๑. ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถา
๑. เอวํ ‘‘ตตฺถ ทิวาเสยฺยาติ ทิวานิปชฺชน’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ มาติกาปเทสุ สมภินิวิฏฺฐสฺส ‘‘ทิวาเสยฺยา’’ติ ปทสฺส ‘‘ทิวานิปชฺชน’’นฺติ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพติ โยชนาฯ ตตฺถ ทิวา-สทฺโท อหวาจโก อาการนฺโต นิปาโตฯ วุตฺตญฺหิ อภิธานปฺปทีปิกายํ ‘‘อานุกูลฺเยตุ สทฺธญฺจ, นตฺตํ โทโส ทิวา ตฺวเห’’ติฯ สยนํ เสยฺยา, กรชกายคตรูปานํ อุทฺธํ อนุคฺคนฺตฺวา ทีฆวเสน วิตฺถารโต ปวตฺตนสงฺขาโต อิริยาปถวิเสโสฯ ทิวากาลสฺมิํ เสยฺยา ทิวาเสยฺยาฯ อรุณุคฺคมนโต ปฏฺฐาย ยาว สูริยตฺถงฺคมนา, เอตสฺมิํ กาเล สยนอิริยาปถกรณนฺติฯ เตนาห ‘‘ทิวานิปชฺชนนฺติ อตฺโถ’’ติฯ
ตตฺราติ ตสฺมิํ ทิวาสยเน อยํ วกฺขมาโน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ โยชนาฯ ‘‘อนุชานามิ…เป.… วจนโต’’ติ (ปารา. ๗๗) อยํ ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทสฺส วินีตวตฺถูสุ อาคโต ภควตา ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตนาติ ทิวา นิปชฺชนฺเตนฯ ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิปชฺชิตุํฯ ‘‘ทิวา…เป.… นิปชฺชิตพฺพนฺติ ญาปฺยํฯ นนุ ปาฬิยํ ‘‘อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ น วุตฺตา, อถ กถเมตฺถ อาปตฺติ วิญฺญายตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺถ จ กิญฺจาปี’’ติอาทิฯ ตตฺถ เอตฺถาติ เอตสฺมิํ ทิวานิปชฺชเนฯ จ-สทฺโท วากฺยารมฺภโชตโก, กิญฺจาปิ-สทฺโท นิปาตสมุทาโย, ยทิปีตฺยตฺโถฯ ปาฬิยํ อยํ นาม อาปตฺตีติ กิญฺจาปิ น วุตฺตา, ปน ตถาปิ อสํวริตฺวา นิปชฺชนฺตสฺส อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. ๑.๗๗) ทุกฺกฏํ ยสฺมา วุตฺตํ, ตสฺมา เอตฺถ อาปตฺติ วิญฺญายตีติ โยชนาฯ เอวํ สนฺเตปิ อสติ ภควโต วจเน กถํ อฏฺฐกถายํ วุตฺตํ สิยาติ อาห ‘‘วิวริตฺวา…เป.… อนุญฺญาตตฺตา’’ติฯ เอเตน ภควโต อนุชานนมฺปิ ตํ อกโรนฺตสฺส อาปตฺติการณํ โหตีติ ทสฺเสติฯ
ตตฺถ ‘‘อุปฺปนฺเน วตฺถุมฺหีติ อิตฺถิยา กตอชฺฌาจารวตฺถุสฺมิ’’นฺติ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๗๗) วุตฺตํ, สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๗๗) ปน ‘‘เมถุนวตฺถุสฺมิํ อุปฺปนฺเน’’ติ วุตฺตํ, โปราณฏีกายมฺปิ ตเมว คเหตฺวา ‘‘อุปฺปนฺเน เมถุนวตฺถุสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ, ตเทตํ วิจาเรตพฺพํ เมถุนลกฺขณสฺส อภาวาฯ นนุ สิกฺขาปทปญฺญาปนํ นาม พุทฺธวิสโย, อถ กสฺมา ‘‘ภควโต’’ติอาทิฯ น เกวลํ อุปาลิตฺเถราทีหิ เอว อฏฺฐกถา ฐปิตา, อถ โข ปาฬิโต จ อตฺถโต จ พุทฺเธน ภควตา วุตฺโตฯ น หิ ภควตา อพฺยากตํ ตนฺติปทํ นาม อตฺถิ, สพฺเพสํเยว อตฺโถ กถิโต, ตสฺมา สมฺพุทฺเธเนว ติณฺณํ ปิฏกานํ อตฺถวณฺณนกฺกโมปิ ภาสิโตติ ทฏฺฐพฺพํฯ ตตฺถ ตตฺถ หิ ภควตา ปวตฺติตา ปกิณฺณกเทสนาเยว อฏฺฐกถาติฯ
