๒๘. จตุปจฺจยภาชนียวินิจฺฉยกถา
๑๙๔. จตุปจฺจยภาชนนฺติ
ตตฺถ (มหาว. อฏฺฐ. ๓๔๐-๓๔๒) ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคติํ คจฺเฉยฺย, น โทสาคติํ คจฺเฉยฺย, น โมหาคติํ คจฺเฉยฺย, น ภยาคติํ คจฺเฉยฺย, คหิตาคหิตญฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๔๒) วจนโต อิเมหิ ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต จีวรปฏิคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพฯ ตตฺถ ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อตฺตโน ญาตกาทีนํ ปฐมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา เอกจฺจสฺมิํ เปมํ ทสฺเสตฺวา คณฺหนฺโต วา โลภปกติตาย อตฺตโน ปริณาเมนฺโต วา ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ นามฯ ปฐมตรํ อาคตสฺสปิ โกธวเสน ปจฺฉา คณฺหนฺโต วา ทุคฺคตมนุสฺเสสุ อวมญฺญํ กตฺวา คณฺหนฺโต วา ‘‘กิํ โว ฆเร ฐปโนกาโส นตฺถิ, ตุมฺหากํ สนฺตกํ คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ เอวํ สงฺฆสฺส ลาภนฺตรายํ กโรนฺโต วา โทสาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย ปน มุฏฺฐสฺสติ อสมฺปชาโน, อยํ โมหาคติํ คจฺฉติ นามฯ ปจฺฉา อาคตานมฺปิ อิสฺสรานํ ภเยน ปฐมตรํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต วา ‘‘จีวรปฏิคฺคาหกฏฺฐานํ นาเมตํ ภาริย’’นฺติ สนฺตสนฺโต วา ภยาคติํ คจฺฉติ นามฯ ‘‘มยา อิทญฺจิทญฺจ คหิตํ, อิทญฺจิทญฺจ น คหิต’’นฺติ เอวํ ชานนฺโต คหิตาคหิตํ ชานาติ นามฯ ตสฺมา โย ฉนฺทาคติอาทิวเสน น คจฺฉติ, ญาตกอญฺญาตกอฑฺฒทุคฺคเตสุ วิเสสํ อกตฺวา อาคตปฏิปาฏิยา คณฺหาติ, สีลาจารปฏิปตฺติยุตฺโต โหติ สติมา เมธาวี พหุสฺสุโต, สกฺโกติ ทายกานํ วิสฺสฏฺฐาย วาจาย ปริมณฺฑเลหิ ปทพฺยญฺชเนหิ อนุโมทนํ กโรนฺโต ปสาทํ ชเนตุํ, เอวรูโป สมฺมนฺนิตพฺโพฯ
เอวญฺจ ปน สมฺมนฺนิตพฺโพฯ ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ ญาเปตพฺโพ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรปฏิคฺคาหกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ญตฺติฯ
‘‘สุณาตุ
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรปฏิคฺคาหโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๔๒) –
อิติ อิมาย กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา อนฺโตวิหาเร สพฺพสงฺฆมชฺเฌปิ ขณฺฑสีมายมฺปิ สมฺมนฺนิตุํ วฏฺฏติเยวฯ เอวํ สมฺมเตน จ วิหารปจฺจนฺเต วา ปธานฆเร วา น อจฺฉิตพฺพํฯ ยตฺถ ปน อาคตาคตา มนุสฺสา สุขํ ปสฺสนฺติ, ตาทิเส ธุรวิหารฏฺฐาเน พีชนิํ ปสฺเส ฐเปตฺวา สุนิวตฺเถน สุปารุเตน นิสีทิตพฺพํฯ
๑๙๕. จีวรนิทหโกปิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคติํ คจฺเฉยฺย, น โทสาคติํ คจฺเฉยฺย, น โมหาคติํ คจฺเฉยฺย, น ภยาคติํ คจฺเฉยฺย, นิหิตานิหิตญฺจ ชาเนยฺยา’’ติ วจนโต ปญฺจงฺคสมนฺนาคโต ภิกฺขุ –
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ญตฺติฯ
‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรนิทหกํ สมฺมนฺนติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน จีวรนิทหกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺสฯ ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ จีวรนิทหโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๔๒) –
อิติ อิมาย กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา วุตฺตนเยเนว สมฺมนฺนิตพฺโพฯ
๑๙๖. ภณฺฑาคาริโกปิ
เอตฺถ (มหาว. อฏฺฐ. ๓๔๓) จ ยตฺถ ฉทนาทีสุ โกจิ โทโส นตฺถิ, ตํ คุตฺตํฯ ยตฺถ ปน ฉทนติณํ วา ฉทนิฏฺฐกา วา ยตฺถ กตฺถจิ ปติตา, เยน โอวสฺสติ วา, มูสิกาทีนํ วา ปเวโส โหติ, ภิตฺติอาทีสุ วา กตฺถจิ ฉิทฺทํ โหติ, อุปจิกา วา อุฏฺฐหนฺติ, ตํ สพฺพํ อคุตฺตํ นามฯ ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ภณฺฑาคาริเกน ปฏิสงฺขริตพฺพํฯ สีตสมเย ทฺวารญฺจ วาตปานญฺจ สุปิหิตํ กาตพฺพํฯ สีเตน หิ จีวรานิ กณฺณกิตานิ โหนฺติฯ อุณฺหสมเย อนฺตรนฺตรา วาตปฺปเวสนตฺถํ วิวริตพฺพํฯ เอวํ กโรนฺโต หิ คุตฺตาคุตฺตํ ชานาติ นามฯ
๑๙๗. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนิตุํ, ยํ สงฺโฆ อากงฺขติ วิหารํ วา อฑฺฒโยคํ วา ปาสาทํ วา หมฺมิยํ วา คุหํ วา’’ติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺนิตฺวา ฐเปตพฺพํฯ เอตฺถ จ โย อารามมชฺเฌ อารามิกสามเณราทีหิ อวิวิตฺโต สพฺเพสํ สโมสรณฏฺฐาเน วิหาโร วา อฑฺฒโยโค วา โหติ, โส สมฺมนฺนิตพฺโพฯ ปจฺจนฺตเสนาสนํ ปน น สมฺมนฺนิตพฺพํฯ อิมํ ปน ภณฺฑาคารํ ขณฺฑสีมํ คนฺตฺวา ขณฺฑสีมาย นิสินฺเนหิ สมฺมนฺนิตุํ น วฏฺฏติฯ วิหารมชฺเฌเยว ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ วิหารํ ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติอาทินา (มหาว. ๓๔๓) นเยน กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา สมฺมนฺนิตพฺพํฯ
จีวรปฏิคฺคาหกาทีหิ ปน ตีหิปิ อตฺตโน วตฺตํ ชานิตพฺพํฯ ตตฺถ จีวรปฏิคฺคาหเกน ตาว ยํ ยํ มนุสฺสา ‘‘กาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อกาลจีวร’’นฺติ วา ‘‘อจฺเจกจีวร’’นฺติ วา ‘‘วสฺสิกสาฏิก’’นฺติ วา ‘‘นิสีทน’’นฺติ วา ‘‘ปจฺจตฺถรณ’’นฺติ วา ‘‘มุขปุญฺฉนโจฬ’’นฺติ วา เทนฺติ, ตํ สพฺพํ เอกราสิํ
๑๙๘. จีวรภาชโกวิ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคติํ คจฺเฉยฺย, น โทสาคติํ คจฺเฉยฺย, น โมหาคติํ คจฺเฉยฺย, น ภยาคติํ คจฺเฉยฺย, ภาชิตาภาชิตญฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโตเยว ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ จีวรภาชกํ สมฺมนฺเนยฺยา’’ติ(มหาว. ๓๔๓) อาทินา นเยน กมฺมวาจาย วา อปโลกเนน วา สมฺมนฺนิตฺวา ฐเปตพฺโพฯ
เอตฺถ สภาคานํ ภิกฺขูนํ อปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆจีวรํ เทนฺโต ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ นามฯ อญฺเญสํ วุฑฺฒตรานํ ปาปุณนฺตมฺปิ มหคฺฆจีวรํ อทตฺวา อปฺปคฺฆํ เทนฺโต โทสาคติํ คจฺฉติ นามฯ โมหมูฬฺโห จีวรทานวตฺตํ อชานนฺโต โมหาคติํ คจฺฉติ นามฯ มุขรานํ นวกานมฺปิ ภเยน อปาปุณนฺตํ เอว มหคฺฆํ จีวรํ เทนฺโต ภยาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย เอวํ น
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสํ ทาตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๓) วจนโต เย สามเณรา อตฺติสฺสรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส กตฺตพฺพกมฺมํ น กโรนฺติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาสุ ยุตฺตา อาจริยุปชฺฌายานํเยว วตฺตปฏิวตฺตํ กโรนฺติ, อญฺเญสํ น กโรนฺติ, เอเตสํเยว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพฯ เย ปน ปุเรภตฺตญฺจ ปจฺฉาภตฺตญฺจ ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว กตฺตพฺพกิจฺจํ กโรนฺติ, เตสํ สมโก ทาตพฺโพฯ อิทญฺจ ปิฏฺฐิสมเย อุปฺปนฺเนน ภณฺฑาคาเร ฐปิเตน อกาลจีวเรเนว กถิตํ, กาลจีวรํ ปน สมกํเยว ทาตพฺพํฯ ตตฺรุปฺปาทวสฺสาวาสิกํ สมฺมุญฺชนีพนฺธนาทิ สงฺฆสฺส ผาติกมฺมํ กตฺวา คเหตพฺพํฯ เอตญฺเหตฺถ สพฺเพสํ วตฺตํฯ ภณฺฑาคารจีวเรปิ สเจ สามเณรา อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยํ ยาคุํ ปจาม, ภตฺตํ ปจาม, ขชฺชกํ ปจาม, อปฺปหริตํ กโรม, ทนฺตกฏฺฐํ อาหราม, รงฺคฉลฺลิํ กปฺปิยํ กตฺวา เทม, กิํ อมฺเหหิ น กตํ นามา’’ติ อุกฺกุฏฺฐิํ กโรนฺติ, สมภาโคว ทาตพฺโพฯ เอตํเยว วิรชฺฌิตฺวา กโรนฺติ, เยสญฺจ กรณภาโว น ปญฺญายติ, เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สามเณรานํ อุปฑฺฒปฏิวีสํ ทาตุ’’นฺติฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘สเจ สามเณรา ‘กสฺมา มยํ, ภนฺเต, สงฺฆกมฺมํ น กโรม, กริสฺสามา’ติ ยาจนฺติ, สมปฏิวีโส ทาตพฺโพ’’ติ วุตฺตํฯ
สเจ
ฉินฺทนฺเตน
๑๙๙. อิทานิ ‘‘อฏฺฐิมา, ภิกฺขเว, มาติกา จีวรสฺส อุปฺปาทาย, สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปญฺญตฺติยา เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทตี’’ติ (มหาว. ๓๗๙) จีวรานํ ปฏิลาภเขตฺตทสฺสนตฺถํ ยา ตา อฏฺฐ มาติกา วุตฺตา, ตาสํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพฯ
ตตฺถ สีมาย เทติ นามฯ เอวํ สีมาย ทินฺนํ ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตสีมาคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํฯ สีมา จ นาเมสา ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺฐสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมาติ ปนฺนรสวิธา โหติฯ ตตฺถ ขณฺฑสีมา สีมากถายํ วุตฺตาวฯ อุปจารสีมา นาม ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺฐาเนน ปริจฺฉินฺนา โหติฯ อปิจ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺฐานโต ปริยนฺเต ฐิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต อุปจารสีมาติ เวทิตพฺพาฯ สา ปน อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายติฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ภิกฺขูสุปิ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํฯ ตสฺมา สเจ วิหาเร สนฺนิปติตภิกฺขูหิ สทฺธิํ เอกาพทฺธา หุตฺวา โยชนสตมฺปิ ปูเรตฺวา นิสีทนฺติ, โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติ, สพฺเพสํ ลาโภ ปาปุณาติฯ สมานสํวาสอวิปฺปวาสสีมาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมวฯ ลาภสีมา นาม เนว สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุญฺญาตา, น ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ฐปิตา, อปิจ โข ราชราชมหามตฺตา วิหารํ กาเรตฺวา คาวุตํ วา อฑฺฒโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตโต ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา’’ติ นามลิขิตเก ถมฺเภ นิขณิตฺวา ‘‘ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ สีมา ฐเปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นามฯ คามนิคมนครอพฺภนฺตรอุทกุกฺเขปสีมาปิ วุตฺตา เอวฯ
ชนปทสีมา รฏฺฐสีมา นาม กาสิโกสลาทิรฏฺฐปริจฺเฉโทฯ รชฺชสีมา นาม ‘‘โจฬโภโค เกรฬโภโค’’ติ เอวํ เอเกกสฺส รญฺโญ อาณาปวตฺติฏฺฐานํฯ ทีปสีมา นาม สมุทฺทนฺเตน ปริจฺฉินฺนมหาทีปา จ อนฺตรทีปา จฯ จกฺกวาฬสีมา จกฺกวาฬปพฺพเตเนว ปริจฺฉินฺนาฯ เอวเมตาสุ สีมาสุ ขณฺฑสีมาย เกนจิ กมฺเมน สนฺนิปติตํ สงฺฆํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺเถว สีมาย สงฺฆสฺส เทมี’’ติ วุตฺเต ยาวติกา ภิกฺขู อนฺโตขณฺฑสีมาคตา, เตหิ ภาเชตพฺพํฯ เตสํเยว หิ ตํ ปาปุณาติ, อญฺเญสํ สีมนฺตริกาย วา อุปจารสีมาย
สเจ ปน ชมฺพุทีเป ฐิโต ‘‘ตมฺพวณฺณิทีเป สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ อาคนฺตฺวา สพฺเพสํ คณฺหิตุํ ลภติฯ สเจปิ ตตฺเรว เอโก สภาคภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพฯ เอวํ ตาว โย สีมํ ปรามสิตฺวา เทติ, ตสฺส ทาเน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพฯ โย ปน ‘‘อสุกสีมาย’’นฺติ วตฺตุํ น ชานาติ, เกวลํ ‘‘สีมา’’ติ วจนมตฺตเมว ชานนฺโต วิหารํ อาคนฺตฺวา ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วา ‘‘สีมฏฺฐกสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วา ภณติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรสีมํ สนฺธาย ภณสี’’ติฯ สเจ วทติ ‘‘อหํ ‘อสุกสีมา’ติ น ชานามิ, สีมฏฺฐกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหตู’’ติ, กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสีวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติฯ ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ฐิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ฐตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฺปฏิปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺฐเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ฐตฺวา อารามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉิตพฺพํ ภวิสฺสติ, สพฺพมฺเปตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสเนว กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา อุปจารสีมาย ภาเชตพฺพ’’นฺติฯ
๒๐๐. กติกาย เทตีติ เอตฺถ ปน กติกา นาม สมานลาภกติกาฯ ตตฺเรวํ กติกา กาตพฺพา, เอกสฺมิํ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ
๒๐๑. ภิกฺขาปญฺญตฺติ นาม อตฺตโน ปริจฺจาคปญฺญาปนฏฺฐานํ, ยตฺถ สงฺฆสฺส ธุวการา กรียนฺติฯ เอตฺถ จ ยสฺมิํ วิหาเร อิมสฺส จีวรทายกสฺส สนฺตกํ สงฺฆสฺส ปากวฏฺฏํ วา วตฺตติ, ยสฺมิํ วิหาเร ภิกฺขู อตฺตโน ภารํ กตฺวา สทา เคเห โภเชติ, ยตฺถ วา เตน อาวาโส การิโต, สลากภตฺตาทีนิ วา นิพทฺธานิ, อิเม ธุวการา นามฯ เยน ปน สกโลปิ วิหาโร ปติฏฺฐาปิโต, ตตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺมา สเจ โส ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, ตตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา ภณติ, พหูสุ เจปิ ฐาเนสุ ธุวการา โหนฺติ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติฯ สเจ ปน เอกสฺมิํ วิหาเร ภิกฺขู พหุตรา โหนฺติ, เตหิ วตฺตพฺพํ ‘‘ตุมฺหากํ ธุวกาเร เอกตฺถ ภิกฺขู พหู, เอกตฺถ อปฺปกา’’ติฯ สเจ ‘‘ภิกฺขุคณนาย คณฺหถา’’ติ ภณติ, ตถา ภาเชตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติฯ เอตฺถ จ วตฺถเภสชฺชาทิ อปฺปกมฺปิ สุเขน ภาชียติฯ ยทิ ปน มญฺโจ วา ปีฐํ วา เอกเมว โหติ, ตํ ปุจฺฉิตฺวา ยสฺส วิหารสฺส, เอกวิหาเรปิ วา ยสฺส เสนาสนสฺส โส วิจาเรติ, ตตฺถ ทาตพฺพํฯ สเจปิ ‘‘อสุกภิกฺขุ คณฺหตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติฯ อถ ‘‘มยฺหํ ธุวกาเร เทถา’’ติ วตฺวา อวิจาเรตฺวา คจฺฉติ, สงฺฆสฺสปิ วิจาเรตุํ วฏฺฏติฯ เอวํ ปน วิจาเรตพฺพํ, ‘‘สงฺฆตฺเถรสฺส วสนฏฺฐาเน เทถา’’ติ วตฺตพฺพํฯ สเจ ตตฺถ เสนาสนํ ปริปุณฺณํ โหติ, ยตฺถ นปฺปโหติ, ตตฺถ ทาตพฺพํฯ สเจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ วสนฏฺฐาเน เสนาสนปริโภคภณฺฑํ นตฺถี’’ติ วทติ, ตตฺถ ทาตพฺพํฯ
๒๐๒. สงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, อุปจารสีมาย ฐิเตน สงฺเฆน ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา
เอกสฺมิํ วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, ทส วตฺถานิ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, ปาเฏกฺกํ ภาเชตพฺพานิฯ สเจ ‘‘สพฺพาเนว อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทุปฺปาปิตานิ เจว ทุคฺคหิตานิ จ, คตคตฏฺฐาเน สงฺฆิกาเนว โหนฺติฯ เอกํ ปน อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘เสสานิ อมฺหากํ ปาปุณนฺตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติฯ เอกเมว วตฺถํ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ อาหรนฺติ, อภาเชตฺวาว ‘‘อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, ทุปฺปาปิตญฺเจว ทุคฺคหิตญฺจฯ สตฺถเกน วา หลิทฺทิอาทินา วา เลขํ กตฺวา เอกโกฏฺฐาสํ ‘‘อิทํ ฐานํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ สงฺฆตฺเถรสฺส ปาเปตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติฯ ยํ ปน วตฺถสฺเสว ปุปฺผํ วา วลิ วา, เตน ปริจฺเฉทํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ สเจ เอกํ ตนฺตํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อิทํ ฐานํ ตุมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ เถรสฺส ทตฺวา ‘‘เสสํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติฯ ขณฺฑํ ขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา ภาชิยมานํ วฏฺฏติเยวฯ
เอกภิกฺขุเก วิหาเร สงฺฆสฺส จีวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ สเจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โส ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตานิ
๒๐๓. อุภโตสงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ ‘‘ทฺวิธา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ, ‘‘ทฺวินฺนํ สงฺฆานํ ทมฺมี’’ติ, ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส
‘‘ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจ ทมฺมี’’ติ วุตฺเตปิ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา น ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํฯ ‘‘ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจ ตุยฺหญฺจ, ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจ เจติยสฺส จ, ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจ ตุยฺหญฺจ เจติยสฺส จา’’ติ เอวํ วุตฺเตปิ เจติยสฺส เอกปฏิวีโส ลพฺภติ, ปุคฺคลสฺส วิสุํ นตฺถิ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา เอว ภาเชตพฺพํฯ ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทิํ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนีสงฺฆํ อาทิํ กตฺวาปิ เนตพฺโพฯ
‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส
ปุพฺเพ พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ภควา มชฺเฌ นิสีทติ, ทกฺขิณโต ภิกฺขู, วามโต ภิกฺขุนิโย นิสีทนฺติ, ภควา อุภินฺนํ สงฺฆตฺเถโร, ตทา ภควา อตฺตนา ลทฺธปจฺจเย อตฺตนาปิ ปริภุญฺชติ, ภิกฺขูนมฺปิ ทาเปติฯ เอตรหิ ปน ปณฺฑิตมนุสฺสา สธาตุกํ ปฏิมํ วา เจติยํ วา ฐเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส อุภโตสงฺฆสฺส ทานํ เทนฺติ, ปฏิมาย วา เจติยสฺส วา ปุรโต อาธารเก ปตฺตํ ฐเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ‘‘พุทฺธานํ เทมา’’ติ, ตตฺถ ปฐมํ ขาทนียโภชนียํ เทนฺติ, วิหารํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ เจติยสฺส เทมา’’ติ ปิณฺฑปาตญฺจ มาลาคนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, ตตฺถ กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? มาลาคนฺธาทีนิ ตาว เจติเย อาโรเปตพฺพานิ, วตฺเถหิ ปฏากา, เตเลน ปทีปา กาตพฺพาฯ ปิณฺฑปาตมธุผาณิตาทีนิ ปน
๒๐๔. วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ เทติ, ยตฺตกา ภิกฺขู ตสฺมิํ อาวาเส วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺฐา, เตหิ ภาเชตพฺพํ, อญฺเญสํ น ปาปุณาติฯ ทิสาปกฺกนฺตสฺสปิ สติ คาหเก ยาว กถินสฺสุพฺภารา
จีวรมาสโต ปฏฺฐาย ยาว เหมนฺตสฺส ปจฺฉิโม ทิวโส, ตาว ‘‘วสฺสาวาสิกํ เทมา’’ติ วุตฺเต กถินํ อตฺถตํ วา โหตุ อนตฺถตํ วา, อตีตวสฺสํวุฏฺฐานเมว ปาปุณาติฯ คิมฺหานํ ปฐมทิวสโต ปฏฺฐาย วุตฺเต ปน มาติกา อาโรเปตพฺพา ‘‘อตีตปสฺสาวาสสฺส ปญฺจ มาสา อติกฺกนฺตา, อนาคโต จาตุมาสจฺจเยน ภวิสฺสติ, กตรวสฺสาวาสสฺส เทสี’’ติฯ สเจ ‘‘อตีตวสฺสํวุฏฺฐานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ อนฺโตวสฺสํวุฏฺฐานเมว ปาปุณาติ, ทิสาปกฺกนฺตานมฺปิ สภาคา คณฺหิตุํ ลภนฺติฯ สเจ ‘‘อนาคเต วสฺสาวาสิกํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ ฐเปตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส คเหตพฺพํฯ อถ ‘‘อคุตฺโต วิหาโร, โจรภยํ อตฺถิ, น สกฺกา ฐเปตุํ คณฺหิตฺวา วา อาหิณฺฑิตุ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สมฺปตฺตานํ ทมฺมี’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา คเหตพฺพํฯ สเจ วทติ
๒๐๕. อาทิสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน ยาคุยา วา ภตฺเต วา ขาทนีเย วา จีวเร วา เสนาสเน วา เภสชฺเช วา อาทิสิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทนฺโต อาทิสฺส เทติ นามฯ ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ภิกฺขู อชฺชตนาย วา
