๓. ปญฺจงฺคิกวคฺโค
๑. ปฐมอคารวสุตฺตํ
๒๑. ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อสภาควุตฺติโก ‘สพฺรหฺมจารีสุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา เสขํ เสกฺขํ (ก.) ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘เสขํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘สีลานิ อปริปูเรตฺวา สมฺมาทิฏฺฐิํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘สมฺมาทิฏฺฐิํ อปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธิํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส สภาควุตฺติโก ‘สพฺรหฺมจารีสุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘สีลานิ ปริปูเรตฺวา สมฺมาทิฏฺฐิํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘สมฺมาทิฏฺฐิํ ปริปูเรตฺวา สมฺมาสมาธิํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชตี’’ติฯ ปฐมํฯ
๒. ทุติยอคารวสุตฺตํ
๒๒. ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อคารโว อปฺปติสฺโส อสภาควุตฺติโก ‘สพฺรหฺมจารีสุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘เสขํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘สีลกฺขนฺธํ อปริปูเรตฺวา สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ‘สมาธิกฺขนฺธํ อปริปูเรตฺวา ปญฺญากฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส สภาควุตฺติโก ‘สพฺรหฺมจารีสุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ เสขํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘สีลกฺขนฺธํ ปริปูเรตฺวา สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชติฯ ‘สมาธิกฺขนฺธํ ปริปูเรตฺวา ปญฺญากฺขนฺธํ ปริปูเรสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชตี’’ติฯ ทุติยํฯ
๓. อุปกฺกิเลสสุตฺตํ
๒๓. ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, ชาตรูปสฺส อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺฐํ ชาตรูปํ น เจว มุทุ โหติ น จ กมฺมนิยํ น จ ปภสฺสรํ ปภงฺคุ จ น จ สมฺมา อุเปติ กมฺมายฯ กตเม ปญฺจ? อโย, โลหํ, ติปุ, สีสํ, สชฺฌํ สชฺฌุ (สี.) – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ ชาตรูปสฺส อุปกฺกิเลสา , เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺฐํ ชาตรูปํ น เจว มุทุ โหติ น จ กมฺมนิยํ น จ ปภสฺสรํ ปภงฺคุ จ น จ สมฺมา อุเปติ กมฺมายฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ชาตรูปํ อิเมหิ ปญฺจหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตํ วิปฺปมุตฺตํ (สี.) โหติ, ตํ โหติ ชาตรูปํ มุทุ จ กมฺมนิยญฺจ ปภสฺสรญฺจ น จ ปภงฺคุ สมฺมา อุเปติ กมฺมายฯ ยสฺสา ยสฺสา จ ยสฺส กสฺสจิ (สฺยา. ปี.) ปิฬนฺธนวิกติยา อากงฺขติ – ยทิ มุทฺทิกาย ยทิ กุณฺฑลาย ยทิ คีเวยฺยกาย คีเวยฺยเกน (สฺยา. กํ. ก., อ. นิ. ๓.๑๐๒) ยทิ สุวณฺณมาลาย – ตญฺจสฺส อตฺถํ อนุโภติฯ
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจิเม จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺฐํ จิตฺตํ น เจว มุทุ โหติ น จ กมฺมนิยํ น จ ปภสฺสรํ ปภงฺคุ จ น จ สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยายฯ กตเม ปญฺจ? กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท, ถินมิทฺธํ ถีนมิทฺธํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉา – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ จิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺฐํ จิตฺตํ น เจว มุทุ โหติ น จ กมฺมนิยํ น จ ปภสฺสรํ ปภงฺคุ จ น จ สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยายฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, จิตฺตํ อิเมหิ ปญฺจหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิมุตฺตํ โหติ, ตํ โหติ จิตฺตํ มุทุ จ กมฺมนิยญฺจ ปภสฺสรญฺจ น จ ปภงฺคุ สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยายฯ ยสฺส ยสฺส จ อภิญฺญาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิญฺญาสจฺฉิกิริยาย ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก อสฺสํ; อาวิภาวํ, ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กเรยฺยํ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาโน คจฺเฉยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กเมยฺยํ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย จนฺทิมสุริเย (สี. สฺยา. กํ. ปี.) เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมเสยฺยํ ปรามเสยฺยํ (ก.) ปริมชฺเชยฺยํ ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุเณยฺยํ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโทสํ วา จิตฺตํ สโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ วีตโทสํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโมหํ วา จิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ วีตโมหํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ สํขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, มหคฺคตํ วา จิตฺตํ มหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ อมหคฺคตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ สอุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ อนุตฺตรํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาหิตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ อสมาหิตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ เสยฺยถีทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.) – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํ; ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ, อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺยํ – อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา; อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺฐิกา สมฺมาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนาติ, อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺเสยฺยํ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน’’ติฯ ตติยํฯ
๔. ทุสฺสีลสุตฺตํ
๒๔. อ. นิ. ๕.๑๖๘; ๖.๕๐; ๗.๖๕ ‘‘ทุสฺสีลสฺส , ภิกฺขเว, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตญาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโนฯ ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติ, ตโจปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติ, สาโรปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตญาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ
‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน สติ ยถาภูตญาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, รุกฺโข สาขาปลาสสมฺปนฺโนฯ ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูริํ คจฺฉติ, ตโจปิ ปาริปูริํ คจฺฉติ, เผคฺคุปิ ปาริปูริํ คจฺฉติ, สาโรปิ ปาริปูริํ คจฺฉติ; เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน สติ ยถาภูตญาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสน’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ
๕. อนุคฺคหิตสุตฺตํ
๒๕. ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฏฺฐิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปญฺญาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปญฺญาวิมุตฺติผลานิสํสา จฯ
‘‘กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ , ภิกฺขเว, สมฺมาทิฏฺฐิ สีลานุคฺคหิตา จ โหติ, สุตานุคฺคหิตา จ โหติ, สากจฺฉานุคฺคหิตา จ โหติ, สมถานุคฺคหิตา จ โหติ, วิปสฺสนานุคฺคหิตา จ โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ องฺเคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฏฺฐิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปญฺญาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปญฺญาวิมุตฺติผลานิสํสา จา’’ติฯ ปญฺจมํฯ
๖. วิมุตฺตายตนสุตฺตํ
๒๖. ‘‘ปญฺจิมานิ , ภิกฺขเว, วิมุตฺตายตนานิ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘กตมานิ ปญฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารีฯ ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ตสฺส ภิกฺขุโน สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ปามุชฺชํ (สี. สฺยา. กํ.) ที. นิ. ๓.๓๒๒ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ เวทิยติ (สี.)ฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปฐมํ วิมุตฺตายตนํ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติฯ ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ วิมุตฺตายตนํ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติฯ ยถา ยถา, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ วิมุตฺตายตนํ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน…เป.… โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ, อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ; อปิ จ โข ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติฯ ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ วิมุตฺตายตนํ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน น เหว โข สตฺถา ธมฺมํ เทเสติ อญฺญตโร วา ครุฏฺฐานิโย สพฺรหฺมจารี, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสติ , นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน สชฺฌายํ กโรติ, นาปิ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ เจตสา อนุวิตกฺเกติ อนุวิจาเรติ มนสานุเปกฺขติ; อปิ จ ขฺวสฺส อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปญฺญายฯ ยถา ยถา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อญฺญตรํ สมาธินิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปญฺญาย ตถา ตถา โส ตสฺมิํ ธมฺเม อตฺถปฏิสํเวที จ โหติ ธมฺมปฏิสํเวที จฯ ตสฺส อตฺถปฏิสํเวทิโน ธมฺมปฏิสํเวทิโน ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติฯ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติฯ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปญฺจมํ วิมุตฺตายตนํ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาติฯ
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ วิมุตฺตายตนานิ ยตฺถ ภิกฺขุโน อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อปริกฺขีณา วา อาสวา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺติ, อนนุปฺปตฺตํ วา อนุตฺตรํ โยคกฺเขมํ อนุปาปุณาตี’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ
๗. สมาธิสุตฺตํ
๒๗. ‘‘สมาธิํ, ภิกฺขเว, ภาเวถ อปฺปมาณํ นิปกา ปติสฺสตาฯ สมาธิํ, ภิกฺขเว, ภาวยตํ อปฺปมาณํ นิปกานํ ปติสฺสตานํ ปญฺจ ญาณานิ ปจฺจตฺตญฺเญว อุปฺปชฺชนฺติฯ กตมานิ ปญฺจ? ‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติญฺจ สุขวิปาโก’ติ ปจฺจตฺตญฺเญว ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ‘อยํ สมาธิ อริโย นิรามิโส’ติ ปจฺจตฺตญฺเญว ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ‘อยํ สมาธิ อกาปุริสเสวิโต’ติ มหาปุริสเสวิโตติ (ก.) ปจฺจตฺตญฺเญว ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ‘อยํ สมาธิ สนฺโต ปณีโต ปฏิปฺปสฺสทฺธลทฺโธ เอโกทิภาวาธิคโต, น สงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต’ติ น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตปฺปติโตติ (สี.), น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตปตฺโตติ (สฺยา.), น จ สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริวาวโฏติ (ก.), น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริยาธิคโตติ (?) ที. นิ. ๓.๓๕๕; อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๙.๒๗ ปจฺจตฺตญฺเญว ญาณํ อุปฺปชฺชติ, ‘สโต โข ปนาหํ อิมํ สมาปชฺชามิ สโต วุฏฺฐหามี’ติ โส โข ปนาหํ อิมํ สมาธิํ สโตว สมาปชฺชามิ, สโต อุฏฺฐหามีติ (สี. สฺยา. กํ.) ปจฺจตฺตญฺเญว ญาณํ อุปฺปชฺชติฯ
‘‘สมาธิํ, ภิกฺขเว, ภาเวถ อปฺปมาณํ นิปกา ปติสฺสตาฯ สมาธิํ, ภิกฺขเว, ภาวยตํ อปฺปมาณํ นิปกานํ ปติสฺสตานํ อิมานิ ปญฺจ ญาณานิ ปจฺจตฺตญฺเญว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติฯ สตฺตมํฯ
๘. ปญฺจงฺคิกสุตฺตํ
๒๘. ‘‘อริยสฺส , ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส ภาวนํ เทเสสฺสามิฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, อริยสฺส ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส ภาวนา? อิธ, ภิกฺขเว , ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทกฺโข นฺหาปโก นหาปโก (สี. ปี.) วา นฺหาปกนฺเตวาสี วา กํสถาเล นฺหานียจุณฺณานิ นหานียจุณฺณานิ (สี. ปี.) อากิริตฺวา อุทเกน ปริปฺโผสกํ ปริปฺโผสกํ สนฺเนยฺยฯ สายํ นฺหานียปิณฺฑิ สาสฺส นหานียปิณฺฑี (สี. สฺยา. กํ.) สฺเนหานุคตา สฺเนหปเรตา สนฺตรพาหิรา ผุฏา สฺเนเหน, น จ ปคฺฆรินีฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ อริยสฺส, ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส อยํ ปฐมา ภาวนาฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป.… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกรหโท คมฺภีโร อุพฺภิโททโก อุพฺภิโตทโก (สฺยา. กํ. ก.)ฯ ตสฺส เนวสฺส ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ปจฺฉิมาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น อุตฺตราย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, น ทกฺขิณาย ทิสาย อุทกสฺส อายมุขํ, เทโว จ กาเลน กาลํ สมฺมา ธารํ นานุปฺปเวจฺเฉยฺย เทโว จ น กาเลน… อนุปเวจฺเฉยฺย (ที. นิ. ๑.๒๒๗ อาทโย; ม. นิ. ๒.