กิํ ‘‘อตฺถาปตฺตี’’ติอาทิฯ เอตํ ทุกฺกฏาปตฺติอาปชฺชนํ น เกวลํ อฏฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา เอว สิทฺธํ, อถ โข ‘‘อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) อิมินา ปริวารปาเฐนปิ สิทฺธํ โหตีติ โยชนาฯ กตรสฺมิํ ปน วตฺถุสฺมิํ อิทํ สิกฺขาปทํ วุตฺตนฺติ? ‘‘เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เวสาลิยํ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ ทิวา วิหารคโต ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺโน อโหสิฯ ตสฺส องฺคมงฺคานิ วาตุปตฺถทฺธานิ อเหสุํฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา อิตฺถิโย คนฺธญฺจ มาลญฺจ อาทาย วิหารํ อาคมิํสุ วิหารเปกฺขิกาโยฯ อถ โข ตา อิตฺถิโย ตํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา องฺคชาเต อภินิสีทิตฺวา ยาวทตฺถํ กตฺวา ‘ปุริสุสโภ วตาย’นฺติ วตฺวา คนฺธญฺจ มาลญฺจ อาโรเปตฺวา ปกฺกมิํสุฯ ภิกฺขู กิลินฺนํ ปสฺสิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, อากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ ราเคน, วจฺเจน, ปสฺสาเวน, วาเตน, อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเฐนฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหากาเรหิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติฯ อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ตสฺส ภิกฺขุโน ราเคน องฺคชาตํ กมฺมนิยํ อสฺส, อรหํ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, อนาปตฺติ ภิกฺขเว ตสฺส ภิกฺขุโนฯ อนุชานามิ ภิกฺขเว ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ (ปารา. ๗๗) เอตสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ อิทํ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ
๒. อิทานิ ทฺวารวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘กีทิส’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปริวตฺตกทฺวารเมวาติ สํวรณวิวรณวเสน อิโต จิโต จ ปริวตฺตนโยคฺคทฺวารเมวฯ รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารนฺติ รุกฺขสูจิทฺวารํ กณฺฏกทฺวารญฺจฯ ‘‘รุกฺขสูจิทฺวารกณฺฏกทฺวาร’’มิจฺเจว วา รุกฺขสูจิทฺวารํ นามฯ ปเวสนนิกฺขมนกาเล อปเนตฺวา ถกนโยคฺคํ เอกาย, พหูหิ กณฺฏกทฺวารํ นามฯ คามทฺวารสฺส ปิธานตฺถํ ปทเรน วา กณฺฏกสาขาทีหิ วา กตสฺส กวาฏสฺส อุทุกฺขลปาสกรหิตตาย เอเกน สํวริตุํ วิวริตุญฺจ อสกฺกุเณยฺยสฺส เหฏฺฐา เอกํ จกฺกํ โยเชนฺติ, เยน ปริวตฺตมานกกวาฏํ สุขถกนกํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จกฺกลกยุตฺตทฺวาร’’นฺติฯ จกฺกเมว หิ ลาตพฺพตฺเถน สํวรณวิวรณตฺถาย คเหตพฺพตฺเถน จกฺกลกํ, เตน ยุตฺตกวาฏมฺปิ จกฺกลกํ นาม, เตน ยุตฺตทฺวารํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํฯ
มหาทฺวาเรสุ ปน ทฺเว ตีณิ จกฺกลกานิ โยเชตีติ อาห ‘‘ผลเกสู’’ติอาทิฯ กิฏิกาสูติ เวฬุเปสิกาทีหิ กณฺฏกสาขาทีหิ จ กตถกนเกสุฯ สํสรณกิฏิกทฺวารนฺติ จกฺกลกยนฺเตน สํสรณกิฏิกายุตฺตมหาทฺวารํฯ โคปฺเผตฺวาติ อาวุณิตฺวา, รชฺชูหิ คนฺเถตฺวา วาฯ เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมวาติ เอตฺถ กิลญฺชสาณิทฺวารมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติฯ วชิรพุทฺธิฏีกายํ (วชิร. ฏี. ปาราชิก ๗๖-๗๗) ปน ‘‘ทุสฺสทฺวารํ สาณิทฺวารญฺจ ทุสฺสสาณิทฺวารํฯ ทุสฺสสาณิ กิลญฺชสาณีติอาทินา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ทุสฺสสาณิยเมว สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ, เอกสทิสตฺตา เอกนฺติ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ
