, เวริโน วา ตํ มาเรตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ ชีวิตนฺตราโยฯ มนุสฺสา เอกํ วา พหู วา ภิกฺขู พฺรหฺมจริยา จาเวตุกามา คณฺหนฺติ, อยํ พฺรหฺมจริยนฺตราโยฯ เอวรูเปสุ อนฺตราเยสุ สํขิตฺเตน ปาติโมกฺโข อุทฺทิสิตพฺโพ, ปฐโม วา อุทฺเทโส อุทฺทิสิตพฺโพฯ อาทิมฺหิ ทฺเว ตโย จตฺตาโร วาฯ เอตฺถ ทุติยาทีสุ อุทฺเทเสสุ ยสฺมิํ อปริโยสิเต อนฺตราโย โหติ, โสปิ สุเตเนว สาเวตพฺโพฯ นิทานุทฺเทเส ปน อนิฏฺฐิเต สุเตน สาเวตพฺพํ นาม นตฺถิฯ
ปวารณากมฺเมปิ
๑๗๕. เกน ปน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถราธิกํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต เถเรน วา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โย ตตฺถ ภิกฺขุ พฺยตฺโต ปฏิพโล, ตสฺสาเธยฺยํ ปาติโมกฺข’’นฺติ (มหาว. ๑๕๕) วจนโต นวกตเรน วาฯ เอตฺถ (มหาว. อฏฺฐ. ๑๕๕) จ กิญฺจาปิ นวกตรสฺสปิ พฺยตฺตสฺส ปาติโมกฺขํ อนุญฺญาตํ, อถ โข เอตฺถ อยํ อธิปฺปาโย – สเจ เถรสฺส ปญฺจ วา จตฺตาโร วา ตโย วา ปาติโมกฺขุทฺเทสา นาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ปน อขณฺฑา สุวิสทา วาจุคฺคตา โหนฺติ, เถรายตฺตํว ปาติโมกฺขํฯ สเจ ปน เอตฺตกมฺปิ วิสทํ กาตุํ น สกฺโกติ, พฺยตฺตสฺส ภิกฺขุโน อายตฺถํ โหติ, ตสฺมา สยํ วา อุทฺทิสิตพฺพํ, อญฺโญ วา อชฺเฌสิตพฺโพฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเฐน ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ, โย อุทฺทิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต อนชฺฌิฏฺเฐน ปาติโมกฺขํ น อุทฺทิสิตพฺพํฯ น เกวลํ ปาติโมกฺขํเยว, ธมฺโมปิ น ภาสิตพฺโพ ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆมชฺเฌ อนชฺฌิฏฺเฐน ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, โย ภาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๑๕๐) วจนโตฯ
อชฺเฌสนา
อุปนิสินฺนกถายมฺปิ สงฺฆตฺเถโรว สามี, ตสฺมา เตน สยํ วา กเถตพฺพํ, อญฺโญ วา ภิกฺขุ ‘‘กเถหี’’ติ วตฺตพฺโพ, โน จ โข อุจฺจตเร อาสนฺเน นิสินฺเนน, มนุสฺสานํ ปน ‘‘ภณาหี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ มนุสฺสา อตฺตโน ชานนกํ ภิกฺขุํ ปุจฺฉนฺติ, เตน เถรํ อาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถตพฺพํฯ สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘ภนฺเต, อิเม ปญฺหํ ปุจฺฉนฺตี’’ติ ปุฏฺโฐ ‘‘กเถหี’’ติ วา ภณติ, ตุณฺหี วา โหติ, กเถตุํ วฏฺฏติฯ อนฺตรฆเร อนุโมทนาทีสุปิ เอเสว นโยฯ สเจ สงฺฆตฺเถโร ‘‘วิหาเร วา อนฺตรฆเร วา มํ อนาปุจฺฉิตฺวาปิ กเถยฺยาสี’’ติ อนุชานาติ, ลทฺธกปฺปิยํ โหติ, สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ สชฺฌายํ กโรนฺเตนาปิ เถโร อาปุจฺฉิตพฺโพเยวฯ เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา สชฺฌายนฺตสฺส อปโร อาคจฺฉติ, ปุน อาปุจฺฉนกิจฺจํ นตฺถิฯ สเจปิ ‘‘วิสฺสมิสฺสามี’’ติ ฐปิตสฺส อาคจฺฉติ, ปุน อารภนฺเตน อาปุจฺฉิตพฺพํฯ สงฺฆตฺเถเร อนาคเตเยว อารทฺธํ สชฺฌายนฺตสฺสาปิ