๒๕๑ อาทโยฯ อถ โข ตมฺหาว อุทกรหทา สีตา วาริธารา อุพฺภิชฺชิตฺวา ตเมว อุทกรหทํ สีเตน วารินา อภิสนฺเทยฺย ปริสนฺเทยฺย ปริปูเรยฺย ปริปฺผเรยฺย; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต อุทกรหทสฺส สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ สมาธิเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส สมาธิเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ อริยสฺส, ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส อยํ ทุติยา ภาวนาฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีติยา จ วิราคา…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิฯ ตานิ ยาว จคฺคา ยาว จ มูลา สีเตน วารินา อภิสนฺนานิ ปริสนฺนานิ ปริปูรานิ ปริปฺผุฏานิ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวตํ อุปฺปลานํ วา ปทุมานํ วา ปุณฺฑรีกานํ วา สีเตน วารินา อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ นิปฺปีติเกน สุเขน อภิสนฺเทติ ปริสนฺเทติ ปริปูเรติ ปริปฺผรติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส นิปฺปีติเกน สุเขน อปฺผุฏํ โหติฯ อริยสฺส, ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส อยํ ตติยา ภาวนาฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา …เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ โส อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส โอทาเตน วตฺเถน สสีสํ ปารุปิตฺวา นิสินฺโน อสฺส; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส โอทาเตน วตฺเถน อปฺผุฏํ อสฺสฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน ผริตฺวา นิสินฺโน โหติ; นาสฺส กิญฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส ปริสุทฺเธน เจตสา ปริโยทาเตน อปฺผุฏํ โหติฯ อริยสฺส, ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส อยํ จตุตฺถา ภาวนาฯ
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปญฺญายฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อญฺโญว อญฺญํ อญฺโญ วา อญฺญํ วา (สี.), อญฺโญ วา อญฺญํ (สฺยา. กํ.), อญฺโญ อญฺญํ (?) ปจฺจเวกฺเขยฺย, ฐิโต วา นิสินฺนํ ปจฺจเวกฺเขยฺย, นิสินฺโน วา นิปนฺนํ ปจฺจเวกฺเขยฺยฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปจฺจเวกฺขณานิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ สุปฺปฏิวิทฺธํ ปญฺญายฯ อริยสฺส, ภิกฺขเว, ปญฺจงฺคิกสฺส สมฺมาสมาธิสฺส อยํ ปญฺจมา ปญฺจมี (สี.) ภาวนาฯ เอวํ ภาวิเต โข , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ภาวิเต โข ภิกฺขเว (สี.) อริเย ปญฺจงฺคิเก สมฺมาสมาธิมฺหิ เอวํ พหุลีกเต ยสฺส ยสฺส อภิญฺญาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิญฺญาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อุทกมณิโก อาธาเร ฐปิโต ปูโร อุทกสฺส สมติตฺติโก กากเปยฺโย ฯ ตเมนํ พลวา ปุริโส ยโต ยโต อาวชฺเชยฺย อาวฏฺเฏยฺย (สฺยา. กํ.), อาคจฺเฉยฺย อุทก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ ฯ ‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ภาวิเต อริเย ปญฺจงฺคิเก สมฺมาสมาธิมฺหิ เอวํ พหุลีกเต ยสฺส ยสฺส อภิญฺญาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิญฺญาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สเม ภูมิภาเค โปกฺขรณี จตุรํสา อาลิพทฺธา ปูรา อุทกสฺส สมติตฺติกา กากเปยฺยาฯ ตเมนํ พลวา ปุริโส ยโต ยโต อาลิํ มุญฺเจยฺย, อาคจฺเฉยฺย อุทก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ภาวิเต อริเย ปญฺจงฺคิเก สมฺมาสมาธิมฺหิ เอวํ พหุลีกเต ยสฺส ยสฺส อภิญฺญาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส…เป.… สติ สติ อายตเนฯ
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุภูมิยํ จตุมหาปเถ จาตุมฺมหาปเถ (สี. ปี.), จตุมฺมหาปเถ (สฺยา. กํ.) อาชญฺญรโถ ยุตฺโต อสฺส ฐิโต โอธสฺตปโตโท ฯ ตเมนํ ทกฺโข โยคฺคาจริโย อสฺสทมฺมสารถิ อภิรุหิตฺวา วาเมน หตฺเถน รสฺมิโย คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ปโตทํ คเหตฺวา เยนิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ สาเรยฺยปิ ปจฺจาสาเรยฺยปิฯ เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ภาวิเต อริเย ปญฺจงฺคิเก สมฺมาสมาธิมฺหิ เอวํ พหุลีกเต ยสฺส ยสฺส อภิญฺญาสจฺฉิกรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิญฺญาสจฺฉิกิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุภเวยฺยํ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา อสฺสํ…เป.… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุเณยฺยํ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จา’ติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อกงฺขติ – ‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชาเนยฺยํ – สราคํ วา จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, วีตราคํ วา จิตฺตํ วีตราคํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺยํ, สโทสํ วา จิตฺตํ… วีตโทสํ วา จิตฺตํ… สโมหํ วา จิตฺตํ… วีตโมหํ วา จิตฺตํ… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ… สมาหิตํ วา จิตฺตํ… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺยํ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ, ทฺเวปิ ชาติโย…เป.… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน…เป.… ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชาเนยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเนฯ
‘‘โส สเจ อากงฺขติ – ‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน’’ติฯ อฏฺฐมํฯ
๙. จงฺกมสุตฺตํ
๒๙. ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, จงฺกเม อานิสํสาฯ กตเม ปญฺจ? อทฺธานกฺขโม โหติ, ปธานกฺขโม โหติ, อปฺปาพาโธ โหติ, อสิตํ ปีตํ ขายิตํ สายิตํ สมฺมา ปริณามํ คจฺฉติ, จงฺกมาธิคโต สมาธิ จิรฏฺฐิติโก โหติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ จงฺกเม อานิสํสา’’ติฯ นวมํฯ
๑๐. นาคิตสุตฺตํ
๓๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน อิจฺฉานงฺคลํ นาม โกสลานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑฯ อสฺโสสุํ โข อิจฺฉานงฺคลกา อิจฺฉานงฺคลิกา (สี.) อ. นิ. ๖.๔๒; อ. นิ. ๘.๘๖ พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ โภ โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต อิจฺฉานงฺคลํ อนุปฺปตฺโต; อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสณฺเฑฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ, สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ อถ โข อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย เยน อิจฺฉานงฺคลวนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺฐเก อฏฺฐํสุ อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทาฯ
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา นาคิโต ภควโต อุปฏฺฐาโก โหติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ นาคิตํ อามนฺเตสิ – ‘‘เก ปน โข, นาคิต, อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา, เกวฏฺฏา มญฺเญ มจฺฉวิโลเป’’ติ? ‘‘เอเต, ภนฺเต, อิจฺฉานงฺคลกา พฺราหฺมณคหปติกา ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ อาทาย พหิทฺวารโกฏฺฐเก ฐิตา ภควนฺตญฺเญว อุทฺทิสฺส ภิกฺขุสงฺฆญฺจา’’ติฯ ‘‘มาหํ, นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโสฯ โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ โส ตํ โสหํ (ก.), โส (สฺยา. กํ.) มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺยา’’ติฯ
‘‘อธิวาเสตุ ทานิ, ภนฺเต, ภควา, อธิวาเสตุ สุคโต; อธิวาสนกาโล ทานิ, ภนฺเต, ภควโตฯ เยน เยเนว ทานิ ภควา คมิสฺสติ ตํนินฺนาว คมิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จฯ เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, ถุลฺลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต ยถานินฺนํ อุทกานิ ปวตฺตนฺติ; เอวเมวํ โข, ภนฺเต, เยน เยเนว ทานิ ภควา คมิสฺสติ, ตํนินฺนาว คมิสฺสนฺติ พฺราหฺมณคหปติกา เนคมา เจว ชานปทา จฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ, ภนฺเต, ภควโต สีลปญฺญาณ’’นฺติฯ
‘‘มาหํ , นาคิต, ยเสน สมาคมํ, มา จ มยา ยโสฯ โย โข, นาคิต, นยิมสฺส เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อสฺส อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี, ยสฺสาหํ เนกฺขมฺมสุขสฺส ปวิเวกสุขสฺส อุปสมสุขสฺส สมฺโพธสุขสฺส นิกามลาภี อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ โส ตํ มีฬฺหสุขํ มิทฺธสุขํ ลาภสกฺการสิโลกสุขํ สาทิเยยฺยฯ อสิตปีตขายิตสายิตสฺส โข, นาคิต, อุจฺจารปสฺสาโว – เอโส ตสฺส นิสฺสนฺโทฯ ปิยานํ โข, นาคิต, วิปริณามญฺญถาภาวา อุปฺปชฺชนฺติ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา – เอโส ตสฺส นิสฺสนฺโทฯ อสุภนิมิตฺตานุโยคํ อนุยุตฺตสฺส โข, นาคิต, สุภนิมิตฺเต ปาฏิกุลฺยตา ปฏิกฺกูลตา (สี.), ปฏิกฺกูลฺยตา (สฺยา. กํ.) สณฺฐาติ – เอโส ตสฺส นิสฺสนฺโทฯ ฉสุ โข, นาคิต, ผสฺสายตเนสุ อนิจฺจานุปสฺสิโน วิหรโต ผสฺเส ปาฏิกุลฺยตา สณฺฐาติ – เอโส ตสฺส นิสฺสนฺโทฯ ปญฺจสุ โข, นาคิต, อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต อุปาทาเน ปาฏิกุลฺยตา สณฺฐาติ – เอโส ตสฺส นิสฺสนฺโท’’ติฯ ทสมํฯ
ปญฺจงฺคิกวคฺโค ตติโยฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว อคารวุปกฺกิเลสา, ทุสฺสีลานุคฺคหิเตน จ;
วิมุตฺติสมาธิปญฺจงฺคิกา, จงฺกมํ นาคิเตน จาติฯ