๒๐๖. ปุคฺคลสฺส เทตีติ เอตฺถ ปน ‘‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา, ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ทมฺมี’’ติ เอวํ สมฺมุขา วา เทติ, ตํ ตสฺเสว โหติฯ สเจ ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากญฺจ ตุมฺหากํ อนฺเตวาสิกานญฺจ ทมฺมี’’ติ เอวํ วทติ, เถรสฺส จ อนฺเตวาสิกานญฺจ ปาปุณาติฯ อุทฺเทสํ คเหตุํ อาคโต คเหตฺวา คจฺฉนฺโต จ อตฺถิ, ตสฺสปิ ปาปุณาติฯ ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธิํ นิพทฺธจาริกภิกฺขูนํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อุทฺเทสนฺเตวาสิกานํ วตฺตํ กตฺวา
สเจ โกจิ ภิกฺขุ เอโกว วสฺสํ วสติ, ตตฺถ มนุสฺสา ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ จีวรานิ เทนฺติ, ตตฺถ กิํ กาตพฺพนฺติ? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว
อถ ฆณฺฏิสญฺญาย วา กาลสญฺญาย วา อญฺเญ ภิกฺขู น อาคจฺฉนฺติ, ‘‘มยฺหิมานิ จีวรานิ ปาปุณนฺตี’’ติ อธิฏฺฐาตพฺพานิฯ เอวํ อธิฏฺฐิเต สพฺพานิ ตสฺเสว โหนฺติ, ฐิติกา ปน น ติฏฺฐติฯ สเจ เอเกกํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อยํ ปฐมภาโค มยฺหํ ปาปุณาติ, อยํ ทุติยภาโค’’ติ เอวํ คณฺหาติ, คหิตานิ จ สุคฺคหิตานิ โหนฺติ, ฐิติกา จ ติฏฺฐติ, เอวํ ปาเปตฺวา คณฺหนฺเตนปิ อธิฏฺฐิตเมว โหติฯ สเจ ปน ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา วา อปฺปหริตฺวา วา กาลมฺปิ โฆเสตฺวา วา อโฆเสตฺวา วา ‘‘อหเมเวตฺถ
‘‘น, ภิกฺขเว, อญฺญตฺร วสฺสํวุฏฺเฐน อญฺญตฺร จีวรภาโค สาทิตพฺโพ, โย สาทิเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๓๖๔) วจนโต อญฺญตฺร วสฺสํวุฏฺโฐ อญฺญตฺร ภาคํ คณฺหาติ, ทุกฺกฏํฯ เอตฺถ ปน กิญฺจาปิ ลหุกา อาปตฺติ, อถ โข คหิตานิ จีวรานิ คหิตฏฺฐาเน ทาตพฺพานิฯ สเจปิ นฏฺฐานิ วา ชิณฺณานิ วา โหนฺติ, ตสฺเสว คีวาฯ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต อเทนฺโต ธุรนิกฺเขเป ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพฯ
เอโก ภิกฺขุ ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสติ ‘‘เอวํ เม พหุ จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ, เอกํ ปุคฺคลปฏิวีสํเยว ลภติฯ ตสฺมา สเจ เอเกกสฺมิํ วิหาเร เอกาหเมกาหํ วา สตฺตาหํ วา วสติ, เอเกกสฺมิํ วิหาเร ยํ เอโก ปุคฺคโล ลภติ, ตโต ตโต อุปฑฺฒํ อุปฑฺฒํ ทาตพฺพํฯ เอวญฺหิ เอกปุคฺคลปฏิวีโส ทินฺโน โหติฯ สเจ ปน เอกสฺมิํ วิหาเร วสนฺโต อิตรสฺมิํ สตฺตาหวาเรน อรุณเมว อุฏฺฐาเปติ, พหุตรํ วสิตวิหารโต ตสฺส ปฏิวีโส ทาตพฺโพฯ เอวมฺปิ เอกปุคฺคลปฏิวีโสเยว ทินฺโน โหติฯ อิทญฺจ นานาลาเภหิ นานูปจาเรหิ เอกสีมาวิหาเรหิ กถิตํ, นานาสีมาวิหาเร ปน เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ ตสฺมา ตตฺถ จีวรปฏิวีโส น ปาปุณาติ, เสสํ ปน อามิสเภสชฺชาทิ สพฺพํ สพฺพตฺถ อนฺโตสีมาคตสฺส ปาปุณาติฯ
๒๐๗. ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิจ คิลานุปฏฺฐากา พหูปการา, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรญฺจ
‘‘สุณาตุ
‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ กาลกโต, อิทํ ตสฺส ติจีวรญฺจ ปตฺโต จ, สงฺโฆ อิมํ ติจีวรญฺจ ปตฺตญฺจ คิลานุปฏฺฐากานํ เทติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิมสฺส ติจีวรสฺส จ ปตฺตสฺส จ คิลานุปฏฺฐากานํ ทานํ, โส ตุณฺหสฺสฯ ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ
‘‘ทินฺนํ อิทํ สงฺเฆน ติจีวรญฺจ ปตฺโต จ คิลานุปฏฺฐากานํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (มหาว. ๓๖๗) –
เอวํ กมฺมวาจํ วา สาเวตฺวา คิลานุปฏฺฐากานํ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา เสสํ ลหุปริกฺขารํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตฺวา คเหตพฺพํฯ
๒๐๘. คิลานุปฏฺฐากานํ ลาเภ ปน อยํ วินิจฺฉโย – สเจ สกเล ภิกฺขุสงฺเฆ อุปฏฺฐหนฺเต กาลํ กโรติ, สพฺเพปิ สามิกาฯ อถ เอกจฺเจหิ วาเร กเต เอกจฺเจหิ อกเตเยว กาลํ กโรติ, ตตฺร เอกจฺเจ อาจริยา วทนฺติ ‘‘สพฺเพปิ อตฺตโน วาเร สมฺปตฺเต กเรยฺยุํ, ตสฺมา สพฺเพปิ สามิโน’’ติฯ เอกจฺเจ วทนฺติ ‘‘เยหิ ชคฺคิโต, เต เอว ลภนฺติ, อิตเร น ลภนฺตี’’ติฯ สามเณเรปิ กาลกเต สเจ จีวรํ อตฺถิ, คิลานุปฏฺฐากานํ ทาตพฺพํฯ โน เจ อตฺถิ, ยํ อตฺถิ, ตํ ทาตพฺพํฯ อญฺญสฺมิํ ปริกฺขาเร สติ จีวรภาคํ กตฺวา ทาตพฺพํฯ ภิกฺขุ จ สามเณโร จ สเจ สมํ อุปฏฺฐหิํสุ, สมโก ภาโค ทาตพฺโพฯ อถ สามเณโรว อุปฏฺฐหติ, ภิกฺขุสฺส สํวิทหนมตฺตเมว โหติ, สามเณรสฺส เชฏฺฐโกฏฺฐาโส ทาตพฺโพฯ สเจ สามเณโร
เยน ปน เอกทิวสมฺปิ คิลานุปฏฺฐากวเสน ยาคุภตฺตํ วา ปจิตฺวา ทินฺนํ, นฺหานํ วา ปฏิสาทิตํ, โสปิ คิลานุปฏฺฐาโกวฯ โย ปน สมีปํ อนาคนฺตฺวา เภสชฺชตณฺฑุลาทีนิ เปเสติ, อยํ คิลานุปฏฺฐาโก น โหติฯ โย ปริเยสิตฺวา คาเหตฺวา อาคจฺฉติ, อยํ คิลานุปฏฺฐาโกว
สเจ
สเจ วสฺสํวุฏฺฐานํ ภิกฺขูนํ อนุปฺปนฺเน จีวเร สงฺโฆ ภิชฺชติ, โกสมฺพกภิกฺขู วิย ทฺเว โกฏฺฐาสา โหนฺติ, ตตฺถ มนุสฺสา เอกสฺมิํ ปกฺเข ทกฺขิโณทกญฺจ คนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, เอกสฺมิํ จีวรานิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ, ยตฺถ วา อุทกํ ทินฺนํ, ยสฺมิํเยว ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘สงฺฆสฺส เทมา’’ติ, สงฺฆสฺเสว ตานิ จีวรานิ, ทฺวินฺนมฺปิ โกฏฺฐาสานํ ปาปุณนฺติ, ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ เอกโต ภาเชตพฺพานิฯ สเจ ปน มนุสฺสา เอกสฺมิํ ปกฺเข ทกฺขิโณทกํ คนฺธาทีนิ จ เทนฺติ, เอกสฺมิํ ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘ปกฺขสฺส มหาอฏฺฐกถายํ วุตฺตํฯ สเจ ยสฺมิํ ปกฺเข อุทกํ ทินฺนํ, ตสฺมิํเยว ปกฺเข จีวรานิ เทนฺติ ‘‘ปกฺขสฺส เทมา’’ติ, ปกฺขสฺเสว ตานิ จีวรานิ, อิตโร ปกฺโข อนิสฺสโรเยวฯ สเจ ปน วสฺสํวุฏฺฐานํ ภิกฺขูนํ อุปฺปนฺเน จีวเร อภาชิเต สงฺโฆ ภิชฺชติ, สพฺเพสํ สมกํ ภาเชตพฺพํฯ
สเจ สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนสุ เกจิ ภิกฺขู ปํสุกูลตฺถาย สุสานํ โอกฺกมนฺติ, เกจิ อนาคเมนฺตา ปกฺกมนฺติ, อนาคเมนฺตานํ น อกามา ภาโค ทาตพฺโพ, อาคเมนฺตานํ ปน อกามาปิ ทาตพฺโพ ภาโคฯ ยทิ ปน มนุสฺสา ‘‘อิธาคตา เอว คณฺหนฺตู’’ติ เทนฺติ, สญฺญาณํ วา กตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘สมฺปตฺตา คณฺหนฺตู’’ติ, สมฺปตฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาปุณาติ
๒๐๙. ปิณฺฑปาตภาชเน ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิก’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) เอวํ อนุญฺญาเตสุ สงฺฆภตฺตาทีสุ อยํ วินิจฺฉโย (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๒๕) –
สงฺฆภตฺตํ นาม สกลสฺส สงฺฆสฺส ทาตพฺพํ ภตฺตํฯ ตสฺมา สงฺฆภตฺเต ฐิติกา นาม นตฺถิ, ตโตเยว
อุทฺเทสภตฺตาทีสุ ปน อยํ นโย – รญฺญา วา ราชมหามตฺเตน วา ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา เอตฺตเก ภิกฺขู อาเนถา’’ติ ปหิเต กาลํ โฆเสตฺวา ฐิติกา ปุจฺฉิตพฺพาฯ สเจ อตฺถิ, ตโต ปฏฺฐาย คาเหตพฺพํฯ โน เจ, เถราสนโต ปฏฺฐาย คาเหตพฺพํฯ อุทฺเทสเกน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ น อติกฺกาเมตพฺพํฯ เต ปน ธุตงฺคํ รกฺขนฺตา สยเมว อติกฺกมิสฺสนฺติฯ เอวํ คาหิยมาเน อลสชาติกา มหาเถรา ปจฺฉา อาคจฺฉนฺติ, ‘‘ภนฺเต, วีสติวสฺสานํ คาหียติ, ตุมฺหากํ ฐิติกา อติกฺกนฺตา’’ติ น วตฺตพฺพา, ฐิติกํ ฐเปตฺวา เตสํ คาเหตฺวา ปจฺฉา ฐิติกาย คาเหตพฺพํฯ ‘‘อสุกวิหาเร
เอกสฺมิํ วิหาเร เอกํ ภตฺตุทฺเทสฏฺฐานํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คาวุตปฺปมาณายปิ อุปจารสีมาย ยตฺถ กตฺถจิ อาโรจิตํ อุทฺเทสภตฺตํ ตสฺมิํเยว ภตฺตุทฺเทสฏฺฐาเน คาเหตพฺพํฯ เอโก เอกสฺส ภิกฺขุโน ปหิณติ ‘‘สฺเว สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ทส ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ, เตน โส อตฺโถ ภตฺตุทฺเทสกสฺส อาโรเจตพฺโพฯ สเจ ตํ ทิวสํ ปมุสฺสติ, ทุติยทิวเส ปาโตว อาโรเจตพฺโพ, อถ ปมุสฺสิตฺวาว ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต สรติ, ยาว อุปจารสีมํ นาติกฺกมติ, ตาว ยา โภชนสาลาย ปกติฐิติกา, ตสฺสาเยว วเสน คาเหตพฺพํฯ สเจปิ อุปจารสีมํ อติกฺกนฺโต, ภิกฺขู จ อุปจารสีมฏฺฐเกหิ เอกาพทฺธา โหนฺติ, อญฺญมญฺญํ ทฺวาทสหตฺถนฺตรํ อวิชหิตฺวา คจฺฉนฺติ, ปกติฐิติกาย วเสน คาเหตพฺพํฯ ภิกฺขูนํ ปน ตาทิเส เอกาพทฺเธ อสติ พหิอุปจารสีมาย ยสฺมิํ ฐาเน สรติ, ตตฺถ นวํ ฐิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํฯ อนฺโตคาเม อาสนสาลาย สรนฺเตน อาสนสาลาย ฐิติกาย คาเหตพฺพํฯ ยตฺถ กตฺถจิ สริตฺวา คาเหตพฺพเมว, อคาเหตุํ น วฏฺฏติฯ น หิ เอตํ ทุติยทิวเส ลพฺภตีติฯ
สเจ
ฆรูปจาโร เจตฺถ เอกฆรํ เอกูปจารํ, เอกฆรํ นานูปจารํ, นานาฆรํ เอกูปจารํ, นานาฆรํ นานูปจารนฺติ อิเมสํ วเสน เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ ยํ เอกกุลสฺส ฆรํ เอกวฬญฺชํ โหติ, ตํ สุปฺปปาตปริจฺเฉทสฺส อนฺโต เอกูปจารํ นาม, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ เอกสฺมิํ อุปจาเร ภิกฺขาจารวตฺเตนปิ ฐิตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติฯ เอตํ เอกฆรํ เอกูปจารํ นามฯ ยํ ปน เอกฆรํ ทฺวินฺนํ ภริยานํ สุขวิหารตฺถาย มชฺเฌ ภิตฺติํ อุฏฺฐเปตฺวา นานาทฺวารวฬญฺชํ กตํ, ตตฺถุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ ภิตฺติอนฺตริกสฺส น ปาปุณาติ, ตสฺมิํ ตสฺมิํ ฐาเน นิสินฺนสฺเสว ปาปุณาติฯ เอตํ เอกฆรํ นานูปจารํ นามฯ ยสฺมิํ ปน ฆเร พหู ภิกฺขู นิมนฺเตตฺวา อนฺโตเคหโต ปฏฺฐาย เอกาพทฺเธ กตฺวา ปฏิวิสฺสกฆรานิปิ ปูเรตฺวา นิสีทาเปนฺติ, ตตฺถ อุปฺปนฺโน อุทฺเทสลาโภ สพฺเพสํ ปาปุณาติฯ ยมฺปิ นานากุลสฺส นิเวสนํ มชฺเฌ ภิตฺติํ อกตฺวา เอกทฺวาเรเนว วฬญฺชนฺติ, ตตฺราปิ เอเสว นโยฯ เอตํ นานาฆรํ เอกูปจารํ นามฯ โย ปน นานานิเวสเนสุ นิสินฺนานํ ภิกฺขูนํ อุทฺเทสลาโภ อุปฺปชฺชติ, กิญฺจาปิ ภิตฺติจฺฉิทฺเทน ภิกฺขู ทิสฺสนฺติ, ตสฺมิํ ตสฺมิํ นิเวสเน นิสินฺนานํเยว ปาปุณาติฯ เอตํ นานาฆรํ นานูปจารํ นามฯ