๓. เอวํ ทฺวารวิเสสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยตฺตเกน ทฺวารํ สํวุตํ โหติ, ตํ ปมาณํ ทสฺเสตุํ ‘‘กิตฺตเกน’’ตฺยาทิมาหฯ ตตฺถ สูจีติ มชฺเฌ ฉิทฺทํ กตฺวา ปเวสิตาฯ ฆฏิกาติ อุปริ โยชิตาฯ อิทานิ ยตฺถ ทฺวารํ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ ‘‘สเจ พหูนํ วฬญฺชนฏฺฐานํ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ พหูนํ อวฬญฺชนฏฺฐาเนปิ เอกํ อาปุจฺฉิตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยวฯ อถ ภิกฺขู…เป.… นิสินฺนา โหนฺตีติ อิทํ ตตฺถ ภิกฺขูนํ สนฺนิหิตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น เสสอิริยาปถสมงฺคิตานิวตฺตนตฺถํ, ตสฺมา นิปนฺเนปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติฯ นิปชฺชิตฺวา นิทฺทายนฺเต ปน อาโภคํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ อสนฺตปกฺเข ฐิตตฺตา รโห นิสชฺชาย วิย ทฺวารสํวรณํ นาม มาตุคามานํ ปเวสนิวารณตฺถํ อนุญฺญาตนฺติ อาห ‘‘เกวลํ ภิกฺขุนิํ วา’’ติอาทิฯ
เอตฺถ จ ตํ ยุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถปิ โย โย เถรวาโท วา อฏฺฐกถาวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสว ปมาณนฺติ คเหตพฺพนฺติ อิทํ อฏฺฐกถาวจนโต อติเรกํ อาจริยสฺส วจนํฯ อิโต ปุพฺพาปรวจนํ อฏฺฐกถาวจนเมวฯ ตตฺถ ตํ ยุตฺตนฺติ ‘‘กุรุนฺทฏฺฐกถายํ ปน…เป.… น วตฺตตี’’ติ เอวํ…เป.… คเหตพฺพนฺติ ยถา เจตฺถ กุรุนฺทิยํ วุตฺตวจนํ ยุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถปิ วินิจฺฉเย โย โย เถรวาโท วา อฏฺฐกถาวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสว ปมาณนฺติ คเหตพฺพํ, ปุเร วุตฺโต เถรวาโท วา อฏฺฐกถาวาโท วา ปมาณนฺติ น คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ อิทํ วจนํ อฏฺฐาเน วุตฺตํ วิย ทิสฺสติฯ กถํ? ยํ ตาว วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตนฺติฯ ตํ อิมสฺมิํ อาปุจฺฉนอาโภคกรณวินิจฺฉเย อญฺญสฺส อยุตฺตสฺส อฏฺฐกถาวาทสฺส วา เถรวาทสฺส วา อภาวา วตฺตุํ น สกฺกาฯ น หิ ปุพฺพวากฺเย ‘‘ภิกฺขู เอวา’’ติ อวธารณํ กตํ, อถ โข อาสนฺนวเสน วา ปฏฺฐานวเสน วา ‘‘ภิกฺขู จีวรกมฺมํ’’อิจฺจาทิกํเยว วุตฺตํฯ ยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘เอวํ สพฺพตฺถปี’’ตฺยาทิ, ตมฺปิ อโนกาสํฯ อิมสฺมิํ วินิจฺฉเย
อุปริ ปน ‘‘โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตี’’ติ อิมสฺส ปญฺหสฺส วิสฺสชฺชเน มหาปจฺจริวาโท จ กุรุนฺทิวาโท จ มหาอฏฺฐกถาวาโท จาติ ตโย อฏฺฐกถาวาทา อาคตา, เอโก มหาปทุมตฺเถรวาโท, ตสฺมา ตตฺเถว ยุตฺตายุตฺตภาโว จ ปมาณาปมาณภาโว จ คเหตพฺพาคเหตพฺพภาโว จ ทิสฺสติ, ตสฺมา ตสฺมิํเยว ฐาเน วตฺตพฺพํ สิยา, สุวิมลวิปุลปญฺญาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ปน อาจริยาสเภน อวตฺตพฺพฏฺฐาเน วุตฺตํ น สิยา, ตสฺมา อุปริ อฏฺฐกถาวาทสํสนฺทนาวสาเน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ อิมสฺส วจนสฺส ปจฺฉโต วุตฺตํ สิยา, ตํ ปจฺฉา เลขเกหิ ปริวตฺเตตฺวา ลิขิตํ ภเวยฺย, ปาราชิกกณฺฑฏฺฐกถายญฺจ อิทํ วจนํ วุตฺตํฯ ฏีกายญฺจ อิมสฺมิํ ฐาเน น วุตฺตํ, อุปริเยว วุตฺตํ, ‘‘โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ อิมสฺส อฏฺฐกถาวาทสฺส ปจฺฉิมตฺตา โสเยว ปมาณโต คเหตพฺโพฯ ตถา จ วกฺขติ ‘‘สพฺพตฺถ โย โย อฏฺฐกถาวาโท วา เถรวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสเยว ปมาณโต ทฏฺฐพฺโพ’’ติ, ตสฺมา อิทเมตฺถ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํฯ
๔. อิทานิ ทฺวารํ สํวรณสฺส อนฺตราเย สติ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ ทฺวารสฺส’’ตฺยาทิมาหฯ นิสฺเสณิํ อาโรเปตฺวาติ อุปริมตลํ อาโรเปตฺวา วิสงฺขริตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา, ฉฑฺเฑตฺวา วา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติฯ อิทํ เอกาพทฺธตาย วุตฺตํฯ ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานีติ เอตฺถ สเจ เอกสฺมิํ ทฺวาเร กวาฏํ วา นตฺถิ, เหฏฺฐา วุตฺตนเยน สํวริตุํ วา น สกฺกา ทฺวารปาลสฺสาติ ทฺวารโกฏฺฐเก มหาทฺวาเร, นิสฺเสณิมูเล วา ฐตฺวา ทฺวารชคฺคนกสฺสฯ ปจฺฉิมานํ ภาโรติ เอกาพทฺธวเสน อาคจฺฉนฺเต สนฺธาย วุตฺตํฯ อสํวุตทฺวาเร อนฺโตคพฺเภ วาติ โยเชตพฺพํฯ พหิ วาติ คพฺภโต พหิฯ นิปชฺชนกาเลปิ…เป.… วฏฺฏติเยวาติ เอตฺถ ทฺวารชคฺคนกสฺส ตทธีนตฺตา ตทา ตสฺส ตตฺถ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวํ อนุปธาเรตฺวาปิ อาโภคํ กาตุํ วฏฺฏติเยวาติ วทนฺติฯ
เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเตติ เอตฺถ ปริกฺเขปสฺส อุพฺเพธโต ปมาณํ สหเสยฺยปฺปโหนเก วุตฺตสทิสเมวฯ วุตฺตญฺหิ สมนฺตปาสาทิกายํ (ปาจิ. อฏฺฐ. ๕๑) ‘‘ยญฺหิ เสนาสนํ อุปริ ปญฺจหิ ฉทเนหิ อญฺเญน วา เกนจิ สพฺพเมว ปฏิจฺฉนฺนํ, อยํ สพฺพจฺฉนฺนา นาม เสยฺยา…เป.… ยํ ปน เสนาสนํ ภูมิโต ปฏฺฐาย ยาว ฉทนํ อาหจฺจ ปากาเรน วา อญฺเญน วา เกนจิ อนฺตมโส วตฺเถนปิ ปริกฺขิตฺตํ, อยํ สพฺพปริจฺฉนฺนา นาม เสยฺยาฯ ฉทนํ อนาหจฺจ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพเธน ปาการาทินา ปริกฺขิตฺตาปิ สพฺพปริจฺฉนฺนาเยวาติ กุรุนฺทฏฺฐกถายํ วุตฺต’’นฺติฯ ‘‘ทิยฑฺฒหตฺถุพฺเพโธ วฑฺฒกิหตฺเถน คเหตพฺโพ’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๕๑) วิมติวิโนทนิยญฺจ (วิ. วิ. ฏี. ปาจิตฺติย ๒.๕๐-๕๑) วุตฺตํฯ มหาปริเวณนฺติ มหนฺตํ องฺคณํฯ เตน พหุชนสญฺจรณฏฺฐานํ ทสฺเสติฯ เตนาห ‘‘มหาโพธี’’ติอาทิฯ
อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺฐาติ, อนาปตฺติ อนาปตฺติเขตฺตภูตาย รตฺติยา สุทฺธจิตฺเตน นิปนฺนตฺตาฯ ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺตีติ อรุเณ อุคฺคเต ปพุชฺฌิตฺวา อรุณุคฺคมนํ ญตฺวา วา อญตฺวา วา อนุฏฺฐหิตฺวา สยิตสนฺตาเนน สุปติ, อุฏฺฐหิตฺวา
อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺฐหิสฺสามีติ…เป.… อาปตฺติเยวาติ เอตฺถ กทา อสฺส อาปตฺตีติ? วุจฺจเต – น ตาว รตฺติยํ, ‘‘ทิวา อาปชฺชติ, โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) วุตฺตตฺตา อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ วุตฺตทุกฺกฏํ ปน ทิวาสยนทุกฺกฏเมว น โหติ อนาทริยทุกฺกฏตฺตา
สเจ ทฺวารํ สํวริตฺวา อรุเณ อุคฺคเต อุฏฺฐหิสฺสามีติ นิปชฺชติ, ทฺวาเร จ อญฺเญหิ อรุณุคฺคมนกาเล วิวเฏปิ ตสฺส อนาปตฺติเยว ทฺวารปิทหนสฺส รตฺติทิวาภาเคสุ วิเสสาภาวาฯ อาปตฺติอาปชฺชนสฺเสว กาลวิเสโส อิจฺฉิตพฺโพ, น ตปฺปริหารสฺสาติ คเหตพฺพํฯ ‘‘ทฺวารํ สํวริตฺวา รตฺติํ
ยถาปริจฺเฉทเมว วุฏฺฐาตีติ อรุเณ อุคฺคเตเยว วุฏฺฐาติ, อาปตฺติเยวาติ มูลาปตฺติํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อนาทริยอาปตฺติ ปน ปุรารุณา อุฏฺฐิตสฺสปิ ตสฺส โหเตว ‘‘ทุกฺกฏา น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตตฺตาฯ ทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ จ ปุรารุณา อุฏฺฐหิตฺวา มูลาปตฺติยา มุตฺโตปิ อนาทริยทุกฺกฏา น มุจฺจตีติ อธิปฺปาโยฯ