ยสฺมิํ ปน วิหาเร สพฺเพว ภิกฺขู พาลา โหนฺติ อพฺยตฺตา น ชานนฺติ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ตตฺถ กิํ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉาหี’’ติฯ เอวญฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ ลเภถ, เตหิ ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว ยตฺถ ตาทิสา ภิกฺขู โหนฺติ, โส อาวาโส อุโปสถกรณตฺถาย อนฺวฑฺฒมาสํ คนฺตพฺโพ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํฯ อิทญฺจ อุตุวสฺเสเยว, วสฺสาเน ปน ปุริมิกาย ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา น วสฺสํ อุปคจฺฉิตพฺพํฯ สเจ โส วสฺสูปคตานํ ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, อญฺญสฺมิํ สติเยว ปจฺฉิมิกาย วสิตุํ วฏฺฏติ, อสติ อญฺญตฺถ คนฺตพฺพํ, อคจฺฉนฺตานํ ทุกฺกฏํฯ สเจ ปน ปจฺฉิมิกาย ปกฺกมติ วา วิพฺภมติ วา กาลํ วา กโรติ, มาสทฺวยํ วสิตพฺพํฯ
ยตฺถ ปน เต พาลา ภิกฺขู วิหรนฺติ อพฺยตฺตา, สเจ ตตฺถ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม, เตหิ ภิกฺขูหิ โส ภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุปลาเปตพฺโพ
๑๗๖. ‘‘ยสฺส
สเจ ปน สพฺโพ สงฺโฆ วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺติํ อาปชฺชติ, ตตฺถ กิํ กาตพฺพนฺติ? เตหิ ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘‘คจฺฉาวุโส, ตํ อาปตฺติํ
สเจ โกจิ ภิกฺขุ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺติํ สรติ, เตน ภิกฺขุนา สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺติํ อาปนฺโน, อิโต วุฏฺฐหิตฺวา ตํ อาปตฺติํ ปฏิกริสฺสามี’’ติฯ สามนฺโต จ ภิกฺขุ สภาโคเยว วตฺตพฺโพฯ วิสภาคสฺส หิ วุจฺจมาเน ภณฺฑนกลหสงฺฆเภทาทีนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตสฺส อวตฺวา ‘‘อิโต วุฏฺฐหิตฺวา ปฏิกริสฺสามี’’ติ อาโภคํ กตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพฯ สเจ ปน โกจิ ปาติโมกฺเข อุทฺทิสฺสมาเน อาปตฺติยา เวมติโก โหติ, เตนปิ สภาโคเยว สามนฺโต ภิกฺขุ เอวํ วตฺตพฺโพ ‘‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามาย อาปตฺติยา เวมติโก, ยทา นิพฺเพมติโก ภวิสฺสามิ, ตทา ตํ อาปตฺติํ ปฏิกริสฺสามี’’ติฯ เอวญฺจ วตฺวา อุโปสโถ กาตพฺโพ, ปาติโมกฺขํ โสตพฺพํ, น ตฺเวว ตปฺปจฺจยา อุโปสถสฺส อนฺตราโย กาตพฺโพฯ
๑๗๗. ‘‘อนุชานามิ
‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ, อุทกํ อาสเนน จ;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตี’’ติฯ (มหาว. อฏฺฐ. ๑๖๘) –
เอวํ วุตฺตํ จตุพฺพิธํ ปุพฺพกรณํ กตฺวาว อุโปสโถ กาตพฺโพฯ เกน ปน ตํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เถเรน ภิกฺขุนา นวํ ภิกฺขุํ อาณาเปตุํ, น, ภิกฺขเว, เถเรน อาณตฺเตน อคิลาเนน น สมฺมชฺชิตพฺพํ, โย น สมฺมชฺเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติอาทิวจนโต โย เถเรน อาณตฺโต, เตน กาตพฺพํฯ อาณาเปนฺเตน จ กิญฺจิ กมฺมํ กโรนฺโต วา สทากาลเมว เอโก วา ภารนิตฺถรณโก วา สรภาณกธมฺมกถิกาทีสุ อญฺญตโร วา น อุโปสถาคารสมฺมชฺชนตฺถํ อาณาเปตพฺโพ, อวเสสา ปน วาเรน อาณาเปตพฺพาฯ สเจ อาณตฺโต สมฺมุญฺชนิํ ตาวกาลิกมฺปิ น ลภติ, สาขาภงฺคํ กปฺปิยํ กาเรตฺวา สมฺมชฺชิตพฺพํ, ตมฺปิ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติฯ
อาสนปญฺญาปนตฺถํ อาณตฺเตน จ สเจ อุโปสถาคาเร อาสนานิ นตฺถิ, สงฺฆิกาวาสโต อาหริตฺวา ปญฺญเปตฺวา ปุน อาหริตพฺพานิ, อาสเนสุ อสติ กฏสารเกปิ ตฏฺฏิกาโยปิ ปญฺญาเปตุํ วฏฺฏติ, ตฏฺฏิกาสุปิ อสติ สาขาภงฺคานิ กปฺปิยํ กาเรตฺวา ปญฺญเปตพฺพานิ, กปฺปิยการกํ อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติฯ
ปทีปกรณตฺถํ อาณาเปนฺเตน ปน ‘‘อสุกสฺมิํ นาม โอกาเส เตลํ วา วฏฺฏิ วา กปลฺลิกา วา อตฺถิ, ตํ คเหตฺวา กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพฯ สเจ เตลาทีนิ นตฺถิ, ปริเยสิตพฺพานิ, ปริเยสิตฺวา อลภนฺตสฺส ลทฺธกปฺปิยํ โหติฯ อปิจ กปาเล อคฺคิปิ ชาเลตพฺโพฯ
‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ, ภิกฺขุคณนาจ โอวาโท;
อุโปสถสฺส เอตานิ, ปุพฺพกิจฺจนฺติ วุจฺจตี’’ติฯ (มหาว. ๑๖๘) –
เอวํ
๑๗๘. ยทิ
‘‘อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา,
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺติ;
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมิํ น โหนฺติ,
ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจตี’’ติฯ (มหาว. อฏฺฐ. ๑๖๘);
ตตฺถ อุโปสโถติ ตีสุ อุโปสถทิวเสสุ อญฺญตรทิวโสฯ ตสฺมิญฺหิ สติ อิทํ สงฺฆสฺส อุโปสถกมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, นาสติฯ ยถาห ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อนุโปสเถ อุโปสโถ กาตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๑๘๓)ฯ
ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตาติ ยตฺตกา ภิกฺขู ตสฺส อุโปสถกมฺมสฺส ปตฺตา ยุตฺตา อนุรูปา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน จตฺตาโร ปกตตฺตา, เต จ โข หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา เอกสีมายํ ฐิตาฯ เตสุ หิ จตูสุ ภิกฺขูสุ เอกสีมายํ หตฺถปาสํ อวิชหิตฺวา ฐิเตสฺเวว ตํ สงฺฆสฺส อุโปสถกมฺมํ ปตฺตกลฺลํ นาม โหติ, น อิตรถาฯ ยถาห ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (มหาว. ๑๖๘)ฯ
สภาคาปตฺติโย จ น วิชฺชนฺตีติ เอตฺถ ยํ สพฺโพ สงฺโฆ วิกาลโภชนาทินา สภาควตฺถุนา ลหุกาปตฺติํ อาปชฺชติ, เอวรูปา วตฺถุสภาคา สภาคาติ วุจฺจติฯ เอตาสุ อวิชฺชมานาสุปิ สภาคาสุ วิชฺชมานาสุปิ ปตฺตกลฺลํ โหติเยวฯ
วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมิํ น โหนฺตีติ ‘‘น, ภิกฺขเว, สคหฏฺฐาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต คหฏฺโฐ จ, ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา นิสินฺนปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๘๓) นเยน วุตฺตา ภิกฺขุนี, สิกฺขมานา, สามเณโร, สามเณรี, สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก, อนฺติมวตฺถุอชฺฌาปนฺนโก ติรจฺฉานคโตติ ยสฺส อุปสมฺปทา ปฏิกฺขิตฺตาฯ ติตฺถิยา คหฏฺเฐเนว สงฺคหิตาฯ เอเตปิ หิ วชฺชนียาฯ เอวํ ปตฺตกลฺลํ อิเมหิ จตูหิ องฺเคหิ สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิทญฺจ สพฺพํ ปวารณากมฺเมปิ โยเชตฺวา ทสฺเสตพฺพํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน สญฺจิจฺจ น สาเวตพฺพํ, โย น สาเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วายมิตุํ ‘กถํ สาเวยฺย’นฺติ, วายมนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. ๑๕๔) วจนโต ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน ปริสํ สาเวตุํ วายมิตพฺพนฺติฯ
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห
อุโปสถปวารณาวินิจฺฉยกถา สมตฺตาฯ