โย ปน คามทฺวารวีถิจตุกฺเกสุ อญฺญตรสฺมิํ ฐาเน อุทฺเทสภตฺตํ ลภิตฺวา อญฺญสฺมิํ ภิกฺขุสฺมิํ อสติ อตฺตโนว ปาปุณาเปตฺวา ทุติยทิวเสปิ ตสฺมิํเยว ฐาเน อญฺญํ ลภติ, เตน ยํ อญฺญํ นวกํ วา วุฑฺฒํ วา ภิกฺขุํ ปสฺสติ, ตสฺส คาเหตพฺพํฯ สเจ โกจิ นตฺถิ, อตฺตโนว ปาเปตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา กาลํ ปฏิมาเนนฺเตสุ ภิกฺขูสุ โกจิ อาคนฺตฺวา ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถ, อุทฺเทสปตฺตํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ปตฺตํ เทถ, สงฺฆิกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วา วทติ, อุทฺเทสปตฺตํ ฐิติกาย คาเหตฺวา ทาตพฺพํฯ ‘‘สงฺฆุทฺเทสภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา ภิกฺขุํ เทถ, สงฺฆิกํ ภิกฺขุํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโยฯ
อุทฺเทสโก
โกจิ อาสนสาลโต อฏฺฐ อุทฺเทสปตฺเต อาหราเปตฺวา สตฺต ปตฺเต ปณีตโภชนานํ, เอกํ อุทกสฺส ปูเรตฺวา อาสนสาลํ ปหิณติ, คเหตฺวา อาคตา กิญฺจิ อวตฺวา ภิกฺขูนํ หตฺเถสุ ปติฏฺฐเปตฺวา ปกฺกมนฺติ, เยน ยํ ลทฺธํ, ตสฺเสว ตํ โหติฯ เยน ปน อุทกํ ลทฺธํ, ตสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ฐิติกํ ฐเปตฺวา อญฺญํ อุทฺเทสภตฺตํ คาเหตพฺพํ, ตญฺจ ลูขํ วา ลภตุ ปณีตํ วา ติจีวรปริวารํ วา, ตสฺเสว ตํ โหติฯ อีทิโส หิสฺส ปุญฺญวิเสโส, อุทกํ ปน ยสฺมา อามิสํ น โหติ, ตสฺมา อญฺญํ อุทฺเทสภตฺตํ ลภติฯ สเจ ปน เต คเหตฺวา อาคตา ‘‘อิทํ กิร, ภนฺเต, สพฺพํ ภาเชตฺวา ภุญฺชถา’’ติ วตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ภุญฺชิตฺวา อุทกํ ปาตพฺพํฯ ‘‘สงฺฆโต อุทฺทิสิตฺวา อฏฺฐ มหาเถเร เทถ, มชฺฌิเม เทถ, นวเก เทถ, ปริปุณฺณวสฺเส สามเณเร เทถ, มชฺฌิมภาณกาทโย เทถ, มยฺหํ ญาติภิกฺขู เทถา’’ติ วทนฺตสฺส ปน ‘‘อุปาสก, ตฺวํ เอวํ วทสิ, ฐิติกาย ปน เตสํ น ปาปุณาตี’’ติ วตฺวา ฐิติกาวเสเนว ทาตพฺพาฯ ทหรสามเณเรหิ ปน อุทฺเทสภตฺเตสุ ลทฺเธสุ สเจ ทายกานํ ฆเร
เอโก ‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต ‘‘ภนฺเต, เอกํ ปตฺตํ เทถ, นิมนฺตนภตฺตํ อาหริสฺสามี’’ติ วทติ, โส เจ ‘‘อุทฺเทสภตฺตฆรโต อยํ อาคโต’’ติ ญตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘นนุ ตฺวํ อสุกฆรโต อาคโต’’ติ วุตฺโต ‘‘อาม, ภนฺเต, น นิมนฺตนภตฺตํ, อุทฺเทสภตฺต’’นฺติ ภณติ, ฐิติกาย คาเหตพฺพํฯ โย ปน ‘‘เอกํ ปตฺตํ อาหรา’’ติ วุตฺเต ‘‘กินฺติ วตฺวา อาหรามี’’ติ วตฺวา ‘‘ยถา เต รุจฺจตี’’ติ วุตฺโต อาคจฺฉติ, อยํ วิสฺสฏฺฐทูโต นามฯ อุทฺเทสปตฺตํ วา ปฏิปาฏิปตฺตํ วา ปุคฺคลิกปตฺตํ วา ยํ อิจฺฉติ, ตํ เอตสฺส ทาตพฺพํฯ เอโก พาโล อพฺยตฺโต ‘‘อุทฺเทสปตฺตํ อาหรา’’ติ เปสิโต วตฺตุํ น ชานาติ, ตุณฺหีภูโต ติฏฺฐติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพฯ เอวญฺหิ วุตฺโต ปุจฺฉาสภาเคน ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโตมฺหี’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วา วเทยฺยฯ ตโต ตํ ภิกฺขุํ อญฺเญ ภิกฺขู ชิคุจฺฉนฺตา น โอโลเกยฺยุํ, ‘‘กุหิํ คจฺฉสิ, กิํ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วตฺตพฺโพฯ ตสฺส ‘‘อุทฺเทสปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส คาเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพฯ
เอกา กูฏฏฺฐิติกา นาม โหติฯ รญฺโญ วา ราชมหามตฺตสฺส วา เคเห อติปณีตานิ อฏฺฐ อุทฺเทสภตฺตานิ นิจฺจํ ทียนฺติ, ตานิ เอกจาริกภตฺตานิ กตฺวา ภิกฺขู วิสุํ ฐิติกาย ปริภุญฺชนฺติฯ เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘‘สฺเว ทานิ อมฺหากํ ปาปุณิสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ฐิติกํ สลฺลกฺเขตฺวา คตาฯ เตสุ อนาคเตสุเยว อญฺเญ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อาคนฺตฺวา อาสนสาลาย นิสีทนฺติฯ ตงฺขณญฺเญว ราชปุริสา อาคนฺตฺวา ‘‘ปณีตภตฺตปตฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, อาคนฺตุกา ฐิติกํ อชานนฺตา คาเหนฺติ, ตงฺขณญฺเญว จ ฐิติกํ ชานนกภิกฺขู อาคนฺตฺวา ‘‘กิํ คาเหถา’’ติ วทนฺติ
อถ เน ราชา โภเชตฺวา ปตฺเตปิ เนสํ ปูเรตฺวา เทติ, ยํ อาหฏํ, ตํ ฐิติกาย คาเหตพฺพํ
เอโก ติจีวรปริวาโร สตคฺฆนโก ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ภิกฺขุโน ปตฺโต, วิหาเร จ ‘‘เอวรูโป ปิณฺฑปาโต อวสฺสิกสฺส ปตฺโต’’ติ ลิขิตฺวา ฐเปสุํฯ อถ สฏฺฐิวสฺสจฺจเยน อญฺโญ ตถารูโป ปิณฺฑปาโต อุปฺปนฺโน, อยํ กิํ อวสฺสิกฐิติกาย คาเหตพฺโพ, อุทาหุ สฏฺฐิวสฺสฐิติกายาติ? สฏฺฐิวสฺสฐิติกายาติ วุตฺตํฯ อยญฺหิ ภิกฺขุฐิติกํ คเหตฺวาเยว วฑฺฒิโตติฯ เอโก อุทฺเทสภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา สามเณโร ชาโต, ปุน ตํ ภตฺตํ สามเณรฐิติกาย ปตฺตํ คณฺหิตุํ ลภติฯ อยํ กิร อนฺตราภฏฺฐโก นามฯ โย ปน ปริปุณฺณวสฺโส สามเณโร ‘‘สฺเว อุทฺเทสภตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ อชฺเชว อุปสมฺปชฺชติ, อติกฺกนฺตา ตสฺส ฐิติกาฯ เอกสฺส ภิกฺขุโน อุทฺเทสภตฺตํ ปตฺตํ, ปตฺโต จสฺส น ตุจฺโฉ โหติ, โส อญฺญสฺส สมีเป นิสินฺนสฺส ปตฺตํ ทาเปติ, ตํ เจ เถยฺยาย หรนฺติ, คีวา โหติฯ สเจ ปน โส ภิกฺขุ ‘‘มยฺหํ ปตฺตํ ทมฺมี’’ติ สยเมว เทติ, อสฺส คีวา น โหติฯ อถาปิ เตน ภตฺเตน อนตฺถิโก หุตฺวา ‘‘อลํ มยฺหํ, ตเวตํ
วิหาเร ทส ภิกฺขู โหนฺติ, เตสุ นว ปิณฺฑปาติกา, เอโก สาทิยนโก, ‘‘ทส อุทฺเทสปตฺเต เทถา’’ติ วุตฺเต ปิณฺฑปาติกา คเหตุํ น อิจฺฉนฺติฯ อิตโร ภิกฺขุ ‘‘สพฺพานิ มยฺหํ ปาปุณนฺตี’’ติ คณฺหาติ, ฐิติกา น โหติฯ เอเกกํ เจ ปาเปตฺวา คณฺหาติ, ฐิติกา ติฏฺฐติฯ เอวํ คาเหตฺวา ทสหิปิ ปตฺเตหิ อาหราเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ สงฺคหํ กโรถา’’ติ นว ปตฺเต ปิณฺฑปาติกานํ เทติ, ภิกฺขุทตฺติยํ นาเมตํ, คเหตุํ วฏฺฏติฯ สเจ โส อุปาสโก ‘‘ภนฺเต, ฆรํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ วทติ, โส จ ภิกฺขุ เต ภิกฺขู ‘‘เอถ, ภนฺเต, มยฺหํ สหายา โหถา’’ติ ตสฺส ฆรํ คจฺฉติ, ยํ ตตฺถ ลภติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติ, อิตเร เตน ทินฺนํ ลภนฺติฯ อถ เนสํ ฆเรเยว นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ยาคุขชฺชกาทีนิ เทนฺติ ‘‘ภนฺเต, ยํ มนุสฺสา เทนฺติ, ตํ คณฺหถา’’ติ, ตสฺส ภิกฺขุโน วจเนเนว อิตเรสํ วฏฺฏติฯ ภุตฺตาวีนํ ปตฺเต ปูเรตฺวา คณฺหิตฺวา คมนตฺถาย เทนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว ภิกฺขุโน โหติ, เตน ทินฺนํ อิตเรสํ วฏฺฏติฯ ยทิ ปน
เอโก สงฺฆโต อุทฺทิสาเปตฺวา ฐิติกาย คาหิตปตฺตํ หริตฺวา ปณีตสฺส ขาทนียโภชนียสฺส ปูเรตฺวา อาหริตฺวา ‘‘อิมํ, ภนฺเต, สพฺโพ สงฺโฆ ปริภุญฺชตู’’ติ เทติ, สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพํฯ ปตฺตสามิกสฺส ปน อติกฺกนฺตมฺปิ ฐิติกํ ฐเปตฺวา อญฺญํ อุทฺเทสภตฺตํ ทาตพฺพํฯ อถ ปฐมํเยว ‘‘สพฺพํ สงฺฆิกปตฺตํ เทถา’’ติ วทติ, เอกสฺส ลชฺชิภิกฺขุโน สนฺตโก ปตฺโต ทาตพฺโพฯ อาหริตฺวา จ ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ
‘‘สงฺฆุทฺเทสปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเต ‘‘กิํ อาหริสฺสสี’’ติ อวตฺวา ปกติฐิติกาย เอว คาเหตพฺพํฯ โย ปน ปายาโส วา รสปิณฺฑปาโต วา นิจฺจํ ลพฺภติ, เอวรูปานํ ปณีตโภชนานํ อาเวณิกา ฐิติกา กาตพฺพา, ตถา สปริวาราย ยาคุยา มหคฺฆานํ ผลานํ ปณีตานญฺจ ขชฺชกานํฯ ปกติภตฺตยาคุผลขชฺชกานํ เอกาว ฐิติกา กาตพฺพาฯ ‘‘สปฺปิํ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต สพฺพสปฺปีนํ เอกาว ฐิติกา วฏฺฏติ, ตถา สพฺพเตลานํฯ ‘‘มธุํ อาหริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ปน มธุโน เอกาว ฐิติกา วฏฺฏติ, ตถา ผาณิตสฺส ลฏฺฐิมธุกาทีนญฺจ เภสชฺชานํฯ สเจ ปน คนฺธมาลํ สงฺฆุทฺเทสํ เทนฺติ, ปิณฺฑปาติกสฺส วฏฺฏติ, น
อุทฺเทสภตฺตกถา นิฏฺฐิตาฯ
๒๑๐. นิมนฺตนํ ปุคฺคลิกํ เจ, สยเมว อิสฺสโรฯ สงฺฆิกํ ปน อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพํฯ สเจ ปเนตฺถ ทูโต พฺยตฺโต โหติ, ‘‘ภนฺเต, ราชเคเห ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ อวตฺวา ‘‘ภิกฺขํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติฯ อถ ทูโต อพฺยตฺโต ‘‘ภตฺตํ คณฺหถา’’ติ วทติ, ภตฺตุทฺเทสโก พฺยตฺโต ‘‘ภตฺต’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ภนฺเต
นิมนฺตนภตฺตฆรโต ปน ปตฺตตฺถาย อาคตสฺส อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ฐิติกาย ปตฺโต ทาตพฺโพฯ เอโก ‘‘สงฺฆโต ปฏิปาฏิยา ปตฺต’’นฺติ อวตฺวา เกวลํ ‘‘เอกํ ปตฺตํ เทถา’’ติ วตฺวา อคฺคาหิเตเยว ปตฺเต ยสฺส กสฺสจิ ปตฺตํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา อาหรติ, ตํ ปตฺตสามิกสฺเสว โหติฯ อุทฺเทสภตฺเต วิย ฐิติกาย น คาเหตพฺพํฯ อิธาปิ โย อาคนฺตฺวา ตุณฺหีภูโต ติฏฺฐติ, โส ‘‘กสฺส สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วา ‘‘กสฺส ปตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วา น วตฺตพฺโพฯ ปุจฺฉาสภาเคน หิ ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ หริสฺสามี’’ติ วเทยฺย, ตโต โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ ชิคุจฺฉนีโย อสฺสฯ ‘‘กุหิํ คจฺฉสิ, กิํ กโรนฺโต อาหิณฺฑสี’’ติ ปน วุตฺเต ‘‘ตสฺส ปตฺตตฺถาย อาคโตมฺหี’’ติ วทนฺตสฺส ปฏิปาฏิภตฺตฏฺฐิติกาย คเหตฺวา ปตฺโต ทาตพฺโพฯ ‘‘ภตฺตหรณปตฺตํ เทถา’’ติ วุตฺเตปิ ปฏิปาฏิภตฺตฏฺฐิติกาย เอว ทาตพฺโพฯ สเจ อาหริตฺวา ‘‘สพฺโพ สงฺโฆ ภุญฺชตู’’ติ วทติ, ภาเชตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ ปตฺตสามิกสฺส อติกฺกนฺตมฺปิ ฐิติกํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปฏิปาฏิภตฺตํ คาเหตพฺพํฯ