๕. นิทฺทาวเสน นิปชฺชตีติ นิทฺทาภิภูตตาย เอกปสฺเสน นิปชฺชติฯ ‘‘นิทฺทาวเสน นิปชฺชตี’’ติ โวหารวเสน วุตฺตํ, ปาทานํ ปน ภูมิโต อโมจิตตฺตา อยํ นิปนฺโน นาม โหตีติ เตเนว อนาปตฺติ วุตฺตาฯ อปสฺสาย สุปนฺตสฺสาติ กฏิฏฺฐิโต อุทฺธํ ปิฏฺฐิกณฺฏเก อปฺปมตฺตกํ ปเทสํ ภูมิํ อผุสาเปตฺวา สุปนฺตสฺสฯ กฏิฏฺฐิํ ปน ภูมิํ ผุสาเปนฺตสฺส สยนํ นาม น โหติฯ ปิฏฺฐิปสารณลกฺขณา หิ เสยฺยา ทีฆา, วนฺทนาทีสุปิ ติริยํ ปิฏฺฐิกณฺฏกานํ สหสา วุฏฺฐาตีติ ปกฺขลิตา ปติโต วิย สหสา วุฏฺฐาติ, ตสฺสปิ อนาปตฺติ ปตนกฺขเณ อวิสยตฺตา, วิสเย ชาเต สหสา วุฏฺฐิตตฺตา จฯ ยสฺส ปน วิสญฺญิตาย ปจฺฉาปิ อวิสโย เอว, ตสฺส อนาปตฺติเยว ปตนกฺขเณ วิยฯ ตตฺเถว สยติ, น วุฏฺฐาตีติ อิมินา วิสเยปิ อกรณํ ทสฺเสติ, เตเนว ตสฺส อาปตฺตีติ วุตฺตํฯ
อิทานิ ‘‘โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตี’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ มหาปจฺจริยนฺติอาทีสุ ปจฺจรีติ อุฬุมฺปํ วุจฺจติ, ตสฺมิํ นิสีทิตฺวา กตตฺตา ตเมว นามํ ชาตํฯ กุรุนฺทิวลฺลิวิหาโร นาม อตฺถิ, ตตฺถ กตตฺตา กุรุนฺทีติ นามํ ชาตํฯ มหาอฏฺฐกถา นาม สงฺคีติตฺตยมารุฬฺหา เตปิฏกสฺส พุทฺธวจนสฺส อฏฺฐกถาฯ ยา มหามหินฺทตฺเถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภตา, ตมฺพปณฺณิเยหิ เถเรหิ ปจฺฉา สีหฬภาสาย อภิสงฺขตา จ โหติฯ เอกภงฺเคนาติ เอกปสฺสภญฺชเนน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวา เอกปสฺเสน สรีรํ ภญฺชิตฺวา นิปนฺโนติ วุตฺตํ โหติฯ มหาอฏฺฐกถายํ ปน มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธฯ เตน มหาอฏฺฐกถาย ลิขิตมหาปทุมตฺเถรวาเท ‘‘อย’’นฺติ ทสฺเสติฯ ‘‘มุจฺฉิตฺวา ปติตตฺตา อวิสยตฺตา อาปตฺติ น ทิสฺสตี’’ติ เถเรน วุตฺตํฯ อาจริยา ปน ยถา ยกฺขคหิตโก พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต จ ปรวโส โหติ, เอวํ อปรวสตฺตา มุจฺฉิตฺวา ปติโต กญฺจิกาลํ ชานิตฺวา นิปชฺชตีติ อนาปตฺติํ น วทนฺติ, วิสญฺญิเต ปน สติ อนาปตฺติเยวฯ
ทฺเว ชนาติอาทิ มหาอฏฺฐกถายเมว วจนํ, ตเทว ปจฺฉา วุตฺตตฺตา ปมาณํฯ ยกฺขคหิตคฺคหเณเนว เจตฺถ วิสญฺญิภูโตปิ สงฺคหิโต, เอกภงฺเคน นิปนฺโน ปน อนิปนฺนตฺตา อาปตฺติโต มุจฺจติเยวาติ คเหตพฺพํฯ สารตฺถทีปนิยญฺจ (สารตฺถ. ฏี. ๒.๗๗) ‘‘โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ อิมสฺส อฏฺฐกถาวาทสฺส ปจฺฉิมตฺตา โสเยว ปมาณโต คเหตพฺโพ, ตถา จ วกฺขติ ‘‘สพฺพตฺถ โย โย อฏฺฐกถาวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ, โส โสเยว ปมาณโต คเหตพฺโพ’’ติฯ อิมสฺมิํ ฐาเน อิมสฺส อฏฺฐกถาปาฐสฺส อานีตตฺตา อิมสฺมิํ วินยสงฺคหปฺปกรเณปิ
‘‘โก
เกน โส อรุโณ ภเว;
กีทิโส ตสฺส วณฺณา ตุ;
สณฺฐานํ กีทิสํ ภเวฯ
‘‘กิสฺมิํ กาเล จ เทเส จ, อรุโณ สมุคจฺฉติ;
กิํ ปจฺจกฺขสิทฺโธ เอโส, อุทาหุ อนุมานโต’’ติฯ
ตตฺถ โก เอส อรุโณ นามาติ เอตฺถ เอส อรุโณ นาม สูริยสฺส ปภาวิเสโสฯ วุตฺตญฺเหตํ อภิธานปฺปทีปิกายํ –
‘‘สูรสฺโสทยโต ปุพฺพุฏฺฐิตรํสิ สิยารุโณ’’ติ;
ตฏฺฏีกายญฺจ ‘‘สูรสฺส อุทยโต ปุพฺเพ อุฏฺฐิตรํสิ อรุโณ นาม สิยา’’ติฯ วิมติวิโนทนีนามิกายํ วินยฏีกายญฺจ (วิ. วิ. ฏี. ๑.๔๖๓) ‘‘อรุโณติ เจตฺถ สูริยุคฺคมนสฺส ปุเรจโร วฑฺฒนฆนรตฺโต ปภาวิเสโสติ ทฏฺฐพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สูริยปฺปภาเยว อรุโณ นาม, น อญฺโญติ ทฏฺฐพฺพํฯ เกน โส อรุโณ ภเวติ เอตฺถ อรุโณ วณฺโณ อสฺสาติ อรุโณ, กิญฺจิรตฺตวณฺณสมนฺนาคโตติ อตฺโถฯ อถ วา อรติ คจฺฉติ รตฺตวณฺณภาเวน ปวตฺตตีติ อรุโณฯ วุตฺตญฺเหตํ อภิธานปฺปทีปิกาฏีกายํ ‘‘อรุณวณฺณตาย อรติ คจฺฉตีติ อรุโณ’’ติฯ กีทิโส ตสฺส วณฺโณติ เอตฺถ อพฺยตฺตรตฺตวณฺโณ ตสฺส วณฺโณ ภเวฯ วุตฺตญฺหิ อภิธานปฺปทีปิกายํ ‘‘อรุโณ กิญฺจิรตฺโตถา’’ติฯ ตฏฺฏีกายญฺจ นนฺทิมุขิยาติ โอทาตทิสามุขตาย ตุฏฺฐมุขิยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ กถํ ยุชฺเชยฺยาติ, โน น ยุชฺเชยฺยฯ ตตฺถ หิ อรุณุคฺคตกาเล อรุโณภาเสน โอทาตทิสามุขภาโว วุตฺโต, น อรุโณภาสสฺส โอทาตภาโวฯ วุตฺตญฺเหตํ อุทานฏฺฐกถายํ (อุทา. อฏฺฐ. ๒๓) ‘‘นนฺทิมุขิยาติ อรุณสฺส อุคฺคตตฺตา
ชาตกฏฺฐกถายญฺจ –
‘‘ชิฆญฺญรตฺติํ อรุณสฺมิมุหเต;
ยา ทิสฺสติ อุตฺตมรูปวณฺณินี;
ตถูปมา มํ ปฏิภาสิ เทวเต;
อาจิกฺข เม ตํ กตมาสิ อจฺฉรา’’ติฯ (ชา. อฏฺฐ. ๕.๒๑.๒๕๔);
อิมสฺส คาถาย อตฺถวณฺณนายํ ‘‘ตตฺถ ชิฆญฺญรตฺตินฺติ ปจฺฉิมรตฺติํ, รตฺติปริโยสาเนติ อตฺโถฯ อุหเตติ อรุเณ อุคฺคเตฯ ยาติ ยา ปุรตฺถิมา ทิสา รตฺตวณฺณตาย อุตฺตมรูปธรา หุตฺวา ทิสฺสตี’’ติฯ เอวํ อรุณุคฺคตสมเย ปุรตฺถิมทิสาย รตฺตวณฺณตา วุตฺตา, ตสฺมา ตสฺมิํ สมเย อรุณสฺส อุฏฺฐิตตฺตา ปุรตฺถิมาย ทิสาย รตฺตภาโค สูริยาโลกสฺส ปตฺถฏตฺตา เสสทิสานํ โอทาตภาโว วิญฺญายติฯ
สณฺฐานํ กีทิสํ ภเวติ เอตฺถ อรุณสฺส ปาเฏกฺกํ สณฺฐานํ นาม นตฺถิ รสฺมิมตฺตตฺตาฯ ยตฺตกํ ปเทสํ ผรติ, ตตฺตกํ ตสฺส สณฺฐานนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ อถ วา ปุรตฺถิมทิสาสณฺฐานํฯ วุตฺตญฺหิ ชาตกฏฺฐกถายํ (ชา. อฏฺฐ. ๕.๒๑.๒๕๕) ‘‘ปุรตฺถิมทิสา รตฺตวณฺณตาย อุตฺตมรูปธรา หุตฺวา ทิสฺสตี’’ติฯ
กิสฺมิํ กาเล จ เทเส จ, อรุโณ สมุคจฺฉตีติ เอตฺถ เอส อรุโณ สูริยุคฺคมนสฺส ปุเร กาเล ปุรตฺถิมทิสายํ อุคฺคจฺฉติฯ วุตฺตญฺเหตํ อุทานฏฺฐกถายํ (อุทา. อฏฺฐ. ๒๓) ‘‘อุทฺธสฺเต อรุเณติ อุคฺคเต อรุเณ, อรุโณ นาม ปุรตฺถิมทิสายํ สูริโยทยโต ปุเรตรเมว อุฏฺฐิโตภาโส’’ติฯ อภิธานปฺปทีปิกายญฺจ ‘‘สูรสฺโสทยโต ปุพฺพุฏฺฐิตรํสี’’ติฯ
กิํ ปจฺจกฺขสิทฺโธ เอโส, อุทาหุ อนุมานโตติ เอตฺถ อยํ อรุโณ นาม ปจฺจกฺขสิทฺโธ เอว
กสฺมา ปน อิมสฺมิํ ฐาเน อรุณกถา วุตฺตาติ? อิมิสฺสา อรุณกถาย มหาวิสยภาวโตฯ กถํ? อุโปสถิกา อุปาสกา จ อุปาสิกาโย จ อรุณุคฺคมนํ ตถโต
เกจิ ปน ภิกฺขู อฑฺฒรตฺติสมเย ฆฏิสุญฺญตฺตา อฑฺฒรตฺติกาลํ อติกฺกมฺม อญฺญทิวโส โหติ, ตสฺมา ตสฺมิํ กาเล อรุณํ อุฏฺฐิตํ นาม โหตีติ มญฺญมานา อฑฺฒรตฺติํ อติกฺกมฺม ขาทนียโภชนียาทีนิ ภุญฺชนฺติ, เต ปน พุทฺธสมยํ อชานนฺตา เวทสมยเมว มนสิ กโรนฺตา เอวํ กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ ตํกรณํ ปมาณํ น โหติฯ พหโว ปน ภิกฺขู อรุณสฺส ปจฺจกฺขภาวํ อชานนฺตา อนุมานวเสน จินฺติตุญฺจ อสกฺโกนฺตา อนุสฺสววเสเนว ปรวจนํ สทฺทหนฺตา อมฺหากํ อาจริยา อรุณุคฺคมนเวลายํ อุฏฺฐาย คจฺฉนฺตา สูริยุคฺคมนเวลายํ ทฺวิสหสฺสทณฺฑปฺปมาณํ ฐานํ ปาปุณนฺติ, ติสหสฺสทณฺฑปฺปมาณํ ฐานํ ปาปุณนฺตีติ
‘‘ทีฆา
ทีโฆ พาลาน สํสาโร, สทฺธมฺมํ อวิชานต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๖๐);