เอโก
อุปาสโก สงฺฆตฺเถรสฺส วา คนฺถธุตงฺควเสน อภิญฺญาตสฺส วา ภตฺตุทฺเทสกสฺส วา ปหิณติ ‘‘อมฺหากํ ภตฺตคหณตฺถาย อฏฺฐ ภิกฺขู คเหตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ, สเจปิ ญาติอุปฏฺฐาเกหิ เปสิตํ โหติ, อิเม ตโย ชนา ปุจฺฉิตุํ น ลภนฺติ, อารุฬฺหาเยว มาติกํฯ สงฺฆโต อฏฺฐ ภิกฺขู อุทฺทิสาเปตฺวา อตฺตนวเมหิ คนฺตพฺพํฯ กสฺมา? ภิกฺขุสงฺฆสฺส หิ เอเต ภิกฺขู นิสฺสาย ลาโภ อุปฺปชฺชตีติฯ คนฺถธุตงฺคาทีหิ ปน อนภิญฺญาโต อาวาสิกภิกฺขุ อาปุจฺฉิตุํ ลภติ, ตสฺมา เตน ‘‘กิํ สงฺฆโต คณฺหามิ, อุทาหุ เย ชานามิ, เตหิ สทฺธิํ อาคจฺฉามี’’ติ มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพํฯ ‘‘ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วา เย วา ชานาถ, เต คเหตฺวา เอถา’’ติ วุตฺเต ปน เย อิจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธิํ คนฺตุํ ลภติฯ สเจ ‘‘อฏฺฐ ภิกฺขู ปหิณถา’’ติ เปเสนฺติ, สงฺฆโตว เปเสตพฺพาฯ อตฺตนา สเจ อญฺญสฺมิํ คาเม สกฺกา โหติ ภิกฺขา ลภิตุํ, อญฺโญ คาโม คนฺตพฺโพฯ น สกฺกา เจ โหติ ลภิตุํ, โสเยว คาโม ปิณฺฑาย ปวิสิตพฺโพฯ
นิมนฺติตภิกฺขู อาสนสาลาย นิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺร เจ มนุสฺสา ‘‘ปตฺเต เทถา’’ติ อาคจฺฉนฺติ, อนิมนฺติเตหิ น ทาตพฺพา, ‘‘เอเต นิมนฺติตา ภิกฺขู’’ติ วตฺตพฺพํ, ‘‘ตุมฺเหปิ เทถา’’ติ วุตฺเต ปน ทาตุํ วฏฺฏติฯ อุสฺสวาทีสุ มนุสฺสา สยเมว ปริเวณานิ จ ปธานฆรานิ จ คนฺตฺวา ติปิฏเก จ ธมฺมกถิเก จ ภิกฺขุสเตนปิ สทฺธิํ นิมนฺเตนฺติ, ตทา เตหิ เย ชานนฺติ, เต คเหตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติฯ กสฺมา? น หิ มหาภิกฺขุสงฺเฆน อตฺถิกา มนุสฺสา ปริเวณปธานฆรานิ คจฺฉนฺติ, สนฺนิปาตฏฺฐานโตว ยถาสตฺติ ยถาพลํ ภิกฺขู คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺตีติฯ
สเจ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺฐ มหาเถเร เทถาติ วุตฺเต อฏฺฐ มหาเถราว ทาตพฺพา’’ติ วุตฺตํฯ เอส นโย มชฺฌิมาทีสุฯ สเจ ปน อวิเสเสตฺวา ‘‘อฏฺฐ ภิกฺขู เทถา’’ติ วทติ, สงฺฆโต ทาตพฺพาติฯ
นิมนฺตนภตฺตกถา นิฏฺฐิตาฯ
๒๑๑. สลากภตฺตํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากาย วา ปฏฺฏิกาย วา อุปนิพนฺธิตฺวา โอปุญฺชิตฺวา ภตฺตํ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๖) วจนโต รุกฺขสารมยาย สลากาย วา เวฬุวิลีวตาลปณฺณาทิมยาย ปฏฺฏิกาย วา ‘‘อสุกสฺส นาม สลากภตฺต’’นฺติ เอวํ อกฺขรานิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา กตฺวา สพฺพสลากาโย โอปุญฺชิตฺวา ปุนปฺปุนํ เหฏฺฐุปริยวเสน อาโลเฬตฺวา ปญฺจงฺคสมนฺนาคเตน ภตฺตุทฺเทสเกน สเจ ฐิติกา อตฺถิ, ฐิติกโต ปฏฺฐาย, โน เจ อตฺถิ, เถราสนโต ปฏฺฐาย สลากา ทาตพฺพาฯ ปจฺฉา อาคตานมฺปิ เอกาพทฺธวเสน ทูเร ฐิตานมฺปิ อุทฺเทสภตฺเต วุตฺตนเยเนว ทาตพฺพาฯ
สเจ วิหารสฺส สมนฺตโต พหู โคจรคามา, ภิกฺขู ปน น พหู, คามวเสนปิ สลากา ปาปุณนฺติฯ ‘‘ตุมฺหากํ อสุกคาเม สลากภตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ คามวเสเนว คาเหตพฺพํฯ เอวํ คาเหนฺเตน สเจปิ เอกเมกสฺมิํ คาเม นานปฺปการานิ สฏฺฐิ สลากภตฺตานิ, สพฺพานิ คหิตาเนว โหนฺติฯ ตสฺส ปตฺตคามสมีเป อญฺญานิปิ ทฺเว ตีณิ สลากภตฺตานิ
สเจ เอกจฺเจสุ คาเมสุ พหูนิ สลากภตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา สตฺตนฺนมฺปิ อฏฺฐนฺนมฺปิ ภิกฺขูนํ ทาตพฺพานิฯ เทนฺเตน ปน จตุนฺนํ ปญฺจนฺนํ ภตฺตานํ สลากาโย เอกโต พนฺธิตฺวา ทาตพฺพาฯ สเจ ตํ คามํ อติกฺกมิตฺวา อญฺโญ คาโม โหติ, ตสฺมิญฺจ เอกเมว สลากภตฺตํ, ตํ ปน ปาโตว เทนฺติ, ตมฺปิ เอเตสุ ภิกฺขูสุ เอกสฺส นิคฺคเหน ทตฺวา ‘‘ปาโตว ตํ คเหตฺวา ปจฺฉา กุรุนฺทิยํ วุตฺโตฯ สเจ ปน ภิกฺขู พหู โหนฺติ, คามวเสน สลากา น ปาปุณนฺติ, วีถิวเสน วา วีถิยํ เอกเคหวเสน วา เอกกุลวเสน วา คาเหตพฺพํฯ วีถิอาทีสุ จ ยตฺถ พหูนิ ภตฺตานิ, ตตฺถ คาเม วุตฺตนเยเนว พหูนํ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพานิ, สลากาสุ อสติ อุทฺทิสิตฺวาปิ คาเหตพฺพานิฯ
๒๑๒. สลากทายเกน ปน วตฺตํ ชานิตพฺพํฯ เตน หิ กาลสฺเสว วุฏฺฐาย ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา โภชนสาลํ คนฺตฺวา อสมฺมฏฺฐฏฺฐานํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ‘‘อิทานิ ภิกฺขูหิ วตฺตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา ภิกฺขูสุ สนฺนิปติเตสุ ปฐมเมว วารคาเม สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ, ‘‘ตุยฺหํ อสุกสฺมิํ นาม วารคาเม สลากา ปาปุณาติ, ตตฺร คจฺฉา’’ติ วตฺตพฺพํฯ สเจ อภิเรกคาวุเต คาโม โหติ, ตํ ทิวสํ คจฺฉนฺตา กิลมนฺติ, ‘‘สฺเว ตุยฺหํ วารคาเม ปาปุณาตี’’ติ อชฺเชว คาเหตพฺพํฯ โย วารคามํ เปสิยมาโน น คจฺฉติ, อญฺญํ สลากํ มคฺคติ, น ทาตพฺพาฯ สทฺธานญฺหิ มนุสฺสานํ ปุญฺญหานิ จ สงฺฆสฺส จ ลาภจฺเฉโท โหติ, ตสฺมา ตสฺส ทุติเยปิ ตติเยปิ ทิวเส อญฺญา สลากา น ทาตพฺพา, ‘‘อตฺตโน ปตฺตฏฺฐานํ คนฺตฺวา ภุญฺชาหี’’ติ วตฺตพฺโพ, ตีณิ ปน ทิวสานิ อคจฺฉนฺตสฺส วารคามโต โอริมวารคาเม สลากา คาเหตพฺพาฯ ตญฺเจ น คณฺหาติ, ตโต ปฏฺฐาย ตสฺส อญฺญํ สลากํ ทาตุํ น วฏฺฏติ, ทณฺฑกมฺมํ ทฬฺหํ กาตพฺพํ
สเจ วิหารวาริกานํ สภาคา อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ, วารํ คเหตฺวา เตสํ ยาคุภตฺตํ อาหราเปตพฺพํ, ตาว เนสํ สลากา ผาติกมฺมเมว ภวนฺติฯ วสฺสคฺเคน ปตฺตฏฺฐาเน ปน อญฺญมฺปิ ปณีตภตฺตสลากํ คณฺหิตุํ ลภนฺติเยวฯ อติเรกอุตฺตริภงฺคสฺส เอกจาริกภตฺตสฺส วิสุํ ฐิติกํ กตฺวา สลากา ทาตพฺพาฯ สเจ เยน สลากา ลทฺธา, โส ตํ ทิวสํ ตํ ภตฺตํ น ลภติ, ปุน ทิวเส คาเหตพฺพํฯ ภตฺตญฺเญว ลภติ, น อุตฺตริภงฺคํ, เอวมฺปิ
สเจ ขุทฺทโก วิหาโร โหติ, สพฺเพ ภิกฺขู เอกสมฺโภคา, อุจฺฉุสลากํ คาเหนฺเตน ยสฺส กสฺสจิ สมฺมุขีภูตสฺส ปาเปตฺวา มหาเถราทีนํ ทิวา ตจฺเฉตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติฯ รสสลากํ ปาเปตฺวา ปจฺฉาภตฺตมฺปิ ปริสฺสาเวตฺวา ผาณิตํ วา กาเรตฺวา ปิณฺฑปาติกาทีนมฺปิ ทาตพฺพํ, อาคนฺตุกานํ อาคตานาคตภาวํ ญตฺวา คาเหตพฺพาฯ มหาอาวาเส ฐิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพาฯ ตกฺกสลากมฺปิ สภาคฏฺฐาเน ปาเปตฺวา วา ธูมาเปตฺวา ปจาเปตฺวา วา เถรานํ ทาตุํ วฏฺฏติฯ มหาอาวาเส วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํฯ ผลสลากปูวสลากเภสชฺชคนฺธมาลาสลากาโยปิ วิสุํ ฐิติกาย คาเหตพฺพาฯ เภสชฺชาทิสลากาโย เจตฺถ กิญฺจาปิ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏนฺติ, สลากวเสน ปน คาหิตตฺตา น สาทิตพฺพาฯ อคฺคภิกฺขามตฺตํ สลากภตฺตํ เทนฺติ, ฐิติกํ
โย สลากาสุ คหิตาสุ ปจฺฉา อาคจฺฉติ, ตสฺส อติกฺกนฺตาว สลากา น อุปฏฺฐาเปตฺวา ทาตพฺพาฯ สลากํ นาม ฆณฺฏิํ ปหรณโต ปฏฺฐาย อาคนฺตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺโตว ลภติ, อญฺญสฺส อาคนฺตฺวา สมีเป ฐิตสฺสปิ อติกฺกนฺตา อติกฺกนฺตาว โหติฯ สเจ ปนสฺส อญฺโญ คณฺหนฺโต อตฺถิ, สยํ อนาคโตปิ ลภติ, สภาคฏฺฐาเน ‘‘อสุโก อนาคโต’’ติ ญตฺวา ‘‘อยํ ตสฺส สลากา’’ติ ฐเปตุํ วฏฺฏติฯ สเจ ‘‘อนาคตสฺส น ทาตพฺพา’’ติ กติกํ กโรนฺติ, อธมฺมิกา โหติฯ อนฺโตอุปจาเร ฐิตสฺส หิ ภาชนียภณฺฑํ ปาปุณาติฯ สเจ ปน ‘‘อนาคตสฺส เทถา’’ติ มหาสทฺทํ กโรนฺติ, ทณฺฑกมฺมํ ฐเปตพฺพํ, ‘‘อาคนฺตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ วตฺตพฺพํฯ ฉ ปญฺจสลากา นฏฺฐา โหนฺติ, ภตฺตุทฺเทสโก ทายกานํ นามํ น สรติ, โส เจ นฏฺฐสลากา มหาเถรสฺส วา อตฺตโน วา ปาเปตฺวา ภิกฺขู วเทยฺย ‘‘มยา อสุกคาเม
คมิโก ภิกฺขุ ยํ ทิสาภาคํ คนฺตุกาโม, ตตฺถ อญฺเญน วารคามสลากา ลทฺธา โหติ, ตํ คเหตฺวา อิตรํ ภิกฺขุํ ‘‘มยฺหํ ปตฺตสลากํ ตฺวํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏติฯ เตน ปน อุปจารสีมํ อนติกฺกนฺเตเยว ตสฺมิํ ตสฺส สลากา คาเหตพฺพาฯ ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา มนุสฺสา ‘‘โพธิเจติยาทีนิ ชคฺคิตฺวา ภุญฺชนฺตู’’ติ สลากภตฺตํ ปฏฺฐเปนฺติ, ภิกฺขู สภาคฏฺฐาเนสุ วสิตฺวา กาลสฺเสว คนฺตฺวา ตตฺถ วตฺตํ กริตฺวา ตํ ภตฺตํ ภุญฺชนฺติ, วฏฺฏติฯ สเจ เตสุ สฺวาตนาย อตฺตโน ปาเปตฺวา คเตสุ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ ฉฑฺฑิตวิหาเร วสิตฺวา กาลสฺเสว วตฺตํ กตฺวา ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา สลากภตฺตํ อตฺตโน ปาเปตฺวา อาสนสาลํ คจฺฉติ, โสว ตสฺส ภตฺตสฺส อิสฺสโรฯ โย ปน ภิกฺขูสุ วตฺตํ กโรนฺเตสุเยว ภูมิยํ ทฺเว ตโย สมฺมุญฺชนีปหาเร ทตฺวา ฆณฺฏิํ ปหริตฺวา ‘‘ธุรคาเม สลากภตฺตํ มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คจฺฉติ, ตสฺส ตํ โจริกาย คหิตตฺตา น ปาปุณาติ, วตฺตํ กตฺวา ปาเปตฺวา ปจฺฉาคตภิกฺขูนํเยว โหติฯ
เอโก คาโม อติทูเร โหติ, ภิกฺขู นิจฺจํ คนฺตุํ น อิจฺฉนฺติ, มนุสฺสา ‘‘มยํ ปุญฺเญน ปริพาหิรา โหมา’’ติ วทนฺติ, เย ตสฺส คามสฺส อาสนฺนวิหาเร สภาคภิกฺขู, เต วตฺตพฺพา ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ อนาคตทิวเส ตุมฺเห ภุญฺชถา’’ติ, สลากา ปน เทวสิกํ ปาเปตพฺพาฯ ตา จ โข ปน ฆณฺฏิปหรณมตฺเตน วา ปจฺฉิจาลนมตฺเตน วา ปาปิตา น โหนฺติ, ปจฺฉิํ ปน คเหตฺวา สลากา ปีฐเก อากิริตพฺพา, ปจฺฉิ ปน มุขวฏฺฏิยํ น คเหตพฺพาฯ สเจ หิ ตตฺถ อหิ วา วิจฺฉิโก วา ภเวยฺย, ทุกฺขํ อุปฺปาเทยฺย, ตสฺมา เหฏฺฐา คเหตฺวา ปจฺฉิํ ปรมฺมุขํ กตฺวา สลากา อากิริตพฺพา ‘‘สเจปิ สปฺโป ภวิสฺสติ, เอตฺโตว ปลายิสฺสตี’’ติฯ เอวํ สลากา อากิริตฺวา คามาทิวเสน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว คาเหตพฺพาฯ