ตสฺมา อทฺธานํ นาม สพฺเพสํ เอกสทิสํ น โหตีติ อรุณุคฺคมนสฺส ลกฺขณํ ภวิตุํ น สกฺกา, น จ เต อายสฺมนฺโต ปิฏกตฺตยโต กิญฺจิ สาธกภูตํ วจนํ อาหรนฺติ, อสกฺขิกํ อฑฺฑํ กโรนฺติ วิย ยถาชฺฌาสยเมว วทนฺตีติ ปมาณํ น โหติฯ
อญฺเญ ปน –
‘‘อตีตรตฺติยา ยาโม;
ปจฺฉิโมฑฺฒมมุสฺส วา;
ภาวินิยาทิปฺปหาโร;
ตทฑฺฒํ วาชฺชเตหฺย โหติ –
กจฺจายนสารปฺปกรณาคตํ คาถํ วตฺวา อตีตรตฺติยา ปจฺฉิโม ยาโม อชฺช ปริยาปนฺโน, ตสฺมา ปจฺฉิมยามสฺส อาทิโต ปฏฺฐาย อรุณํ อุคฺคจฺฉตี’’ติ วทนฺติฯ อยํ วาโท สการณสญฺญาปกตฺตา ปุริเมหิ พลวา โหติ, เอวํ สนฺเตปิ อยุตฺโตเยวฯ กสฺมา? อยญฺหิ คาถา พาหิรสทฺทสตฺเถ ชงฺคทาสปฺปกรเณ วุตฺตนเยน อชฺช ภวา อชฺชตนีติ วุตฺตอชฺชโวหารสฺส ปวตฺตนกาลํ ทสฺเสตุํ วุตฺตา, น ปิฏกตฺตเย วุตฺตสฺส อรุณุคฺคมนสฺส กาลํ ทสฺเสตุํ, ตสฺมา อญฺญสาธฺยสฺส อญฺญสาธเกน สาธิตตฺตา อยุตฺโตเยวฯ
อปเร ปน ‘‘ปหาโร ยามสญฺญิโต’’ติ อภิธานปฺปทีปิกายํ วุตฺตตฺตา ปหารยามสทฺทานํ เอกตฺถตฺตา ตตฺเถว ‘‘ติยามา สํวรี ภเว’’ติ วุตฺตตฺตา รตฺติยา จ ติยามภาวโต ปาฬิยญฺจ (อุทา. ๔๕; จูฬว. ๓๘๓) ‘‘อภิกฺกนฺตา
สหเสยฺยสิกฺขาปเทปิ (ปาจิ. ๕๒-๕๔) ‘‘อนุปสมฺปนฺเนหิ สห นิวุตฺถภาวปริโมจนตฺถํ ปุรารุณา นิกฺขมิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เอวํ จีวรวิปฺปวาสาทีสุ จ สพฺพตฺถ รตฺติปริโยสาเน อาคมนวเสน อรุณุคฺคมนํ ทสฺสิตํ, น อตีตารุณวเสนาติฯ ชาตกฏฺฐกถายมฺปิ (ชา. อฏฺฐ. ๕.๒๑.๒๕๕) ‘‘รตฺติปริโยสาเนติ อตฺโถ’’ติฯ น เกวลํ มชฺฌิมเทเสสุ รตฺติยาเยว ติปฺปหารภาโว โหติ ‘‘เอกปฺปหาเรนาติ เอตฺถ ปหาโรติ ทิวสสฺส ตติยภาโค วุจฺจตี’’ติ, ตสฺมา เอโก รตฺติทิโว ฉปฺปหาโร โหตีติ วิญฺญายติฯ เอวํ มชฺฌิมเทสโวหาเรน ติยามสงฺขาตสฺส ติปฺปหารสฺส อวสาเน สพฺพรตฺติปริโยสาเน อุฏฺฐิตํ อรุณํ ปจฺจนฺตเทสโวหาเรน ติปฺปหารสฺส อวสาเนติ คเหตฺวา เอกปฺปหาราวเสสกาเล อรุโณ อุคฺคโตติ วุตฺตตฺตา อยมฺปิ วาโท อยุตฺโตเยว โหตีติ ทฏฺฐพฺโพฯ
พหโว
‘เสตรุณญฺจ ปฐมํ, ทุติยํ นนฺทิยาวฏฺฏํ;
ตติยํ ตมฺพวณฺณญฺจ, จตุตฺถํ คทฺรภํ มุข’นฺติฯ –
อิมํ คาถํ นิสฺสาย เอกรตฺติยํ อรุโณ จตุกฺขตฺตุํ อุฏฺฐหติ, ตตฺถ ปฐมํ เสตวณฺณํ โหติ, ทุติยํ นนฺทิยาวฏฺฏปุปฺผวณฺณํ โหติ, ตติยํ ตมฺพวณฺณํ โหติ, จตุตฺถํ คทฺรภมุขวณฺณํ โหตี’’ติ วตฺวา รตฺโตภาสโต ปุเรตรํ อตีตรตฺติกาเลเยว วตฺตนิกฺขิปนาทิกมฺมํ กโรนฺติฯ เตสํ ตํ กรณํ อนิสมฺมการิตํ อาปชฺชติฯ อยญฺหิ คาถา เนว ปาฬิยํ ทิสฺสติ, น อฏฺฐกถายํ, น ฏีกาสุ, เกวลํ นิสฺสเย เอว, นิสฺสเยสุ จ เอกสฺมิํเยว ขุทฺทสิกฺขานิสฺสเย ทิสฺสติ, น อญฺญนิสฺสเยสุ, ตตฺถาปิ เนว ปุพฺพาปรสมฺพนฺโธ ทิสฺสติ, น เหตุผลาทิภาโว, น จ ลิงฺคนิยโมติ น นิสฺสยการาจริเยน ฐปิตา ภเวยฺย, อถ โข ปจฺฉา อญฺเญหิ เลขเกหิ วา อตฺตโน อิจฺฉานุรูปํ ลิขิตา ภเวยฺย, ตสฺมา อยํ คาถา กุโต อาภตา ปาฬิโต วา อฏฺฐกถาโต
ตตฺรายํ ปาฬิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน พุทฺโธ ภควา สีตาสุ เหมนฺติกาสุ รตฺตีสุ อนฺตรฏฺฐกาสุ หิมปาตสมเย รตฺติํ อชฺโฌกาเส เอกจีวโร นิสีทิ, น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปฐเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ, ทุติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิ, น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต มชฺฌิเม ยาเม สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ, ตติยํ ภควา จีวรํ ปารุปิ, น ภควนฺตํ สีตํ อโหสิฯ นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา สีตํ ภควนฺตํ อโหสิ, จตุตฺถํ ภควา จีวรํ ปารุปิ, น ภควนฺตํ สีตํ อโหสี’’ติฯ อยํ มหาวคฺเค (มหาว. ๓๔๖) จีวรกฺขนฺธกาคตา วินยปาฬิฯ ปาฬิยํ นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺฐิมุขิยา, ปสนฺนทิสามุขายาติ อตฺโถฯ อยํ ตํสํวณฺณนาย วิมติวิโนทนีปาโฐ (วิ. วิ. ฏี. มหาวคฺค ๒.๓๔๖)ฯ
‘‘เตน โข ปน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเท
นนฺทิมุขิยา รตฺติยาติ อรุณุฏฺฐิตกาเล ปีติมุขา วิย รตฺติ ขายติฯ เตนาห ‘‘นนฺทิมุขิยา’’ติ (จูฬว. อฏฺฐ. ๓๘๓) อยํ ตํสํวณฺณนาภูตสมนฺตปาสาทิกฏฺฐกถาปาโฐฯ อภิกฺกนฺตาติ ปริกฺขีณาฯ อุทฺธสฺเต อรุเณติ อุคฺคเต อรุณสีเสฯ นนฺทิมุขิยาติ ตุฏฺฐิมุขิยาฯ อยํ ตํสํวณฺณนาภูตสารตฺถทีปนีปาโฐ (สารตฺถ. ฏี. จูฬวคฺค ๓.๓๘๓)ฯ ปาฬิยํ นนฺทิมุขิยาติ โอทาตทิสามุขิตาย ตุฏฺฐมุขิยาฯ อยํ ตํสํวณฺณนาย (วิ. วิ. ฏี. จูฬวคฺค ๒.๒๘๓) วิมติวิโนทนีปาโฐฯ
‘‘ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานนฺโท อภิกฺกนฺตายรตฺติยา นิกฺขนฺเต ปจฺฉิเม ยาเม อุทฺธสฺเต อรุเณ นนฺทิมุขิยา รตฺติยา อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – อภิกฺกนฺตา, ภนฺเต, รตฺติ, นิกฺขนฺโต ปจฺฉิโม ยาโม, อุทฺธสฺโต อรุโณ, นนฺทิมุขี รตฺติ, จิรนิสินฺนา อาคนฺตุกา ภิกฺขู, ปฏิสมฺโมทตุ, ภนฺเต, ภควา อุทฺธสฺเต อรุเณติ อุคฺคเต อรุเณฯ อรุโณ นาม ปุรตฺถิมทิสายํ สูริโยทยโต ปุเรตรเมว อุฏฺฐิโตภาโสฯ นนฺทิมุขิยา รตฺติยาติ อรุณสฺส อุคฺคตตฺตา เอว อรุโณภาย สูริยาโลกูปชีวิโน สตฺเต นนฺทาปนมุขิยา รตฺติยา ชาตาย, วิภายมานายาติ อตฺโถฯ อยํ ตํสํวณฺณนาภูตา อุทานฏฺฐกถา (อุทา. อฏฺฐ. ๒๓)ฯ
อิติ เอตฺตกาสุ วินยสุตฺตนฺตาคตาสุ ปาฬิยฏฺฐกถาฏีกาสุ เอกสฺมิมฺปิฐาเน อรุโณ จตุกฺขตฺตุํ อุคฺคโตติ นตฺถิ, เอกวารเมว วุตฺโตฯ จตุพฺพิธวณฺณสมนฺนาคโตติปิ นตฺถิ, เอกวณฺโณ เอว วุตฺโตฯ ชาตกฏฺฐกถายมฺปิ (ชา. อฏฺฐ. ๕.๒๑.๒๕๕) รตฺตวณฺโณ เอว วุตฺโต, น เสตวณฺณาทิโกฯ นนฺทิมุขีติ จ สตฺเต นนฺทาปนทิสามุขี รตฺติ เอว วุตฺตา, น อรุณสฺส นนฺทิยาวฏฺฏปุปฺผสทิสวณฺณตาฯ เตนาห ‘‘สตฺเต นนฺทาปนมุขิยา รตฺติยา’’ติฯ เอวํ อภิธานปฺปทีปิกาปกรณวจเนน วิรุทฺธตฺตา ปาฬิยฏฺฐกถาทีหิ อสํสนฺทนโต ทุพฺพลสาธกตฺตา จ อยมฺปิ วาโท อยุตฺโตเยวาติ ทฏฺฐพฺโพ, ตสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อาณํ อนติกฺกนฺเตน ลชฺชิภิกฺขุนา ยทิ เกนจิ อปฺปฏิจฺฉนฺเน วิวโฏกาเส โหติ, มจฺฉกฺขิสมานอพฺยตฺตรตฺโตภาสสฺส ปญฺญายมานกาลโต ปฏฺฐาย วตฺตนิกฺขิปนาทิกมฺมํ กาตพฺพํฯ
ยทิ ปน ปพฺพตาทินา ปฏิจฺฉนฺนฏฺฐานํ โหติ, ยตฺตเกน กาเลน วิวฏฏฺฐาเน รตฺโตภาโส ปญฺญายติ, สูริยมณฺฑลสฺส ทิสฺสนกาลโต เอกฆฏิกามตฺเตน วา ทฺวิฆฏิกามตฺเตน วา ตตฺตกํ กาลํ สลฺลกฺเขตฺวา อิมสฺมิํ กาเล อรุโณ อุคฺคโต ภเวยฺยาติ ตกฺเกตฺวา กาตพฺพํ, สํสยํ อนิจฺฉนฺเตน ตโตปิ กญฺจิกาลํ อธิวาเสตฺวา นิสฺสํสยกาเล กตฺตพฺพํ, อยํ ตตฺถ
วิสุทฺธตฺถาย สีลสฺส, ภิกฺขูนํ ปิยสีลินํ;
กตารุณกถา เอสา, น สารมฺภาทิการณาฯ
ตสฺมา
อยุตฺตญฺเจ ฉฑฺฑยนฺตุ, มา โหนฺตุ ทุมฺมนาทโยติฯ
อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร
ทิวาเสยฺยวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม
ปฐโม ปริจฺเฉโทฯ