อปิจ
สลากภตฺตกถา นิฏฺฐิตาฯ
๒๑๓. ปกฺขิกาทีสุ ปน ยํ อภิลกฺขิเตสุ จาตุทฺทสี ปญฺจทสี ปญฺจมี อฏฺฐมีติ อิเมสุ ปกฺเขสุ กมฺมปฺปสุเตหิ อุโปสถํ กาตุํ สติกรณตฺถาย ทียติ, ตํ ปกฺขิกํ นามฯ ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ สลากภตฺตมฺปิ ปกฺขิกภตฺตมฺปิ พหุํ สพฺเพสํ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉติ, ทฺเวปิ ภตฺตานิ วิสุํ วิสุํ คาเหตพฺพานิฯ สเจ ภิกฺขุสงฺโฆ มหา, ปกฺขิกํ คาเหตฺวา ตสฺส ฐิติกาย สลากภตฺตํ คาเหตพฺพํ, สลากภตฺตํ วา คาหาเปตฺวา ตสฺส ฐิติกาย ปกฺขิกํ คาเหตพฺพํฯ เยสํ น ปาปุณาติ, เต ปิณฺฑาย จริสฺสนฺติฯ สเจ ทฺเวปิ ภตฺตานิ พหูนิ, ภิกฺขู มนฺทา, สลากภตฺตํ นาม เทวสิกํ ลพฺภติ, ตสฺมา ตํ ฐเปตฺวา ‘‘ปกฺขิกํ, อาวุโส, ภุญฺชถา’’ติ ปกฺขิกเมว ทาตพฺพํฯ ปกฺขิกํ ปณีตํ เทนฺติ, วิสุํ ฐิติกา กาตพฺพา, ‘‘สฺเว ปกฺโข’’ติ อชฺช ปกฺขิกํ น คาเหตพฺพํฯ สเจ ปน ทายกา วทนฺติ ‘‘สฺเวปิ อมฺหากํ ฆเร ลูขภตฺตํ ภวิสฺสติ, อชฺเชว ปกฺขิกภตฺตํ อุทฺทิสถา’’ติ, เอวํ วฏฺฏติฯ
อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ นาม ‘‘อุโปสเถ พหู สทฺธา ปสนฺนา ภิกฺขูนํ สกฺการํ กโรนฺติ, ปาฏิปเท ปน ภิกฺขู กิลมนฺติ, ปาฏิปเท ทินฺนํ ทุพฺภิกฺขทานสทิสํ มหปฺผลํ โหติ, อุโปสถกมฺเมน วา ปริสุทฺธสีลานํ ทุติยทิวเส ทินฺนํ มหปฺผลํ โหตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปาฏิปเท
๒๑๔. อปรานิปิ จีวรกฺขนฺธเก (มหาว. ๓๕๐) วิสาขาย วรํ ยาจิตฺวา ทินฺนานิ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺฐากภตฺตนฺติ จตฺตาริ ภตฺตานิ ปาฬิยํ อาคตาเนวฯ ตตฺถ อาคนฺตุกานํ ทินฺนํ ภตฺตํ อาคนฺตุกภตฺตํฯ เอส นโย เสเสสุฯ สเจ ปเนตฺถ อาคนฺตุกภตฺตานิปิ อาคนฺตุกาปิ พหู โหนฺติ, สพฺเพสํ เอเกกํ คาเหตพฺพํฯ ภตฺเตสุ อปฺปโหนฺเตสุ ฐิติกาย คาเหตพฺพํฯ เอโก อาคนฺตุโก ปฐมเมว อาคนฺตฺวา สพฺพํ อาคนฺตุกภตฺตํ อตฺตโน คาเหตฺวา นิสีทติ, สพฺพํ ตสฺเสว โหติฯ ปจฺฉา อาคเตหิ อาคนฺตุเกหิ เตน ทินฺนานิ ปริภุญฺชิตพฺพานิฯ เตนปิ เอกํ อตฺตโน คเหตฺวา เสสานิ ทาตพฺพานิฯ อยํ อุฬารตาฯ สเจ ปน ปฐมํ อาคนฺตฺวาปิ อตฺตโน อคฺคเหตฺวา ตุณฺหีภูโต นิสีทติ, ปจฺฉา อาคเตหิ สทฺธิํ ปฏิปาฏิยา คณฺหิตพฺพํฯ สเจ นิจฺจํ อาคนฺตุกา อาคจฺฉนฺติ, อาคตทิวเสเยว ภุญฺชิตพฺพํฯ อนฺตรนฺตรา เจ อาคจฺฉนฺติ, ทฺเว ตีณิ ทิวสานิ ภุญฺชิตพฺพํฯ มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สตฺต ทิวสานิ ภุญฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํฯ อาวาสิโก กตฺถจิ คนฺตฺวา อาคโต, เตนปิ อาคนฺตุกภตฺตํ ภุญฺชิตพฺพํฯ สเจ ปน ตํ วิหาเร นิพนฺธาปิตํ โหติ, วิหาเร คาเหตพฺพํฯ อถ วิหาโร ทูเร โหติ, อาสนสาลาย นิพนฺธาปิตํ, อาสนสาลาย คาเหตพฺพํฯ สเจ ปน ทายกา ‘‘อาคนฺตุเกสุ อสติ อาวาสิกาปิ ภุญฺชนฺตู’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ, อวุตฺเต ปน น วฏฺฏติฯ
คมิกภตฺเตปิ อยเมว กถามคฺโคฯ อยํ ปน วิเสโส – อาคนฺตุโก อาคนฺตุกภตฺตเมว ลภติ, คมิโก อาคนฺตุกภตฺตมฺปิ คมิกภตฺตมฺปิฯ อาวาสิโกปิ ปกฺกมิตุกาโม คมิโก โหติ, คมิกภตฺตํ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ ‘‘คมิสฺสามิ คมิสฺสามี’’ติ ปน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา ภุญฺชิตุํ น ลภติฯ
คิลานภตฺตมฺปิ สเจ สพฺเพสํ คิลานานํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํฯ โน เจ, ฐิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํฯ เอโก คิลาโน อโรครูโป สกฺโกติ อนฺโตคามํ คนฺตุํ, เอโก น สกฺโกติ, อยํ มหาคิลาโน นาม, เอตสฺส คิลานภตฺตํ ทาตพฺพํฯ ทฺเว มหาคิลานา, เอโก ลาภี อภิญฺญาโต
คิลานุปฏฺฐากภตฺตมฺปิ ยํ สพฺเพสํ ปโหติ, ตํ สพฺเพสํ ทาตพฺพํฯ โน เจ ปโหติ, ฐิติกํ กตฺวา คาเหตพฺพํฯ อิทมฺปิ ทฺวีสุ คิลาเนสุ มหาคิลานุปฏฺฐากสฺส คาเหตพฺพํ, ทฺวีสุ มหาคิลาเนสุ อนาถคิลานุปฏฺฐากสฺสฯ ยํ กุลํ คิลานภตฺตมฺปิ เทติ คิลานุปฏฺฐากภตฺตมฺปิ, ตตฺถ ยสฺส คิลานสฺส คิลานภตฺตํ ปาปุณาติ, ตทุปฏฺฐากสฺสปิ ตตฺเถว คาเหตพฺพํฯ คิลานุปฏฺฐากภตฺเตปิ ทิวสปริจฺเฉโท นตฺถิ, ยาว คิลาโน ลภติ, ตาวสฺส อุปฏฺฐาโกปิ ลภตีติฯ อิมานิ จตฺตาริ ภตฺตานิ สเจ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ ‘‘อาคนฺตุกคมิกคิลานคิลานุปฏฺฐากา มม ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติฯ สเจ ปน ‘‘อาคนฺตุกาทีนํ จตุนฺนํ ภตฺตํ นิพนฺธาเปมิ, มม ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ ทินฺนานิ โหนฺติ, ปิณฺฑปาติกานํ น วฏฺฏติฯ
๒๑๕. อปรานิปิ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารกภตฺตนฺติ ตีณิ ภตฺตานิฯ ตตฺถ ธุรภตฺตนฺติ นิจฺจภตฺตํ วุจฺจติ, ตํ ทุวิธํ สงฺฆิกญฺจ ปุคฺคลิกญฺจฯ ตตฺถ ยํ ‘‘สงฺฆสฺส ธุรภตฺตํ เทมา’’ติ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกํฯ ‘‘มม
กุฏิภตฺตํ นาม ยํ สงฺฆสฺส อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภตฺตํ คณฺหนฺตู’’ติ เอวํ นิพนฺธาปิตํ, ตํ สลากภตฺตคติกเมว โหติ, คาเหตฺวา ภุญฺชิตพฺพํฯ ‘‘อมฺหากํ เสนาสนวาสิโน อมฺหากํเยว ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺเต ปน ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติฯ ยํ ปน ปุคฺคเล ปสีทิตฺวา ตสฺส อาวาสํ กตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เทมา’’ติ ทินฺนํ, ตํ ตสฺเสว โหติ, ตสฺมิํ กตฺถจิ คเต นิสฺสิตเกหิ ภุญฺชิตพฺพํฯ
วารกภตฺตํ นาม ทุพฺภิกฺขสมเย ‘‘วาเรน ภิกฺขู ชคฺคิสฺสามา’’ติ ธุรเคหโต ปฏฺฐาย ทินฺนํ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติ, ‘‘วารกภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ปน สลากภตฺตคติกํ โหติฯ สเจ ตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ ‘‘สามเณรา ปจิตฺวา เทนฺตู’’ติ, ปิณฺฑปาติกานํ
๒๑๖. อฏฺฐกถายํ ปน วิหารภตฺตํ อฏฺฐกภตฺตํ จตุกฺกภตฺตํ คุฬฺหกภตฺตนฺติ อญฺญานิปิ จตฺตาริ ภตฺตานิ วุตฺตานิฯ ตตฺถ วิหารภตฺตํ นาม วิหาเร ตตฺรุปฺปาทภตฺตํ, ตํ สงฺฆภตฺเตน สงฺคหิตํฯ ตํ ปน ติสฺสมหาวิหารจิตฺตลปพฺพตาทีสุ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตหิ ขีณาสเวหิ ยถา ปิณฺฑปาติกานมฺปิ สกฺกา โหนฺติ ปริภุญฺชิตุํ, ตถา ปฏิคฺคหิตตฺตา ตาทิเสสุ ฐาเนสุ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติฯ ‘‘อฏฺฐนฺนํ ภิกฺขูนํ เทม, จตุนฺนํ เทมา’’ติ เอวํ ทินฺนํ ปน อฏฺฐกภตฺตญฺเจว จตุกฺกภตฺตญฺจ, ตมฺปิ ภิกฺขาวจเนน ทินฺนํ ปิณฺฑปาติกานํ วฏฺฏติฯ มหาภิสงฺขาเรน อติรสกปูเวน ปตฺตํ ถเกตฺวา ทินฺนํ คุฬฺหกภตฺตํ นามฯ อิมานิ ตีณิ สลากภตฺตคติกาเนวฯ อปรมฺปิ คุฬฺหกภตฺตํ นาม อตฺถิ, อิเธกจฺเจ มนุสฺสา มหาธมฺมสฺสวนญฺจ วิหารปูชญฺจ กาเรตฺวา ‘‘สกลสงฺฆสฺส ทาตุํ น สกฺโกม, ทฺเว ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ ภิกฺขุปริจฺเฉทชานนตฺถํ คุฬฺหเก เทนฺติ, อิทํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ วฏฺฏติฯ
ปิณฺฑปาตภาชนียํ นิฏฺฐิตํฯ
๒๑๗. คิลานปจฺจยภาชนียํ
ยสฺมิํ
๒๑๘. อิทานิ เสนาสนคฺคาเห วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๑๘) – อยํ เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จฯ ตตฺถ อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปฐมยามํ มชฺฌิมยามํ ปจฺฉิมยามํ วาฯ เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺฐาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ, อกาโล นาม นตฺถิฯ เสนาสนปญฺญาปเกน ปน ปณฺฑิเตน ภวิตพฺพํ, เอกํ วา ทฺเว วา มญฺจฏฺฐานานิ ฐเปตพฺพานิฯ สเจ วิกาเล เอโก วา ทฺเว วา เถรา อาคจฺฉนฺติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘ภนฺเต, อาทิโต ปฏฺฐาย วุฏฺฐาปิยมาเน สพฺเพปิ ภิกฺขู อุพฺภณฺฑิกา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห อมฺหากํ วสนฏฺฐาเน วสถา’’ติฯ
พหูสุ ปน อาคเตสุ วุฏฺฐาเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ทาตพฺพํฯ สเจ เอเกกํ ปริเวณํ ปโหติ, เอเกกํ ปริเวณํ ทาตพฺพํฯ ตตฺถ อคฺคิสาลาทีฆสาลามณฺฑลมาฬาทโย สพฺเพปิ ตสฺเสว ปาปุณนฺติฯ เอวํ อปฺปโหนฺเต ปาสาทคฺเคน ทาตพฺพํ, ปาสาเทสุ อปฺปโหนฺเตสุ โอวรกคฺเคน ทาตพฺพํ, โอวรเกสุ อปฺปโหนฺเตสุ เสยฺยคฺเคน ทาตพฺพํ, เสยฺยคฺเคสุ อปฺปโหนฺเตสุ มญฺจฏฺฐาเนน ทาตพฺพํ, มญฺจฏฺฐาเน อปฺปโหนฺเต เอกปีฐกฏฺฐานวเสน ทาตพฺพํ, ภิกฺขุโน ปน ฐิโตกาสมตฺตํ น คาเหตพฺพํฯ เอตญฺหิ เสนาสนํ นาม น โหติฯ ปีฐกฏฺฐาเน ปน อปฺปโหนฺเต เอกํ มญฺจฏฺฐานํ วา เอกํ ปีฐฏฺฐานํ วา ‘‘วาเรน วาเรน, ภนฺเต, วิสฺสมถา’’ติ ติณฺณํ ชนานํ ทาตพฺพํฯ น หิ สกฺกา
๒๑๙. วสฺสาวาเส ปน อตฺถิ อาคนฺตุกวตฺตํ, อตฺถิ อาวาสิกวตฺตํฯ อาคนฺตุเกน ตาว สกฏฺฐานํ มุญฺจิตฺวา อญฺญตฺถ คนฺตฺวา วสิตุกาเมน วสฺสูปนายิกทิวสเมว ตตฺถ น คนฺตพฺพํฯ วสนฏฺฐานํ วา หิ ตตฺร สมฺพาธํ ภเวยฺย, ภิกฺขาจาโร วา น สมฺปชฺเชยฺย, เตน น ผาสุกํ วิหเรยฺย, ตสฺมา ‘‘อิทานิ มาสมตฺเตน วสฺสูปนายิกา ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปวิสิตพฺพํฯ ตตฺถ มาสมตฺตํ วสนฺโต สเจ อุทฺเทสตฺถิโก, อุทฺเทสสมฺปตฺติํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ กมฺมฏฺฐานิโก, กมฺมฏฺฐานสปฺปายตํ สลฺลกฺเขตฺวา, สเจ ปจฺจยตฺถิโก, ปจฺจยลาภํ สลฺลกฺเขตฺวา อนฺโตวสฺเส สุขํ วสิสฺสติฯ สกฏฺฐานโต จ ตตฺถ คจฺฉนฺเตน น โคจรคาโม ฆฏฺเฏตพฺโพฯ น ตตฺถ มนุสฺสา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห นิสฺสาย สลากภตฺตาทีนิ วา ยาคุขชฺชกาทีนิ วา วสฺสาวาสิกํ วา นตฺถิ, อยํ เจติยสฺส ปริกฺขาโร, อยํ อุโปสถาคารสฺส, อิทํ ตาฬญฺเจว สูจิ จ, สมฺปฏิจฺฉถ ตุมฺหากํ วิหาร’’นฺติฯ เสนาสนํ ปน ชคฺคิตฺวา ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมตฺวา คมิกวตฺตํ ปูเรตฺวา คนฺตพฺพํฯ
เอวํ คจฺฉนฺเตนปิ ทหเรหิ ปตฺตจีวรภณฺฑิกาโย อุกฺขิปาเปตฺวา เตลนาฬิกตฺตรทณฺฑาทีนิ คาเหตฺวา ฉตฺตํ ปคฺคยฺห อตฺตานํ ทสฺเสนฺเตน คามทฺวาเรเนว น คนฺตพฺพํ, ปฏิจฺฉนฺเนน อฏวิมคฺเคน คนฺตพฺพํฯ อฏวิมคฺเค อสติ คุมฺพาทีนิ มทฺทนฺเตน น คนฺตพฺพํ, คมิกวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา วิตกฺกํ ฉินฺทิตฺวา สุทฺธจิตฺเตน คมนวตฺเตเนว คนฺตพฺพํฯ สเจ ปน คามทฺวาเรน มคฺโค โหติ, คจฺฉนฺตญฺจ นํ สปริวารํ ทิสฺวา มนุสฺสา ‘‘อมฺหากํ เถโร วิยา’’ติ อุปธาวิตฺวา ‘‘กุหิํ, ภนฺเต, สพฺพปริกฺขาเร คเหตฺวา คจฺฉถา’’ติ วทนฺติ, เตสุ เจ เอโก เอวํ วทติ ‘‘วสฺสูปนายิกกาโล นามายํ, ยตฺถ อนฺโตวสฺเสนิพทฺธภิกฺขาจาโร ภณฺฑปฏิจฺฉาทนญฺจ ลพฺภติ, ตตฺถ ภิกฺขู คจฺฉนฺตี’’ติ, ตสฺส กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘กุหิํ คจฺฉถาติ วุตฺเต ‘อสุกฏฺฐาน’นฺติ วตฺวา ‘กสฺมา ตตฺถ คจฺฉถา’ติ วุตฺเต ‘การณํ อาจิกฺขิตพฺพ’’’นฺติ วุตฺตํฯ อุภยมฺปิ ปเนตํ สุทฺธจิตฺตตฺตาว อนวชฺชํฯ อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นามฯ
อิทํ ปน อาวาสิกวตฺตํฯ ปฏิกจฺเจว หิ อาวาสิเกหิ วิหาโร ชคฺคิตพฺโพ, ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณปริภณฺฑานิ กาตพฺพานิ, รตฺติฏฺฐานทิวาฏฺฐานวจฺจกุฏิปสฺสาวฏฺฐานานิ ปธานฆรวิหารมคฺโคติ อิมานิ สพฺพานิ ปฏิชคฺคิตพฺพานิฯ เจติเย สุธากมฺมํ มุณฺฑเวทิกาย เตลมกฺขนํ มญฺจปีฐชคฺคนนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ กาตพฺพํ ‘‘วสฺสํ วสิตุกามา อาคนฺตฺวา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺฐานานุโยคาทีนิ กโรนฺตา สุขํ วสิสฺสนฺตี’’ติฯ กตปริกมฺเมหิ อาสาฬฺหีชุณฺหปญฺจมิโต ปฏฺฐาย วสฺสาวาสิกํ ปุจฺฉิตพฺพํฯ กตฺถ ปุจฺฉิตพฺพํ? ยโต ปกติยา ลพฺภติฯ เยหิ ปน น ทินฺนปุพฺพํ, เต ปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏติฯ กสฺมา ปุจฺฉิตพฺพํ? กทาจิ หิ มนุสฺสา เทนฺติ, กทาจิ ทุพฺภิกฺขาทีหิ อุปทฺทุตา น เทนฺติ, ตตฺถ เย น ทสฺสนฺติ, เต อปุจฺฉิตฺวา วสฺสาวาสิเก คาหิเต คาหิตภิกฺขูนํ ลาภนฺตราโย โหติ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวาว คาเหตพฺพํฯ
ปุจฺฉนฺเตน ‘‘ตุมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ คาหณกาโล อุปกฏฺโฐ’’ติ วตฺตพฺพํฯ สเจ วทนฺติ ‘‘ภนฺเต, อิมํ สํวจฺฉรํ ฉาตกาทีหิ อุปทฺทุตมฺห, น สกฺโกม ทาตุ’’นฺติ วา ‘‘ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต อูนตรํ ทสฺสามา’’ติ วา ‘‘อิทานิ กปฺปาโส สุลโภ, ยํ ปุพฺเพ เทม, ตโต พหุตรํ ทสฺสามา’’ติ วา, ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตทนุรูเปน นเยน เตสํ เสนาสเน ภิกฺขูนํ วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํฯ สเจ มนุสฺสา วทนฺติ ‘‘ยสฺส อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เตมาสํ ปานียํ อุปฏฺฐาเปตุ, วิหารมคฺคํ ชคฺคตุ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณานิ ชคฺคตุ, โพธิรุกฺเข อุทกํ อาสิญฺจตู’’ติ, ยสฺส ตํ ปาปุณาติ, ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํฯ โย ปน คาโม ปฏิกฺกมฺม โยชนทฺวิโยชนนฺตเร โหติ, ตตฺร เจ กุลานิ อุปนิกฺเขปํ
ตตฺรุปฺปาเท ปน กปฺปิยการกา ปุจฺฉิตพฺพาฯ กถํ ปุจฺฉิตพฺพา? กิํ, อาวุโส, สงฺฆสฺส ภณฺฑปฏิจฺฉาทนํ ภวิสฺสตีติ? สเจ วทนฺติ ‘‘ภวิสฺสติ, ภนฺเต, เอเกกสฺส นวหตฺถสาฏกํ ทสฺสาม, วสฺสาวาสิกํ คาเหถา’’ติ, คาเหตพฺพํฯ สเจปิ วทนฺติ ‘‘สาฏกา นตฺถิ, วตฺถุ ปน อตฺถิ, คาเหถ, ภนฺเต’’ติ, วตฺถุมฺหิ สนฺเตปิ คาเหตุํ วฏฺฏติเยวฯ กปฺปิยการกานญฺหิ หตฺเถ ‘‘กปฺปิยภณฺฑํ ปริภุญฺชถา’’ติ ทินฺนวตฺถุโต ยํ ยํ กปฺปิยํ, สพฺพํ ปริภุญฺชิตุํ อนุญฺญาตํฯ ยํ ปเนตฺถ ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย จ อุทฺทิสฺส ทินฺนํ, ตํ จีวเร อุปนาเมนฺเตหิ สงฺฆสุฏฺฐุตาย อปโลเกตฺวา อุปนาเมตพฺพํ, เสนาสนตฺถาย ปน อุทฺทิสฺส ทินฺนํ ครุภณฺฑํ โหติฯ จีวรวเสเนว ปน จตุปจฺจยวเสน วา ทินฺนํ จีวเร อุปนาเมนฺตานํ อปโลกนกมฺมกิจฺจํ นตฺถิฯ อปโลกนกมฺมํ กโรนฺเตหิ จ ปุคฺคลวเสเนว กาตพฺพํ, สงฺฆวเสน น กาตพฺพํฯ ชาตรูปรชตวเสนปิ อามกธญฺญวเสน วา อปโลกนกมฺมํ น วฏฺฏติ, กปฺปิยภณฺฑวเสน จีวรตณฺฑุลาทิวเสเนว จ วฏฺฏติฯ ตํ ปน เอวํ กตฺตพฺพํ ‘‘อิทานิ สุภิกฺขํ สุลภปิณฺฑํ, ภิกฺขู จีวเรน กิลมนฺติ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติ, ‘‘คิลานปจฺจโย สุลโภ, คิลาโน วา นตฺถิ, เอตฺตกํ นาม ตณฺฑุลภาคํ ภิกฺขูนํ จีวรํ กาตุํ รุจฺจตี’’ติฯ
เอวํ จีวรปจฺจยํ สลฺลกฺเขตฺวา เสนาสนสฺส กาเล โฆสิเต สนฺนิปติเต สงฺเฆ เสนาสนคฺคาหโก สมฺมนฺนิตพฺโพฯ สมฺมนฺนนฺเตน จ ทฺเว สมฺมนฺนิตพฺพาติ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ นวโก วุฑฺฒสฺส, วุฑฺโฒ จ นวกสฺส คาเหสฺสตีติฯ มหนฺเต ปน มหาวิหารสทิเส วิหาเร ตโย จตฺตาโร ชนา สมฺมนฺนิตพฺพาฯ กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘อฏฺฐปิ โสฬสปิ ชเน สมฺมนฺนิตุํ
๒๒๐. คาเหนฺเตน จ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฐมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ(จูฬว. ๓๑๘) อาทิวจนโต ปฐมํ วิหาเร
‘‘น, ภิกฺขเว, นิสฺสีเม ฐิตสฺส เสนาสนํ คาเหตพฺพํ, โย คาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๘) วจนโต อุปจารสีธโต พหิ ฐิตสฺส น คาเหตพฺพํ, อนฺโตอุปจารสีมาย ปน ทูเร ฐิตสฺสปิ ลพฺภติเยวฯ
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ปติรูปํ เสยฺยํ ทาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๖) วจนโต โย (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๑๖) กาสสาสภคนฺทราติสาราทีหิ คิลาโน โหติ, เขฬมลฺลกวจฺจกปาลาทีนิ ฐเปตพฺพานิ โหนฺติ, กุฏฺฐี วา โหติ, เสนาสนํ ทูเสติ, เอวรูปสฺส เหฏฺฐาปาสาทปณฺณสาลาทีสุ อญฺญตรํ เอกมนฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพํฯ ยสฺมิํ วสนฺเต เสนาสนํ น ทุสฺสติ, ตสฺส วรเสยฺยาปิ ทาตพฺพาวฯ โยปิ สิเนหปานวิเรจนนตฺถุกมฺมาทีสุ ยํ กิญฺจิ
‘‘น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว ปฏิพาเหตพฺพา, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. ๓๑๙) วจนโต เอเกน ทฺเว เสนาสนานิ น คเหตพฺพานิฯ สเจปิ คณฺเหยฺย, ปจฺฉิเมน คหเณน ปุริมคฺคหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ คหเณน หิ คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, คหเณน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน คหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อาลเยน อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ กถํ? อิเธกจฺโจ (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๑๙) วสฺสูปนายิกทิวเส เอกสฺมิํ วิหาเร เสนาสนํ คเหตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺราปิ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณน ปุริมคฺคหณํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ อปโร ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ อาลยมตฺตํ กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ตตฺถ เสนาสนํ คณฺหาติ, ตสฺส อิมินา คหเณเนว ปุริโม อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ เอโก ‘‘อิธ วสิสฺสามี’’ติ เสนาสนํ วา คเหตฺวา อาลยํ วา กตฺวา สามนฺตวิหารํ คนฺตฺวา ‘‘อิเธว ทานิ วสิสฺสามี’’ติ อาลยํ กโรติ, อิจฺจสฺส อาลเยน วา คหณํ, อาลเยน วา อาลโย
เสนาสนคฺคาหเกน จ เสนาสนํ คาเหตฺวา วสฺสาวาสิกํ คาเหตพฺพํฯ คาเหนฺเตน สเจ สงฺฆิโก จ สทฺธาเทยฺโย จาติ ทฺเว จีวรปจฺจยา โหนฺติ, เตสุ ยํ ภิกฺขู ปฐมํ คหิตุํ อิจฺฉนฺติ, ตํ คเหตฺวา ตสฺส ฐิติกโต ปฏฺฐาย อิตโร คาเหตพฺโพฯ ‘‘สเจ ภิกฺขูนํ อปฺปตาย ปริเวณคฺเคน เสนาสเน คาหิยมาเน เอกํ ปริเวณํ มหาลาภํ โหติ, ทส วา ทฺวาทส วา จีวรานิ ลภนฺติ, ตํ วิชเฏตฺวา อญฺเญสุ อลาภเกสุ อาวาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา อญฺเญสมฺปิ ภิกฺขูนํ คาเหตพฺพ’’นฺติ มหาสุมตฺเถโร อาหฯ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘น เอวํ
๒๒๑. สเจ ปเนตฺถ มหาเถโร ปฏิกฺโกสติ ‘‘มา, อาวุโส, เอวํ คาเหถ, ภควโต อนุสิฏฺฐิํ กโรถฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริเวณคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๑๘)ฯ ตสฺส ปฏิกฺโกสนาย อฏฺฐตฺวา ‘‘ภนฺเต, ภิกฺขู พหู, ปจฺจโย มนฺโท, สงฺคหํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ สญฺญาเปตฺวา คาเหตพฺพเมวฯ คาเหนฺเตน จ สมฺมเตน ภิกฺขุนา มหาเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา เอวํ วตฺตพฺพํ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ เสนาสนํ ปาปุณาติ, ปจฺจยํ ธาเรถา’’ติฯ อสุกกุลสฺส ปจฺจโย อสุกเสนาสนญฺจ มยฺหํ ปาปุณาติ, อาวุโสติฯ ปาปุณาติ ภนฺเต, คณฺหถ นนฺติฯ คณฺหามิ, อาวุโสติฯ คหิตํ โหติฯ ‘‘สเจ ปน ‘คหิตํ โว, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘คหิตํ เม’ติ วา, ‘คณฺหิสฺสถ, ภนฺเต’ติ วุตฺเต ‘คณฺหิสฺสามี’ติ วา วทติ, อคฺคหิตํ โหตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาหฯ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห ‘‘อตีตานาคตวจนํ วา โหตุ วตฺตมานวจนํ วา, สตุปฺปาทมตฺตํ อาลยกรณมตฺตเมว เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา คหิตเมว โหตี’’ติฯ
โยปิ ปํสุกูลิโก ภิกฺขุ เสนาสนํ คเหตฺวา ปจฺจยํ วิสฺสชฺเชติ, อยมฺปิ น อญฺญสฺมิํ อาวาเส ปกฺขิปิตพฺโพ, ตสฺมิํเยว ปริเวเณ อคฺคิสาลาย วา ทีฆสาลาย วา รุกฺขมูเล วา อญฺญสฺส คาเหตุํ วฏฺฏติฯ ปํสุกูลิโก ‘‘วสามี’’ติ เสนาสนํ ชคฺคิสฺสติ, อิตโร ‘‘ปจฺจยํ คณฺหามี’’ติ เอวํ ทฺวีหิ การเณหิ เสนาสนํ สุชคฺคิตตรํ ภวิสฺสติฯ มหาปจฺจริยํ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ
เสนาสนคฺคาหเกน ปน ปาฏิปทอรุณโต ปฏฺฐาย ยาว ปุน อรุณํ น ภิชฺชติ, ตาว คาเหตพฺพํฯ อิทญฺหิ เสนาสนคฺคาหสฺส เขตฺตํฯ สเจ ปาโตว คาภิเต เสนาสเน อญฺโญ วิตกฺกจาริโก ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา เสนาสนํ ยาจติ, ‘‘คหิตํ, ภนฺเต, เสนาสนํ, วสฺสูปคโต สงฺโฆ, รมณีโย วิหาโร, รุกฺขมูลาทีสุ ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ วสถา’’ติ วตฺตพฺโพฯ ปจฺฉิมวสฺสูปนายิกทิวเส ปน สเจ กาลํ โฆเสตฺวา สนฺนิปติเต สงฺเฆ โกจิ ทสหตฺถํ วตฺถํ อาหริตฺวา วสฺสาวาสิกํ เทติ, อาคนฺตุโก เจ ภิกฺขุ สงฺฆตฺเถโร โหติ, ตสฺส ทาตพฺพํฯ นวโก เจ โหติ, สมฺมเตน ภิกฺขุนา สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ ‘‘สเจ, ภนฺเต, อิจฺฉถ, ปฐมภาคํ มุญฺจิตฺวา อิทํ วตฺถํ คณฺหถา’’ติ, อมุญฺจนฺตสฺส น ทาตพฺพํฯ สเจ ปน ปุพฺเพ คาหิตํ มุญฺจิตฺวา คณฺหาติ, ทาตพฺพํฯ เอเตเนว อุปาเยน ทุติยตฺเถรโต ปฏฺฐาย ปริวตฺเตตฺวา ปตฺตฏฺฐาเนว อาคนฺตุกสฺส ทาตพฺพํฯ สเจ ปน ปฐมวสฺสูปคตา ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปญฺจ วา วตฺถานิ อลตฺถุํ, ลทฺธํ ลทฺธํ เอเตเนว อุปาเยน วิสฺสชฺชาเปตฺวา ยาว อาคนฺตุกสฺส สมกํ โหติ, ตาว ทาตพฺพํฯ เตน สมเก ลทฺเธ อวสิฏฺโฐ อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพฯ ปจฺจุปฺปนฺเน ลาเภ สติ ฐิติกาย คาเหตุํ กติกํ กาตุํ วฏฺฏติฯ
สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ทฺวีสุปิ วสฺสูปนายิกาสุ วสฺสูปคตา ภิกฺขู ภิกฺขาย กิลมนฺตา ‘‘อาวุโส, อิธ วสนฺตา สพฺเพว กิลมาม, สาธุ วต ทฺเว ภาคา โหม, เยสํ ญาติปวาริตฏฺฐานานิ อตฺถิ, เต ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ วสฺสาวาสิกํ คณฺหนฺตู’’ติ วทนฺติ, เตสุ เย ตตฺถ วสิตฺวา ปวารณาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ อปโลเกตฺวา กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘กติกวตฺตํ กาตพฺพํ ‘สพฺเพสํ โน อิธ ยาคุภตฺตํ
สเจ วุฏฺฐวสฺโส ทิสํคมิโก ภิกฺขุ อาวาสิกสฺส หตฺถโต กิญฺจิเทว กปฺปิยภณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อสุกกุเล มยฺหํ วสฺสาวาสิกํ ปตฺตํ, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา คตฏฺฐาเน วิพฺภมติ, วสฺสาวาสิกํ สงฺฆิกํ โหติฯ สเจ ปน มนุสฺเส สมฺมุขา สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา คจฺฉติ, ลภติฯ ‘‘อิทํ วสฺสาวาสิกํ อมฺหากํ เสนาสเน วุตฺถภิกฺขุโน เทมา’’ติ วุตฺเต ยสฺส คาหิตํ, ตสฺเสว โหติฯ สเจ ปน เสนาสนสามิกสฺส ปิยกมฺยตาย ปุตฺตธีตาทโย พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘อมฺหากํ เสนาสเน เทมา’’ติ เทนฺติ, ตตฺถ วสฺสูปคตสฺส เอกเมว วตฺถํ ทาตพฺพํ, เสสานิ สงฺฆิกานิ โหนฺติฯ วสฺสาวาสิกฐิติกาย คาเหตพฺพานิ, ฐิติกาย อสติ เถราสนโต ปฏฺฐาย คาเหตพฺพานิฯ เสนาสเน วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน จิตฺตปฺปสาเทน พหูนิ วตฺถานิ อาหริตฺวา ‘‘เสนาสนสฺส เทมา’’ติ ทินฺเนสุปิ เอเสว นโยฯ สเจ ปน ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘เอตสฺส ภิกฺขุโน เทมา’’ติ วทนฺติ, ตสฺเสว โหนฺติฯ
เอกสฺส เคเห ทฺเว วสฺสาวาสิกานิ, ปฐมภาโค สามเณรสฺส คาหิโต โหติ, ทุติโย เถราสเนฯ โส เอกํ ทสหตฺถํ, เอกํ อฏฺฐหตฺถํ สาฏกํ เปเสติ ‘‘วสฺสาวาสิกํ ปตฺตภิกฺขูนํ เทถา’’ติ, วิจินิตฺวา วรภาคํ สามเณรสฺส ทตฺวา อนุภาโค เถราสเน ทาตพฺโพ มหาปจฺจริยํ อาคตนโย โหติ – เอกสฺส ฆเร ทหรสามเณรสฺส วสฺสาวาสิกํ ปาปุณาติ, โส เจ ปุจฺฉติ ‘‘อมฺหากํ วสฺสาวาสิกํ กสฺส ปตฺต’’นฺติ, ‘‘สามเณรสฺสา’’ติ อวตฺวา
อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกทิวสวเสน
เสนาสนคฺคาหกถาฯ
๒๒๒. อยมปโรปิ อุตุกาเล อนฺตรามุตฺตโก นาม เสนาสนคฺคาโห เวทิตพฺโพฯ ทิวสวเสน หิ ติวิโธ เสนาสนคฺคาโห ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโกติฯ วุตฺตญฺเหตํ –
‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, เสนาสนคฺคาหา, ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโกฯ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา ปุริมโก คาเหตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติ (มหาว. ๓๑๘)ฯ
เอเตสุ (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๑๘) ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวรา, อนฺตรามุตฺตโก ปน เสนาสนปฏิชคฺคนตฺถํ ภควตา อนุญฺญาโตฯ ตถา หิ เอกสฺมิํ วิหาเร มหาลาภํ เสนาสนํ โหติ, เสนาสนสามิกา วสฺสูปคตํ ภิกฺขุํ สพฺพปจฺจเยหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺฐหิตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล พหุํ สมณปริกฺขารํ เทนฺติ, มหาเถรา ทูรโตว อาคนฺตฺวา วสฺสูปนายิกทิวเส ตํ
ตํ คาเหนฺเตน สงฺฆตฺเถโร วตฺตพฺโพ ‘‘ภนฺเต, อนฺตรามุตฺตกเสนาสนํ คณฺหถา’’ติฯ สเจ คณฺหาติ
๒๒๓. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อกตํ วา วิหารํ วิปฺปกตํ วา นวกมฺมํ ทาตุํ, ขุทฺทเก วิหาเร กมฺมํ โอโลเกตฺวา ฉปฺปญฺจวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุํ, อฑฺฒโยเค กมฺมํ โอโลเกตฺวา สตฺตฏฺฐวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุํ, มหลฺลเก วิหาเร ปาสาเท วา กมฺมํ โอโลเกตฺวา ทสทฺวาทสวสฺสิกํ นวกมฺมํ ทาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๓) วจนโต อกตํ วิปฺปกตํ วา เสนาสนํ เอกสฺส ภิกฺขุโน อปโลกเนน วา กมฺมวาจาย วา สาเวตฺวา นวกมฺมํ
ทุพฺภิกฺเข ภิกฺขูสุ ปกฺกนฺเตสุ สพฺเพ อาวาสา นสฺสนฺติ, ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา ตโย วา
กุรุนฺทิยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆิเก ปจฺจเย อสติ เอโก ภิกฺขุ ‘ตุยฺหํ เอกมญฺจฏฺฐานํ คเหตฺวา ชคฺคาหี’ติ วตฺตพฺโพฯ สเจ พหุตรํ อิจฺฉติ, ติภาคํ วา อุปฑฺฒภาคํ วา ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํฯ อถ ถมฺภมตฺตเมเวตฺถ อวสิฏฺฐํ, พหุกมฺมํ กาตพฺพนฺติ น อิจฺฉติ, ‘ตุยฺหํ ปุคฺคลิกเมว กตฺวา ชคฺคาหี’ติ ทาตพฺพํฯ เอวมฺปิ หิ ‘สงฺฆสฺส ภณฺฑกฐปนฏฺฐานญฺจ นวกานญฺจ วสนฏฺฐานํ ลภิสฺสตี’ติ ชคฺคาเปตพฺโพฯ เอวํ ชคฺคิโต ปน ตสฺมิํ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก โหติ, มเต สงฺฆิโกวฯ สเจ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุกาโม โหติ, กมฺมํ โอโลเกตฺวา ติภาคํ วา อุปฑฺฒํ วา ปุคฺคลิกํ กตฺวา ชคฺคาเปตพฺโพฯ เอวญฺหิ สทฺธิวิหาริกานํ ทาตุํ ลภติฯ เอวํ ชคฺคนเก ปน อสติ เอกํ อาวาสํ วิสฺสชฺเชตฺวาติอาทินา นเยน ชคฺคาเปตพฺโพ’’ติ วุตฺตํฯ อิทมฺปิ จ อญฺญํ ตตฺเถว วุตฺตํฯ
ทฺเว ภิกฺขู สงฺฆิกภูมิํ คเหตฺวา โสเธตฺวา สงฺฆิกเสนาสนํ กโรนฺติ, เยน สา ภูมิ ปฐมํ คหิตา, โส สามีฯ อุโภปิ ปุคฺคลิกํ กโรนฺติ, โสเยว สามีฯ โส สงฺฆิกํ กโรติ, อิตโร ปุคฺคลิกํ กโรติ, อญฺญํ เจ พหุ เสนาสนฏฺฐานํ อตฺถิ, ปุคฺคลิกํ กโรนฺโตปิ น วาเรตพฺโพฯ อญฺญสฺมิํ ปน ตาทิเส ปติรูเป ฐาเน อสติ
๒๒๔. โย ปน สงฺฆิกํ วลฺลิมตฺตมฺปิ อคฺคเหตฺวา อาหริเมน อุปกรเณน สงฺฆิกาย ภูมิยา ปุคฺคลิกวิหารํ กาเรติ, อุปฑฺฒํ สงฺฆิกํ โหติ, อุปฑฺฒํ ปุคฺคลิกํฯ ปาสาโท เจ โหติ, เหฏฺฐาปาสาโท สงฺฆิโก, อุปริ ปุคฺคลิโกฯ สเจ โย เหฏฺฐาปาสาทํ อิจฺฉติ, เหฏฺฐาปาสาทํ ตสฺส โหติฯ อถ เหฏฺฐา จ อุปริ จ อิจฺฉติ, อุภยตฺถ อุปฑฺฒํ ลภติฯ ทฺเว เสนาสนานิ กาเรติ, เอกํ สงฺฆิกํ, เอกํ ปุคฺคลิกํฯ สเจ วิหาเร อุฏฺฐิเตน ทพฺพสมฺภาเรน กาเรติ, ติภาคํ ลภติฯ สเจ อกตฏฺฐาเน จยํ วา ปมุขํ วา กโรติ พหิกุฏฺเฏ, อุปฑฺฒํ สงฺฆสฺส, อุปฑฺฒํ ตสฺสฯ อถ มหนฺตํ วิสมํ ปูเรตฺวา อปเท ปทํ ทสฺเสตฺวา กตํ โหติ, อนิสฺสโร ตตฺถ สงฺโฆฯ
สเจ
๒๒๕. อยํ จตุปจฺจยสาธารณกถา (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๒๕ ปกฺขิกภตฺตาทิกถา) – สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกน ภิกฺขุนา จีวรกมฺมํ กโรนฺตสฺส ‘‘สูจิํ เทหี’’ติ วทโต เอกา ทีฆา, เอกา รสฺสาติ ทฺเว สูจิโย ทาตพฺพาฯ ‘‘อวิภตฺตํ สงฺฆิกภณฺฑ’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิฯ ปิปฺผลตฺถิกสฺส เอโก ปิปฺผลโก, กนฺตารํ ปฏิปชฺชิตุกามสฺส อุปาหนยุคฬํ, กายพนฺธนตฺถิกสฺส กายพนฺธนํ, ‘‘อํสพทฺธโก เม ชิณฺโณ’’ติ อาคตสฺส อํสพทฺธโก, ปริสฺสาวนตฺถิกสฺส ปริสฺสาวนํ ทาตพฺพํ, ธมฺมกรณตฺถิกสฺส ธมฺมกรโณฯ สเจ ปฏฺฏโก น โหติ, ธมฺมกรโณ ปฏฺฏเกน สทฺธิํ ทาตพฺโพฯ ‘‘อาคนฺตุกปตฺตํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ยาจนฺตสฺส กุสิยา จ อฑฺฒกุสิยา จ ปโหนกํ ทาตพฺพํฯ ‘‘มณฺฑลํ นปฺปโหตี’’ติ อาคตสฺส มณฺฑลํ เอกํ ทาตพฺพํ, อฑฺฒมณฺฑลานิ ทฺเว ทาตพฺพานิ, ทฺเว มณฺฑลานิ ยาจนฺตสฺส น ทาตพฺพานิฯ อนุวาตปริภณฺฑตฺถิกสฺส เอกสฺส จีวรสฺส ปโหนกํ ทาตพฺพํ, สปฺปินวนีตาทิอตฺถิกสฺส คิลานสฺส เอกํ เภสชฺชํ นาฬิมตฺตํ กตฺวา ตโต ตติยโกฏฺฐาโส ทาตพฺโพฯ เอวํ ตีณิ ทิวสานิ ทตฺวา นาฬิยา ปริปุณฺณาย จตุตฺถทิวสโต ปฏฺฐาย สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํ, คุฬปิณฺเฑปิ เอกทิวสํ ตติยภาโค ทาตพฺโพฯ เอวํ ตีหิ ทิวเสหิ นิฏฺฐิเต ปิณฺเฑ ตโต ปรํ สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา ทาตพฺพํฯ สมฺมนฺนิตฺวา ฐปิตยาคุภาชกาทีหิ จ ภาชนียฏฺฐานํ อาคตมนุสฺสานํ อนาปุจฺฉิตฺวาว อุปฑฺฒภาโค ทาตพฺโพฯ อสมฺมเตหิ ปน อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพติฯ
สงฺฆสฺส สนฺตกํ สมฺมเตน วา อาณตฺเตหิ วา อารามิกาทีหิ ทียมานํ, คิหีนญฺจ สนฺตกํ
ปิณฺฑาย
ปาฬิํ อฏฺฐกถญฺเจว, โอโลเกตฺวา วิจกฺขโณ;
สงฺฆิเก ปจฺจเย เอวํ, อปฺปมตฺโตว ภาชเยติฯ
อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห สพฺพาการโต
จตุปจฺจยภาชนียวินิจฺฉยกถา สมตฺตาฯ